- 15 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.deepsnews.com
กำลังเป็นปมปัญหาในสังคมไทย กับ อัตราการเกิดของเด็กที่ลดลง ล่าสุดปี 59 พบเกิดเพียง 6.6 แสนคน ในขณะที่ประเทศเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดย 1ใน3 เป็นคนจน และมีโรคประจำตัว ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบเศรษกิจและสังคมในภาพรวม
เรื่องดังกล่าวจึงเป็นอีกวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่จะต้องเตรียมแก้ปัญหาระยะยาว หามาตรการรับมือ พัฒนาเด็กเกิดใหม่ให้มีคุณภาพเพื่อจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ เพราะเด็ก 1 คน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ต้องดูแลผู้สูงอายุ 4 คน
นั่นจึงป็นที่มา ของโครงการสานพลังเพื่ออนาคตประเทศไทย ยุคเด็กเกิดน้อย สังคมสูงวัย ที่พล.อ ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลงานด้านสาธารณสุข ผนึกกำลังหน่วยงานต่างๆออกแบบนวัตกรรม มาตรการ และนวัตกรรม ที่เหมาะกับสังคมไทย ในการรับมือโครงสร้างประขากรที่ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจและสังคม เพราะสถิติการเกิดของเด็ก แต่ละปี ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย ปี 2555 มีเด็กเกิดใหม่ ประมาณ7.8 แสนคน / ปี2559 6.6 แสนคน และคาดว่าในปี2583 จะมีเด็กเกิดใหม่ เกิน5 แสนคน
ขณะที่ผู้สูงอายุขณะนี้มี 18% และในอีก2 ปีจะเพิ่มเป็น20% เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และที่สำคัญ 1ใน 3 ของผู้สูงอายุจะมีรายได้ไม่ถึง 3หมื่นบาท ต่อปี และ 60 % ยังเป็นโรคเบาหวานและความดัน จึงเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่จะต้องหามาตรการรับมือ โดยขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันหาวิธีพัฒนาเด็กเกิดใหม่ที่มีจำนวนน้อยให้มีคุณภาพ เพื่อจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ เพราะเด็ก 1 คน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ต้องดูแลผู้สูงอายุ 4 คน
โดยโครงการเด็กเกิดน้อยสังคมสูงอายุ. วันนี้เป็นการสานต่อจากโครงการสาวไทยแก้มแดง ซึ่งเป็นการเตรียมตัวให้ผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ดูแลสุขภาพ ให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์เพือเด็กที่เกิดมาจะได้มีคุณภาพ โดยมาตรการที่จะทำคือ
1.สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้ประชาชน โดยใช้สื่อทันสมัยเข้าถึงง่าย มีการแสกนคิวอาโค้ดได้
2.พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพก่อนแต่งงาน และหลังคลอดลูก
3. ส่งเสริมบทบาทหญิงชายให้ช่วยกันเลี้ยงลูก
4.ปรับทัศนคติมุมมองเชิงบวกเรื่องการมีลูกเป็นความอบอุ่นเป็นสายใยรัก แทนการมองว่าเป็นภาระ
5. สนับสนุนมาตรการทางภาษีเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายดูแลลูก 6. พัฒนารวมถึงขยายสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยลดภาระระหว่างทำงาน ขณะที่ผู้สูงอายุก็ต้องส่งเสริมให้มีการออม โดยจะต้องไม่จนก่อนแก่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวได้