ส่งกำลังใจให้คนดี…เปิดหัวใจหญิงแกร่ง:ดร.กุ้ง!?! แม้ป่วยก็ยังทำงาน ลั่นวาจาคดีเปรมชัย ไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้ เมื่อเสือดำตายด้วยมือคนใจบาป!?!

จากกรณี ดร. กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกมาตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊ก Kanita Ouitavon  ถึงพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมได้ตั้งคำถามกลับไปในเรื่องการตรวจพิสูจน์หลักฐานวัตถุพยานดีเอ็นเอเสือดำ บนมีดและเขียง แต่ไม่สามารถระบุดีเอ็นเอคนใช้ได้ชัดเจน เหตุเพราะกรมอุทยานฯ นำไปตรวจหาดีเอ็นเอเสือดำก่อนนั้น อาจทำให้ประชาชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

       ทั้งนี้หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ เป็นผู้รับผิดชอบและควบคุมดูแลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอสัตว์ป่าในคดีนี้ จึงต้องออกมาชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง  ขณะที่ Dulsit Snidvongs ก็ออกมาให้ข้อมูลถึงชีวิตการทำงานของดร.กณิตา หรือ ดร.กุ้ง

“ ผมเองเคยทำงานร่วมกับด็อกเตอร์กุ้งมาแล้วหลายคดี ซึ่งสมัยนั้นทางตำรวจเองยังไม่สามารถทำเรื่อง DNA สัตว์ป่าได้เลย แล้วด็อกเตอร์ก็จบพอดีเลยมาทำคดีเสือโคร่งให้ผมเป็นคดีแรก แล้วไม่ผิดหวังเลยจากที่ด็อกเตอร์ทำให้ศาลยุติธรรมและอัยการเชื่อได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดสำเร็จ จึงทำให้จำเลยต้องรับโทษทัณฑ์เต็มที่คือ โดนยึดทรัพย์ทั้งหมด ปรับเป็นเงินแปดล้านบาท และจำคุก 8 ปี เรียกว่าเป็นโทษที่สูงสุดในคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าเลยนะครับ ด็อกเตอร์กุ้งเก่งมากๆผมขอสนับสนุนและเชื่อถือได้นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับด็อกเตอร์”

คดีนี้ที่เกิดที่ทุ่งใหญ่ผมเชื่อในความสามารถของด๊อกเตอร์กุ้งเพราะด๊อกเตอร์กล่าวตามความจริงตรงไปตรงมาไม่รับเงินใครๆนอกจากเงินเดือนของตนเองตามวิชาชีพที่ได้เรียนจบด๊อกเตอร์มาโดยตรงนะครับ

คดีนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครพนมที่ด๊อกเตอร์ทำงานให้ผมน่าจะเป็นคดีแรกที่สามารถทำให้ศาลยุติธรรมเอาผิดจำเลยในสถานหนักได้นะครับ ผมเชื่อมั่นในฝีมือของด๊อกเตอร์กุ้งนะครับ และสมัยนั้นตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการเรื่อง DNA ของสัตว์ป่าได้เลยเอาแต่เผาซากทิ้งซึ่งเป็นการทำลายหลักฐานทั้งนั้นสมัยนั้นนะครับ แต่ด๊อกเตอร์สามารถทำการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ทำให้ศาลท่านเชื้อในการพิสูจน์ครั้งนี้นะครับ สู้ๆๆๆๆด้วยความถูกต้องครับ

       อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก Kanita Ouitavon  ก็พบว่า ดร.กุ้ง ได้โพสต์ข้อความไว้หลายข้อความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวที่พูดเรื่องการทำงานในคดีนี้ ซึ่งเมื่ออ่านแล้ว เกิดความประทับใจและสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาต่อผู้หญิงแกร่งคนนี้เป็นอย่างมาก แม้ในยามป่วยไข้ จิตวิญญาณก็ยังนึกถึงเรื่องงาน อันเป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบดูแลอยู่ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ผู้หญิงอย่างดร.กณิตา มีลักษณะที่เป็นแบบอย่างที่ดี ลองไปดูข้อความบางข้อความดังนี้

ชีวิตที่ทำงานไปด้วย และหาหมอไปด้วย.. ก็เป็นอะไรที่สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคถ้าเราไม่คิดว่ามันเป็น.. ทุกอย่างจัดการได้... ส่วนคดีนายเปรมชัย กรรณสูต เราคงไม่มีทางที่จะยอมอ่อนข้อให้.. ไม่กังวลใจอะไร เพราะหลักฐานทุกอย่างก็คือคำตอบในตัวของมันเองอยู่แล้ว...  — รู้สึกเข้มแข็งที่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital

การฉายแสงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด...ยังรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ได้ป่วยอะไรเลย...คุณหมอฉายแสง Confirm กับเราว่าเรายังทำงานใช้สมองได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ก็เป็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ต้องสู้ สู้ ทุกท่านสบายใจได้ค่ะ

พี่ให้กำลังใจน้อง..น้องให้กำลังพี่..เราเป็นพี่น้องกันและงานก็ผูกเราไว้..เพราะเรารักป่า และทำงานเพื่อสัตว์ป่าเหมือนกัน แม้จะต่างมุมกันก็ตาม — รู้สึกมีพลังที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

งานปกติในที่ทำงานที่ดำเนินไปเหมือนเช่นทุกวัน...ต่างกันตรงที่ในวันนี้เป็นคดีสำคัญที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ จึงดูเหมือนวันพิเศษที่ออกจะโกลาหลอยู่สักหน่อย...แต่ขอให้มั่นใจได้ว่าทุกตัวอย่างที่มาถึงที่นี่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและมีความยุติธรรมที่สุด  — รู้สึกเป็นงานเป็นการที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ชาโดว์ก็รู้สึกเสียใจมากฮะ ที่เห็นพี่เสือดำต้องมาตายด้วยฝีมือคนใจบาปแบบนี้...คนที่ร่ำรวยเงินทองที่คิดว่ารักธรรมชาติจริงเค้าน่าจะหันมาช่วยเหลือสัตว์โลกอย่างพวกผมจะดีกว่ามั๊ยฮะ?  ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวจรที่มีความลำบากให้เค้าได้มีบ้านที่อบอุ่น หรือหาทางช่วยให้สัตว์ป่าได้มีชีวิตอยู่ในป่าได้อย่างอิสรเสรีและมีความสุข

ขอบคุณข้อมูล-ภาพเฟซบุ๊ก : Kanita Ouitavon