รวบผู้บริหารใหญ่ในเครือ OA เลี่ยงภาษีกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ

ตามนโยบายของรัฐบาลให้หน่วยงานราชการร่วมบูรณาการกำลังในการปราบปรามกลุ่มบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมายหรือกลุ่มบริษัทนำเที่ยวที่ประกอบการในลักษณะนอมินี สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่มีพฤติการณ์ในการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว  ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยเสียหายรวมถึงผู้ประกอบการที่มีพฤติการณ์ในการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร   ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและเพื่อให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้นกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บูรณาการกำลังกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งและร้านค้าต่างๆ ที่มีพฤติการณ์ในการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สามารถสืบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประกอบการในเครือโอเอ ทางคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

จากการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประกอบการเครือโอเอดังกล่าวข้างต้น กองตรวจสอบภาษีกลาง   กรมสรรพากร ได้ตรวจสอบพบว่า นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี เป็นผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการขายสินค้าในระหว่างปี พ.ศ.2554-2559 กว่า 3 หมื่นล้านบาท   จากการตรวจสอบพบว่านายธงชัย   ได้ปกปิดธุรกรรมการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีกว่าหมื่นล้านบาท   อันเป็นการฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามมาตรา 37 (2) แห่งประมวลรัษฎากร จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ มีคำสั่ง ที่ 567/2560 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ให้มีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนในคดีนี้     ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และผู้เกี่ยวข้อง กระทั่งในวันที่ 16 มีนาคม 2561 ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ ต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับดังนี้
1.นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี   ตามหมายจับศาลอาญาที่ 473/2561 ลง 16 มีนาคม 2561
2.นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 474/2561 ลง 16 มีนาคม 2561
3.นางสาวสายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 475/2561 ลง 16 มีนาคม 2561
ในความผิด “ร่วมกันกระทำการโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” และ “ร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ระบุไว้ว่าผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการโดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดในทำนองเดียวกัน”

วันนี้ 17 มีนาคม 2561 เวลา 09.00 น.ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทสาคร ทองมุณี  ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว   พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พลตำรวจตรีประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1   พลตำรวจตรีภาณุมาศ บุญญลักษณ์   ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
พันตำรวจเอกพนัญชัย ชื่นใจธรรม, พันตำรวจเอกอาชยน ไกรทอง, พันตำรวจเอกศารุติ แขวงโสภา รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, พันตำรวจเอกนิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ  กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ   และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ  ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาที่ 72/2561 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2561 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 64/129 ซอย 36/3 แขวงบางละมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร    ผลการตรวจค้นพบ  นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 474/2561 ลง 16 มีนาคม 2561 อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว  จึงได้ควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ   นำส่งพนักสอบสวนผู้รับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

รวบผู้บริหารใหญ่ในเครือ OA เลี่ยงภาษีกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ

 

รวบผู้บริหารใหญ่ในเครือ OA เลี่ยงภาษีกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ

 

รวบผู้บริหารใหญ่ในเครือ OA เลี่ยงภาษีกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ