ทนายเจ๊บ้าบิ่นขอคนทั้งประเทศฟัง : เคลียร์ถอนตัวคดี!?!พร้อมส่งคำพูดถึงใคร...ปั่นกระแสหากิน!!! ลุยยื่นสอบพยานหลักฐานเพิ่มอีก???(รายละเอียด)

จากกรณีนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัวของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ “เจ๊บ้าบิ่น” พยานปากเอกของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ในคดีหวย 30 ล้านบาท ได้ออกมากล่าวถึงกระแสข่าวถอนตัวเป็นทนายความให้นางรัตนาพร เป็นเพียงข่าวลืออก ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งข่าวลือดังกล่าว สร้างความสับสนให้กับคนในสังคม ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวจากสื่อมวลชนอยู่

       “ผมในฐานะทนายความส่วนตัวของเจ๊บ้าบิ่น ขอชี้แจงให้ชาวกาญจนบุรีและสังคมทั้งประเทศได้เข้าใจตรงกันยังคงเป็นทนายความให้กับเจ๊บ้าบิ่น ไม่เคยถอนตัว สำหรับคดีแรกที่ตนเป็นทนายให้กับเจ๊บ้าบิ่น คือ คดีขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา  คดีที่ 2 คือ คดีที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และคดีที่ 3 ที่ตัดสินใจเป็นทนายความให้ คือให้ข้อความอันเป็นเท็จ สำหรับคดีที่ 3 เจ๊บ้าบิ่นกับครูปรีชาถูกจับเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา”

       “มีการฝากขังที่ศาลอาญา ซึ่งตนจะนำเจ๊บ้าบิ่นที่เป็นผู้ต้องหาร่วมกับครูปรีชา ไปรายงานตัวที่ศาลอาญา ตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ เพื่อให้ทราบว่าคดีนี้ทางพนักงานอัยการจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไร ขอให้สังคมได้เข้าใจตรงกัน และขอให้สังคมติดตามข่าวสารตามช่องทางที่น่าเชื่อถือได้ โดยอย่าไปติดตามข่าวสารตามช่องทางที่เกาะกระแส เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองผ่านช่องทางยูทูป ซึ่งผมถือว่ามันเป็นการสร้างความสับสนให้กับสังคม”

       นอกจากนี้นายสุชพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีศึกษา เมื่อถูกกล่าวหาแล้ว ผู้ต้องหามีสิทธิ์อย่างไร สำหรับกรณีเจ๊บ้าบิ่น ได้ยื่นเพื่อขอความเป็นธรรมไปในชั้นอัยการ เพราะเห็นว่าการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการแล้ว สิทธิของผู้ต้องหาก็สามารถเรียกร้องขอความเป็นธรรมได้ ถ้าเห็นว่าหรือคิดว่าขั้นตอนการสอบสวนนั้นตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และควรจะมีพยานหลักฐานอะไรเพิ่มก็ขอไปที่อัยการได้ ซึ่งเจ๊บ้าบิ่นได้ยื่นขอไปแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา

       “ไม่มั่นใจว่าทางอัยการจะสามารถพิจารณาได้ทันหรือไม่ ซึ่งหากท่านเห็นชอบจะให้ความเป็นธรรมในการสอบสวนเพิ่มเติม คดีนี้ก็อาจจะมีการสอบเพิ่มเติมไป ส่วนระยะเวลาที่ศาลนัดนั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องของเจ๊บ้าบิ่นที่จะไปรับทราบจากศาลว่า ศาลจะนัดหรือไม่อย่างไรต่อไป” นายสุชพงศ์ กล่าว