ฟังแล้วจุกหัวใจ!!!"เปรมชัย" ประชุมผู้ถือหุ้น ITD ยันไม่ได้ฆ่าเสือดำ โทรถามทุกกรมทุกกระทรวง

ถือเป็นหนึ่งคดีสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศติดตามว่าบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไร  สำหรับกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวอล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม4 ราย ร่วมกันล่าสัตว์ป่าฯในทุ่งใหญ่นเรศวร     โดยเฉพาะปรากฎหลักฐานการฆ่าเสือดำเพศเมียรวมอยู่ด้วย   จนต่อมาพนักงานสอบสวนสรุปสำนวน มีความเห็นสั่งฟ้อง 9 ข้อหา  และทางด้านนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการภาค 7 และคณะได้แถลงมีคำสั่งฟ้องนายเปรมชัย 6 ข้อหา และสั่งไม่ฟ้องใน 5 ข้อหา  พร้อมกันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต้องชดใช้ค่าเสียหายตามที่เคยมีการสั่งซื้อเสือดำเมื่อปี 2549 ในราคา 462,000 บาท

สำหรับข้อหาที่นายเปรมชัย โดนสั่งฟ้องมีทั้งหมด 6 ข้อหา  ประกอบด้วย

 1. นำอาวุธปืน หรือเครื่องจับหรือล่าสัตว์ป่าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต

 2. ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต

 3. ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

 4. มีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

 5. รับไว้ ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นซากสัตว์ป่าที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

 6. ร่วมกันหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
 

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้น  บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)    นายเปรมชัย   กรรณสูต  ในฐานะประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)  ได้กล่าวอธิบายกรณีถูกข้อกล่าวหาเป็นคดีความอาญา   ว่าจะกระทบต่อคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนหรือไม่  ว่า   ขณะนี้ยืนยันที่จะทำหน้าที่บริหารงานใน ITD ต่อไป  เพราะตนไม่ได้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าว 

"ผมไม่ได้ทำ วันนั้นผมไปถึงเย็นวันเสาร์ผมก็ไปนอน ตื่นเช้ามาก็เข้าไปทุ่งใหญ่และถูกจับในตอนเย็น และโดนกักขัง 2 วันสองคืน ติดต่อใครไม่ได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์ พอออกมาก็เจอกับนักข่าวเป็นร้อย ซึ่งส่วนภาพที่ออกมา ก็ออกไปหมดแล้ว คิดว่าทางป่าไม้เป็นคนส่ง"

ส่วนกระแสข่าวว่าในอนาคต   ITD  อาจถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) จากภาครัฐในการเข้าประมูลหรือรับงานโครงการใด ๆ  นายเปรมชัย  ระบุว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว   รวมไปถึงลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ   ไม่พบว่ามีใครหรือหน่วยงานใดขึ้น Blacklist   ในทางตรงข้ามมีแต่ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจย้อนกลับมา

"ผมยืนยันได้ และตัวผมเองก็พยายามเข้าใจและเตรียมตัวมากขึ้นและพยายามจะตั้งใจทำงานให้ดีขึ้นกว่าเก่า...ผมไม่ได้ทำ ผมก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ได้โทรสอบถามทุกกรมทุกกระทรวงก็มีแต่คนเห็นใจผม"