- 28 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ในปัจจุบันนี้การหลีกเลี่ยงดรคภัยไข้เจ็บเป็นไปได้ยาก เพราะสารเคมีที่ปนเปื้อนมากกับ อาหาร ภาชนะบรรจุ แม้แต่ในอากาศ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เราต้องเอาเงินที่ทนทำงานด้วยนำพักน้ำแรงมารักษาตัวเอง วันนี้จึงมีเคล็ดลับดีๆเพื่อสุขภาพ จาก ดร.วิชัย เกียรติสามิภักดิ์ มาฝากกัน
จิบน้ำร้อน บ่อยๆ = ช่วยปรับสมดุลย์ ความดันเลือด, ลดเส้นเลือดสมองตีบ, เบาหวาน, ต้อที่ตา, ไต
จิบน้ำร้อน = 1 ถ้วยกาแฟ หรือ 250 CC ก่อนอาหาร ลดความอ้วน
การดื่มน้ำเย็นครั้งละมาก ๆ = จะมีผลให้น้ำซึมเข้าสู่สมอง ซึ่งเป็นเหตุของการเกิดภาวะสมองบวมน้ำ
เบาหวาน = กิน น้ำตาลธรรมชาติได้ น้ำตาลฟรุตโตส, น้ำตาลปี๊ป (น้ำตาลปึก), โอวทึ้ง, น้ำผึ้ง หยุด น้ำตาลกรวด, น้ำตาลทรายแดง, น้ำตาลทราย, ซูโครส
น้ำตาลทราย/น้ำตาลกรวด = จะสะสมที่ตับเป็นไขมัน ก่อให้เกิดไตรกลีเซอร์ไรด์ สำหรับน้ำตาลที่ฟอกขาวจะใช้สารคลอลีน ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง
แกนสับปะรด = มีสารบอบิเรน ลดมะเร็งปากมดลูก โดยให้ดูดแต่น้ำ แล้วคายกากทิ้ง
ทุเรียน = มี Anti – Oxidant, กำมะถัน (งด ข้าว) ช่วยลดมะเร็ง, ลดคลอเรสเตอรอล, ลดอ้วน, ลดไขมัน, ต้านแก่
น้ำแตงโม = ไวอาก้า ธรรมชาติ บำรุงเลือด, ละลายลิ่มเลือด ช่วยมือเท้าชา
กล้วยไข่ = ช่วยหยุดผมร่วง, ป้องกันอัลไซเมอร์, บำรุงสมอง, บำรุงตับ ไต, ป้องกันมะเร็ง, บำรุงกระดูก, บำรุงสายตา, รักษา Office Syndrome
กล้วยน้ำว้า = วันละ 2 ลูก เหมือนๆ กล้วยหักมุก ปิ้งไฟทั้งเปลือก ลดไข้, ลดเจ็บคอ, บำรุงตับอ่อน, รักษาเบาหวาน, แก้ทอนซิลอักเสบ
กล้วยหอม = (กล้วยเล็บมือนาง) 3 ผล / สัปดาห์ เป็น ฮอร์โมนหญิง มีโปแทสเซียม ป้องกันโรคพากินสัน และ อัลไซเมอร์, บำรุงสมอง, ป้องกันสมาธิสั้น
น้ำมะพร้าวอ่อน = ปรับสมดุลย์ ฮอร์โมน ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนวันละ 1 ลูก ช่วยฟอกเลือด และบำรุงไต ส่วนเนื้อมะพร้าวช่วยบำรุงตับ
กะทิ = ลดคอเลสเตอรอล(Cholesterol), ไม่อ้วน, ไม่เบาหวาน,
น้ำมันมะพร้าว = ช่วยลดความอ้วน โดยกินก่อนอาหารเช้า 4 ช้อนกาแฟ ใช้เป็น Hair Serum ลงหนังหัว, ลดหงอก, เพิ่มผม ใช้ล้างเครื่องสำอาง ใช้เป็นเดย์ครีม ไนท์ครีมได้ มี SPF 90 (Sun block)
น้ำมันมะพร้าว = นำกะทิใส่ถุงแช่ตู้เย็น 3 ช.ม. เพื่อให้เนื้อกับน้ำแยกตัวกัน นำเนื้อมะพร้าวส่วนบนไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน เก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน
Oil Pulling คือการนำน้ำมันพืชชนิดสกัดเย็น มาบำบัดโรค = ใช้น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันทานตะวัน ที่ผ่านกรรมวิธีแบบหีบเย็น ปริมาณ 2 ช้อน อมไว้ประมาณ 15 นาที แล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยนำเชื้อโรคออกจากช่องปาก
หยุดใช้น้ำมันพืช = เนื่องจากมีส่วนผสมของสารเคมี เมื่อน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ 60 องศา จะเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น ควรบริโภคมะพร้าว น้ำมันหมู น้ำมันไก่ ตับจะทำหน้าที่ผลิต Cholesterol โดยที่ Cholesterol LDL จะช่วยป้องกันผิวหนัง และผลิต Cholesterol HDL เพื่อดักจับ LDL ไปทิ้ง
การทำน้ำมันหมู = นำน้ำมันหมูเปลว 1 ก.ก. กับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ เจียวบนกระทะ จะทำให้ไม่ติดกระทะ ไม่กระเด็น ได้น้ำมันเกือบ 2 ลิตร กากหมูจะกรอบมาก เนื่องจากเกลือจะเป็นตัวช่วยดึงน้ำมันออกมาจนหมด
การสระผม = ควรสระผมด้วยสบู่เด็ก ควรสระผมช่วงเช้า ไม่ควรสระผมตอนเย็น เพราะผมจะไม่สามารถแห้งได้ทัน เวลานอนจะเกิดเชื้อรากลางคืน เป็นเหตุของอาการคันศีรษะ และ ลงน้ำมันมะพร้าวที่หนังหัว
เกลือ = การบริโภคเกลือ (เกลือทะเล เกลือเม็ด) ไม่ได้ทำให้ไตวาย แต่เนื่องจากในอุตสาหกรรมการผลิตเกลือที่ขาวละเอียดมีการเติมโพลิเมอร์ โดยหยดลงบนเกลือ ทำให้โครงสร้างจากเดิมโซเดียมคลอไรด์เปลี่ยนเป็นโซเดียมซัลเฟต ซึ่งมีผลต่อไต เพราะไม่สามารถขับออกได้ ซึ่งเกลือชนิดนี้จะโรยบนอาหารแล้วยังคงทำให้อาหารกรอบ แต่ถ้าเป็นเกลือที่เป็นโซเดียมคลอไรด์นั้น จะมีคุณสมบัติดูดความชื้นทำให้อาหารไม่คงความกรอบ
ไมโครเวฟ = การใช้ไมโครเวฟ ระวังมะเร็ง เนื่องจากมีการกระจายคลื่นเข้าสู่เซลมีผลทำให้ตายได้
ตะไคร้แกง = นำมาหั่นแล้วต้มเป็นน้ำตะไคร้ ดื่มเพื่อช่วยลดเบาหวาน
กาแฟ มีคาเฟอีน มีไว้ดม ไม่ควรกิน เพราะจะมีผลยับยั้งไม่ให้แคลเซียมไปเกาะกระดูก จึงมีโอกาสเป็นโรค กระดูกผุ กระตุ้นเซลมะเร็ง
ไข่ = ไข่ต้ม ไข่เค็ม ไข่พะโล้ โดยเฉพาะไข่แดง หากกินวันละ 2 ฟอง จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด (ลดเบาหวาน) เนื่องจากไข่แดงมีซิลิเนียม งานวิจัยของฮาวาร์ด พบว่าหากบริโภคไข่วันละ 3 ฟอง (อายุต่ำกว่า 45 ปี) ; บริโภควันละ 2 ฟอง (อายุ 45 ปี – 50 ปี) และบริโภควันละ 1 ฟอง (อายุเกิน 50 ปี) ไข่ต้ม 1 ฟอง มีสรรพคุณสูงกว่านม 5 กล่อง
การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายทุกวัน ออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น
1. การขยับนิ้วมือ เป็นการช่วยเรื่องน้ำในข้อ ผลที่ได้กระดูกจะไม่ผุ
2. งอนิ้วมือ ช่วยในเรื่องของอาการนิ้วล็อค
3. กำมือและแบมือสลับข้างกันไปมา ช่วยในเรื่องของโรคหัวใจ และลด Cholesterol
4. นั่งบนเก้าอี้ กำมือ และขยับเท้ายกขึ้นทำท่าวิ่งบนอากาศ
5. นั่งบนเก้าอี้ กำมือ ทุบขาด้านนอก และด้านใน ทุบแขน สลับกันไป
6. การนั่งตรง ๆ นั่งแค่ครึ่งเก้าอี้ ประมาณ 10 นาที ช่วยป้องกันในเรื่องของ ริดสีดวงทวาร
7. กำมือขวาหมุนเป็นวงกลมออกนอกตัว และกำมือซ้ายหมุนเป็นวงกลมเข้าหาตัว เป็นการบริหารสมองทั้ง 2 ซีก
8. มือประสานกันสองข้าง ยืดตรงไปข้างหน้า เท้าห่างกันประมาณช่วงไหล มองตรง แล้วหมุนเอวไปรอบ ๆ ทั้งด้านซ้าย และขวา ครั้งละ 5 รอบ ทำตอนเช้า จะช่วยลดส่วนเกินตรงหน้าท้อง
ความดัน
อายุ น้อยกว่า 30 บน 110 ล่าง 70
อายุ 50 บน 130 ล่าง 85
อายุ 60 บน 140 ล่าง 90
ของฝากจาก ดร.วิชัย เกียรติสามิภักดิ์
โดย โดย อาจารย์ ไกร มาศพิมล
รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมส่งต่อเพื่อนๆที่เรารักด้วย-ขอบคุณ #เรื่องสุขภาพสำคัญ #ชีวิตต้องมีวันพรุ่งนี้ #เรื่องดีๆเลยต้องบอกต่อ