ต่อไปนี้ไม่ต้องใช้แล้ว !!! สำเนาบัตรประชาชน-สำเนาทะเบียนบ้าน ยกเลิกใช้ เริ่มสิงหาคม นี้

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยที่ประชุมสรุปผล 2 ประเด็นหลัก คือ 1.เรื่องการปฏิรูประบบราชการ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพ การบริการภาครัฐ อาทิ การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ลดคำขอค้าง ทั้งด้านยาและอาหาร ที่ยื่นก่อนวันวันที 7 ส.ค.60 ว่า 8,000 คำขอได้หมดภายใน 6 เดือน และการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการลดคำขอค้างสะสมสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่อง

2.การพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ อาทิ การแก้ไขพื้นที่ป่า และการใช้ประโยชน์พื้นที่ จ.น่าน โดยจะขอคืนพื้นที่ป่าร้อยละ 18 จากพื้นที่ป่าทั้งหมด และอีกร้อยละ 10 ที่เหลือให้ประชาชนสามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้เต็มที่ คาดว่าภายใน 3 ปีจะลดการบุกรุกพื้นที่ป่า และ 3.การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยในเดือน พ.ค.ปีนี้ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) จะให้บริการประชาชนประมาณ 40,000 จุดบริการ ตามคู่มือสำหรับประชาชนใน Info.go.h ซึ่งในเดือน ส.ค.จะยกเลือกสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านจากหน่วยงานผู้ให้บริการ พร้อมเปิดใช้แอพพิเคชั่น บอกข้อมูลบริการ จากนั้นเดือน ต.ค.จะเริ่มยกเลิกสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล และในเดือน ม.ค.62 จะเปิดใช้ระบบ Citizen Feedback ที่ให้ประชาชนประเมินคามพึงพอใจในการใช้บริการ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและข้อร้องเรียน

นอกจากนี้ การปฏิรูปกฎหมาย ได้มีการตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการเร่งรัดปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอยอาชีพ และดำเนินธุรกิจของประชาชน จำนวน 10 คณะ โดยพิจารณาไปแล้ว 27 เรื่อง เช่น กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพคนขับรถรับจ้างสาธรณะ และผู้ค้าหาบเร่แผงลอย อย่างไรก็ตาม สำหรับงานใหม่ ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ 3 เรื่อง 1.ธุรกิจพาณิชยนาวี ในการให้บริการแบวันสต็อปเซอร์วิสด้านแรงงานาทางทะเล 2.ใบอนุญาตด้านการเกษตร โดยจะสร้างแอพพลิเคชั่นตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียน และแจ้งเตือนการต่ออายุใบอนุญาตครอบครองสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตจูพืช และ 3.การบริหารจัดการคิดโรงพยาบาล อาทิ ระบบแจ้งเองก่อนวันนัด และแจ้งขั้นตอนการรับบริการตั้งแต่ต้นจนจบ โดยจะขยายผลต่อไป 50 โรงพยาบาล