มันมากับฝน !! ระวัง เป็นได้โดยไม่รู้ตัว "โรคติดต่อยอดฮิตช่วงฝนตก" รู้ไว้ อันตรายมาก!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนอย่างเช่นตอนนี้ แม้จะเป็นหน้าร้อนแต่กลับมีฝนตกหนักติดต่อกันในหลายพื้นที่นอกจากสร้างความไม่สะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนแล้วยังสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้อีกด้วย โดยในช่วงที่ฝนตกติดต่อกันนานๆหรือในช่วงหน้าฝนอากาศจะเย็นลง ความชื้นสูง ซึ่งความชื้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาเชื้อโรคหลายชนิดเพาะตัวและแพร่ระบาดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

มันมากับฝน !! ระวัง เป็นได้โดยไม่รู้ตัว "โรคติดต่อยอดฮิตช่วงฝนตก" รู้ไว้ อันตรายมาก!

ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยรายชื่อโรคติดต่อที่สามารถระบาดได้อย่างง่ายดายและเรียกได้ว่าเป็น"โรคยอดฮิตช่วงหน้าฝน" โดยมีทั้งหมดดังต่อไปนี้

1.กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดบิดในท้อง และหากปวดบิด อาจมีมูกหรือเลือดปนออกมากับอุจจาระได้

 

2.กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผล หรือเยื่อบุผิวหนังที่พบบ่อย คือโรคฉี่หนู หรือโรคแลปโตสไปโรซีส จะมีอาการเด่นๆคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง ตาแดง ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการรุนแรง เช่น ดีซ่าน ไตวาย หรือช็อคได้

 

3.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย ได้แก่ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หรือปอดบวม โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ มักจะพบการระบาดเป็นประจำทุกปี

 

4.กลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุง ที่สำคัญ 3 โรคได้แก่

(1).ไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มากกว่า 80% เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้าน โรคนี้ในระยะแรกจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป ได้แก่ อาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดกระดูกมาก ไข้จะขึ้นสูงอยู่ประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นไข้จะลง พร้อมกับมีอาการเลือดออกผิดปกติ เช่นเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน เลือดออกตามอวัยวะต่างๆภายใน มือเท้าเย็น หรือช็อคได้

(2).ไข้สมองอักเสบ เจอี (Japanese Encephalitis) มียุงรำคาญเป็นพาหะนำโรค มักแพร่พันธ์ในแหล่งน้ำตามทุ่งนา อาการมักมีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน หลังจากนั้นจะมีอาการซึมลงและชักได้ และอาจเสียชีวิตหรือพิการหากไม่ได้รับการรักษา

(3).โรคมาลาเรีย มียุงก้นปล่องที่อยู่ในป่าเป็นพาหะนำโรค จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ซีดลงเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ถ้าเป็นชนิดรุนแรงอาจมีอาการไตวาย ตับอักเสบ การหายใจล้มเหลว และอาจมีความผิดปกติทางสมองที่เรียกว่า มาลาเรียขึ้นสมองได้

 

5.โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ทำให้เกิดอาการเคืองตาและตาแดง และอีกโรคทางผิวหนัง คือ โรคน้ำกัดเท้า ที่เกิดจากเชื้อรา จากการแช่น้ำสกปรกนานๆ ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง ถ้าเกาจะเป็นแผลมีน้ำเหลืองออก

 

การป้องกันโรคในฤดูฝน ทำได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้ารักษาร่างกายให้อบอุ่น รับประทานอาหารที่สะอาดและถูกสุขอนามัย เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวควรใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากร่างกายมีระดับภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนอื่นๆ และการเลือกรับประทานยาลดไข้

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มแอสไพริน เพราะจะมีอันตรายมากขึ้นกับบางโรค เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคฉี่หนู เพราะโรคดังกล่าวจะทำให้มีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ หากได้รับยาแอสไพริน ซึ่งมีสารป้องกันเลือดแข็งตัวเพิ่มไปอีก ก็จะทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายมากขึ้นได้ และโรคติดเชื้อบางอย่าง เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน จึงแนะนำให้รับการฉีดวัคซีนก่อนถึงฤดูกาลระบาด

 

มันมากับฝน !! ระวัง เป็นได้โดยไม่รู้ตัว "โรคติดต่อยอดฮิตช่วงฝนตก" รู้ไว้ อันตรายมาก!

สำหรับสถานการณ์ฝนในประเทศไทยนั้นทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศ7วันข้างหน้าระบุ ในช่วงวันที่ 3 – 6 พ.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 9 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งข้อควรระวัง   

ในช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

ในช่วงวันที่ 3 - 6 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

 

 

 

 

 

ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา

อ้างอิงข้อมูล โรงพยาบาลสินแพทย์