เกินเลยไปมาก !!!! "เจ๊ปอง" เปิดวาทะเดือด...ทราม ต่ำช้ากับพระรูปหนึ่ง!?!นายกรัฐมนตรีต้องมีคำตอบค่ะ (มีคลิป)

กลายเป็นประเด็นที่มีผู้แสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์อย่างมาก เพราะสืบเนื่องจาก วานนี้ 24 พฤษภาคม 2561  อดีตพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม  ในความผิด 2 ข้อหา คือ ปล้นทรัพย์ กับ เป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. จากกรณีที่ตำรวจสันติบาลถูกการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ปล้นเอาทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปด้วย   และตำรวจมีการแจ้งข้อหาแอบอ้างใช้ปรมาภิไธย ภปร. และ ส.ก. กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีด้วย 

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน หลังการพิจารณาคำร้องฝากขังของพนักงานกองปราบปราม ในคดีพระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อยศาลอนุญาต ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวนรับฝากครั้งพระพุทธะอิสระผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมให้นำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ   

 

 

แต่ประเด็นที่ถูกวิพากวิจารณ์เห็นจะเป็นกรณีที่นำกำลังบุกจับ พระพุทธะอิสระ ในกุฏิวัดอ้อน้อย ของตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 61 ได้มีการเปิดเผยคลิปนาทีการเข้าจับกุมตัว   (มีคลิป)  ปอง อัญชะลี ไพรีรัก  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุคส่วนตัว Anchalee Paireerak ว่า  อ่านนะคะ. เห็นด้วยคะ. ตำรวจกองปราบทำเกินเลย หยาบคาย. เลวทราม ต่ำช้า สถุล กับพระรูปหนึ่ง นายกรัฐมนตรีต้องมีคำตอบคะ

 

 

 

 ปอง อัญชะลี ได้โพสต์ เป็นคลิป นาทีบุกจับพระพุทธอิสระ เกินเลยไปมาก หยาบคายเกินจะกล่าว

 

 

ขณะเดียวกันโลกออกไลน์ออกมาวิพากวิจารณ์คลิปดังกล่าวจำนวนมากยกตัวอย่าง มันยังไหว้พระกันอยู่ไหม?พวกนะ , ทำไมอีกสามวัด ไม่มีลักษณะนี้บ้าง เลือกปฏิบัติหรือเปล่า ,  ดูดุเดือด ราวกับมีการเตรียมการต่อสู้ขัดขวาง แต่ที่ไหนได้ นอนอยู่เฉยๆ แค่นั้น ตื่นเต้น จนอ่านหมายผิดๆถูกๆเลย 5555, ท่านเป็นผู้ที่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ชัดเจนมาโดยตลอด การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินไปครับกับหลวงพ่อพุทธอิสระ ขอประนามครับ ,ไปจับพระองค์เดียวแม่งทำอย่างกับไปจับโจรคดีอุกฉกรรณ์ขนกันไปขนาดนั้นกรูอยากรู้จังตอนไปจับไอ้แทมมี่กับอีปูทำกันอย่างงี้หรือเปล่า , แม่งทำยังกะไปออกรบสงครามพระท่านรูปเด่วเบื่อจังจัญไรเห็นธัมชโยล้อมวัดเป็นเดือนจับแม่งไม่ได้ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนความคืบหน้า 25 พฤษภาคม 2561 นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทีมทนายความอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ เปิดเผยภายหลังการเข้าเยี่ยมว่า อดีตพระพุทธอิสระ จะยังไม่ขอยื่นประกันตัวตอนนี้ แต่จะขอยื่นประกันตัวในชั้นอัยการ โดยเบื้องต้นจะเตรียมหลักทรัพย์ไว้เท่าเดิม คือ 1 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ตามที่เหมาะสมกับอัตราโทษ และจากดารพูดคุย อดีตพระพุทธอิสระ ได้ให้การปฏิเสธ ในคดีที่ทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นายที่บาดเจ็บสาหัส และต่อสู้คดีในชั้นศาล

 

 ส่วนคดีแอบอ้าง ปลอมแปลงใช้พระปรมาภิไธย เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าได้มีการนำไปใช้จริง แต่ไม่มีเจตนาหลบหลู่ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และหลังจากนี้จะหารือในรายละเอียด ว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลอย่างไร รวมถึงในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธอิสระในฐานะทนายความ เพื่อหารือในรายละเอียดการต่อสู้คดีต่อไป 

 

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. เปิดเผยว่า จากการเข้าไปสังเกตเข้าไปดูอาการของอดีตพระพุทธอิสระ พบว่ายังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ส่วนเรื่องโรคประจำตัว เบื้องต้นประสานให้ลูกศิษย์ได้แจ้งอาการป่วยและนำยามาฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อให้จัดยาให้อดีตพระพุทธอิสระ พร้อมฝากบอกลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธา ว่าไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากตัดสินใจไม่ขอประกันตัวในช่วงนี้ และเหตุการณ์ที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าไปจับกุมภายในกุฏิ พิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีเจตนาเอาผิดกับตำรวจชุดจับกุม อีกทั้งยังรู้สึกพอใจที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้พระพุทธศาสนาเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี 

 

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ ขาดจากการเป็นพระหรือไม่ ยืนยันว่าในการประกอบพิธีลาสิกขาบทวานนี้ อดีตพระพุทธอิสระไม่ได้เปล่งวาจาลาสิกขาบท ดังนั้นในทางพระธรรมวินัย จึงไม่ถือว่าขาดจากการเป็นพระ แต่ในทางกฎหมายก็ต้องยอมรับในข้อนี้

อ้างอิงจาก Anchalee Paireerak