ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากการที่ เมื่อวันที่  24 พฤษภาคม 2561  อดีตพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม  ในความผิด 2 ข้อหา คือ ปล้นทรัพย์ กับ เป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. จากกรณีที่ตำรวจสันติบาลถูกการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ปล้นเอาทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปด้วย   และตำรวจมีการแจ้งข้อหาแอบอ้างใช้ปรมาภิไธย ภปร. และ ส.ก. กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีด้วย 

จนทำให้มีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ  พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ล่าสุดให้สัมภาษณ์ โดย กนก รัตน์วงศ์สกุล และ ธีระ ธัญไพบูลย์ ทาง เนชั่นคนข่าวเข้ม  ระบุว่า  (มีคลิป)

.

ในเรื่องของข้อเสนอที่ไม่ได้รับการตอบรับจากทางรัฐบาล หรือจากนายกฯ ผมว่าไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องของอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องเข้าใจท่านนายกฯ ท่านเป็นผู้รับผิดชอบ ท่านมีปัจจัยที่จะต้องเกี่ยวข้องในการตัดสินใจอยู่หลายปัจจัย ในส่วนนี้เข้าใจ แต่ในส่วนที่ผมได้เสนอไป นับว่าเป็นความคิดของผมในฐานะภาคประชาชน อันนี้ยอมรับได้ แต่จะเป็นอย่างไร อันนี้เป็นเรื่องของผู้บริหารราชการแผ่นดินที่จะต้องพิจารณากัน   มันเกิดความล้มเหลว ...ภารกิจพิทักษ์สันติราษฎร์มันแย่

(มีคลิป)

แต่ถ้าคำเสนอไม่ได้รับการขานรับ และการจู่โจมเข้าจับลวงปู่พุทธอิสระก็ผ่านเลยไปแล้ว ตำรวจทุกตำแหน่ง คนปฏิบัติการ หรือว่าคนบังคับบัญชา ทุกคนอยู่เหมือนเดิม อันนี้คิดว่าควรไหม
 คือสิ่งที่ผมได้โพสต์ลงไป ความจริงแล้วท่านผู้บัญชาการตำรวจและผู้บังคับบัญชา ฝ่ายอำนวยการตำรวจที่เกี่ยวข้อง ต้องรู้จักพิจารณาตนเอง เพราะว่ามันเกิดความล้มเหลว ความล้มเหลวก็คือ ความล้มเหลวที่มีผลกระทบต่อความรู้สึก ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับตำรวจ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะตำรวจจำเป็นจะต้องมีความสัมพันธ์กับประชาชนที่ดี ภาระกิจพิทักษ์สันติราษฎร์จึงจะสำเร็จ แต่วิดีโอที่ถ่ายทำเผยแพร่โดยทีมปฏิบัติการมันทำให้ตำรวจเสียหาย เมื่อตำรวจเสียหายภาระกิจพิทักษ์สันติราษฎร์ที่จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนมันแย่ ภาพลักษณ์ของตำรวจก็แย่ นี่คือสิ่งที่ต่อไปภาระกิจของตำรวจเสียหาย เรื่องของหลวงปู่ท่านก็ต้องจำคุกไป สู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลจะเอาอย่างนี้หรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อตำรวจ ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อหน่วยงานความมั่นคง ผลกระทบรุนแรงเสียหายอันนี้คือความเสียหายที่เกิดขึ้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม : ไม่ขอรักษาควายในร่างคน !?!? ย้อนดูคำคม"พล.ต.เหรียญทอง" เดือดเด็ดระห่ำ4วันติด ... ไอ้พวกต่อต้านดูกันซะ (รายละเอียด) 

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ 

ในวันนี้เราจะได้ย้อนไปดูการโพสต์ข้อความทั้ง 4 วัน

 28 พ.ค.61  พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ได้ฝากข้อความไว้ในเฟสบุคส่วนตัวระบุว่า ผมขอฝากแชร์ด้วยครับว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ขอรักษาควายในร่างคนครับ!...มีคนเป็นห่วงว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ จะได้รับผลกระทบจากกลุ่มคนที่รังเกียจผมแล้วจะไม่มาอุดหนุน รพ.มงกุฎวัฒนะ 

ผมขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า รพ.มงกุฎวัฒนะเผชิญสถานการณ์ต่อต้านไม่ใช้บริการจากกลุ่มคนที่รังเกียจผมมานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่ รพ.มงกุฎวัฒนะ กลับมีผู้ใช้บริการมาอุดหนุนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 จนสามารถชำระหนี้คืน ธ.กรุงไทยมากกว่า 500 ล้านบาทได้อย่างหมดสิ้นใน 8 เดือน ทั้งยังมีเงินซื้อที่ดินโดยรอบโรงพยาบาลอีก 200 ล้านบาท 

ทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ขยายอาณาเขตจากที่ดินเดิมก่อนปี 57 ที่มีเพียง 4 ไร่เป็น 9 ไร่ในปี 58 และจะก่อสร้างอาคารใหม่อีก 3 หลังจนเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ขนาด 440 เตียงที่มีพื้นที่อาคารมากกว่า 70,000 ตารางเมตรโดยไม่ต้องกู้เงินจากธนาคาร ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องห่วงว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ จะเดือดร้อนนะครับ ...

ผมกลับขอให้ท่านทั้งหลายช่วยกันแชร์ให้สาธารณชนทราบทั่วกันว่า ไอ้พวกต่อต้านผมด้วยการต่อต้าน รพ.มงกุฎวัฒนะ มันยิ่งทำให้คนดีๆ เห็นใจและมาใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะ มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นโรงพยาบาลของคนที่มีจิตสำนึกดี ไม่ใช่โรงพยาบาลรักษาควายในร่างคน  พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

 

หากย้อนดูโพสต์ก่อนหน้านี้ 27 พ.ค.61 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ระบุว่า  เหรียญทอง แน่นหนา
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี , คณะรัฐมนตรี และ คสช....ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจและประกาศยืนหยัดสนับสนุนท่านและคณะในการเดินหน้าแก้ปัญหาของชาติมาโดยตลอด ผมขอขอบคุณที่ทั้งท่านและ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ตักเตือนตำรวจมิให้เกิดการปฏิบัติการ ‘ถ่อย’ เช่นนี้อีก แต่มันไม่เพียงพอเพราะความเสียหายต่อศรัทธาในรัฐบาลและ คสช.มันทวีความรุนแรงขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะการดำเนินการตามโรดแมปที่อาจมีปัญหาและจะเป็นสาเหตุให้ขบวนการสามานย์ปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบสุขในที่สุด กรณีที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นเพียง ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ ที่ทำลายความสงบสุขของชาติ ผมขอความกรุณาจากท่านและคณะจงอย่าประมาทมองข้ามเรื่องนี้ไป

ผมขอเสนอให้ท่านใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งย้าย ผบ.ตร., ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้องกับชุดปฏิบัติการบุกจับหลวงปู่พุทธะอิสระ ผมขอให้ท่านอย่าได้กังวลใจว่าข้อเสนอของผมนี้จะทำลายขวัญกำลังใจของตำรวจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันล้มเหลว มันทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับตำรวจซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อภารกิจพิทักษ์สันติราษฎร์ ทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจอย่างต่ำช้าทำให้ตำรวจดีๆต้องพลอยรับกรรมชั่วๆจากตำรวจเลวๆ อีกทั้งข้อเสนอของผมนี้จะเป็นโอกาสให้ท่านได้ส่งเสริมนายตำรวจดีๆตามแนวทางพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการส่งเสริมคนดีให้ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองปรับปรุงแก้ไขเพื่อเรียกความศรัทธาเชื่อมั่นคืนจากประชาชน

 

 

 

 

26 พ.ค.61 พลตรีเหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์สรุปผลการปฏิบัติการจับกุมหลวงปู่พุทธะอิสระ...จากพยานหลักฐานวีดีโอที่บันทึกโดยชุดปฏิบัติการพบว่ามีพวกกุ๊ยสวมเครื่องแบบตำรวจจำนวนมากได้เข้าไปทำลายกุฎิพระและแสดงอาการก้าวร้าวเหมือนพวกอั้งยี่ ทั้งนี้ถือว่าการปฏิบัติดังกล่าวถูกต้องตามมาตรฐานทางยุทธวิธีของตำรวจไทยที่ประชาชนไม่คุ้นชิน โดยหลวงปู่พุทธะอิสระผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับว่าเป็นอั้งยี่นั้นได้รับทราบข้อกล่าวหาด้วยอาการสงบเรียบร้อย ภายหลังจากปฏิบัติการแล้ว พวกกุ๊ยสวมเครื่องแบบได้หายหน้าหายตาไปจากสังคม

 

 

 

25 พ.ค.61  พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา โพสต์ ปฏิบัติการถ่อย...ปฏิบัติการบุกจับหลวงปู่พุทธะอิสระที่ปรากฎตามคลิปที่เผยแพร่นั้น คือ ปฏิบัติการที่ล้มเหลวของตำรวจและส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นอย่างมาก การปฏิบัติการใดก็ตามผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการจะต้องประเมินสถานการณ์ให้ได้ว่าจะเกิดผลการโต้ตอบหรือไม่ อย่างไร และหากมีการโต้ตอบขึ้นจะมีระดับใดและมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร การไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้เช่นนี้มันจึงส่งผลให้เกิดปฏิบัติการอย่างบ้าบิ่น อย่างโง่ๆ ทำให้เกิดการแสดงออกซึ่งความต่ำทรามและส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ ทำให้ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นกลายเป็น ปฏิบัติการถ่อย ผมไม่คิดเลยว่าผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการในการปฏิบัติการครั้งนี้จะมีระดับสติปัญญาเพียงแค่นี้ บอกตรงๆครับว่า...โง่ชะมัด