- 04 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เปิดคลิปวินาทีระทึก โพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง รถบิ๊กไบค์กลุ่มหนึ่งขับมาบนถนนเมืองพัทยา จู่ๆ มีกระบะขับเเข่งตีคู่มา เอาปืนจ่อหัวเเล้วพูดขู่คนขับบิ๊กไบค์อย่างระทึก ต่อมาชายคนดังกล่าวจึงอ้างว่าตัวเองเมา เเล้วปืนที่พกมาด้วยก็เป็นปืนอัดลมไม่ใช่ปืนจริงๆ
ส่วนใครที่บอกอยากดู ต้นสายปลายเหตุ จะได้หายข้องใจ ซูมให้เห็นชัดๆแบบ HD ด้านชายหัวร้อนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเเล้วรถก็ถูกยึด ขึ้นศาลรอลงอาญา (ชมคลิป)
ฎีกา อาวุธปืน
ในการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจ ให้ใช้ดุลพินิจในการตรวจค้น จับกุมผู้พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถานให้เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ได้บัญญัติไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8 ทวิ แห่ง พรบ. อาวุธปืนฯ
พ.ศ. 2490 ขึ้นอีก
ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันยังคงมีปัญหาเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยมีเพียงใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ( ป. 4 ) แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ( ป. 12 ) ก็มักจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีทุกรายไป ทำให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตรวจค้นและจับกุม เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้อง
จึงขอซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ ตามบทบัญญัติ มาตรา 8 ทวิ แห่ง พรบ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3 กำหนดว่า
ห้ามมิให้ ผู้ใดพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด
ห้ามมิให้พกพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผยหรือพาไปในที่ชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด