ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากกรณี น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือ ยุ้ย อายุ 26 ปี ชาวบ้านกลันทา ม.10 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่พิการตาบอดทั้งสองข้างมานานกว่า 7 ปี เพราะผลข้างเคียงจากการทำงานโรงงานหลอมเหล็ก ซ้ำยังถูกสามีหนีไปบวช ทิ้งให้เลี้ยงลูกชายวัย 1 ขวบ 3 เดือนตามลำพัง 

 

โดยต่อมานายพายัพ รอดเมือง อายุ 59 ปี ชาวบ้านหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพิการเป็นอัมพฤกษ์นอนป่วยติดเตียงมานานกว่า 20 ปี  ได้ติดต่อไปยัง น.ส.สุนิสา เพื่อขอบริจาคดวงตาให้กั 1 ข้าง แต่ต้องผิดหวังเมื่อติดเรื่องข้อกฎหมายนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า : ลุงหัวใจเทวดาตัวเองป่วยอัมพฤกษ์นอนติดเตียง รู้ข่าวหญิงน่าสงสารตาบอด ผัวทิ้งเลี้ยงลูกลำพัง สละดวงตาหนึ่งข้างให้ สาวน้ำตาซึมเท่าฟื้นชีวิตทันที )

 

กราบหัวใจที่ยิ่งใหญ่!! ลุงอัมพฤกษ์ไม่หยุดทำความดี ขอบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ขอโทษสาวตาบอดบริจาคดวงตาให้ไม่ได้!?


 
 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพายัพ เปิดใจว่า ครั้งแรกไม่รู้ว่ากฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้มีการบริจาคดวงตาได้ นอกจากพ่อแม่ภรรยาหรือบุตร เท่านั้น เพราะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของตนเองจึงทำให้เขาไม่สมหวัง แต่ตนก็จะไปบริจาคร่างกายเอาไว้ยังที่โรงพยาบาล ให้อวัยวะทุกส่วนไปใช้กับคนอื่นได้ส่วนร่างกายก็จะให้ไว้เป็นอาจารย์หมอต่อไป

 

กราบหัวใจที่ยิ่งใหญ่!! ลุงอัมพฤกษ์ไม่หยุดทำความดี ขอบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ขอโทษสาวตาบอดบริจาคดวงตาให้ไม่ได้!?

 

“ต้องขอโทษน้องยุ้ยด้วย ที่ลุงทำไม่ได้เพราะกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ อย่างไรให้น้องยุ้ยสู้ ๆ ต่อไปลุงจะเป็นกำลังใจให้ ถ้าหากท้อแท้อะไรก็ให้โทรศัพท์มาหาลุง แล้วลุงจะคอยให้คำปรึกษาไปเรื่อย ๆ” 

 

กราบหัวใจที่ยิ่งใหญ่!! ลุงอัมพฤกษ์ไม่หยุดทำความดี ขอบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ขอโทษสาวตาบอดบริจาคดวงตาให้ไม่ได้!?

 

ทั้งนี้ นายพายัพ กล่าวอีกว่า หากมีรายโทรทัศน์เชิญมาให้ไปออกรายการก็จะไปอีก เพื่อช่วยกันรณรงค์ให้คนช่วยกันบริจาคอวัยวะบริจาคร่างกายกันให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าบุญกุศลที่เราได้ทำไว้จะส่งผลไปในภายภาคหน้าให้เราเกิดมามีอวัยวะครบถ้วน 32 ประการอย่างเป็นปกติ