- 21 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมากมายในขณะนี้ กรณี สาวสวยรายหนึ่งโพสต์ขอเงินจากบรรดาผู้ติดตามในเฟซบุ๊กคนละ 1 บาท เพื่อเป็นค่าผ่อนรถเบนซ์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเกิดฉายา "ขอทานโซเชียล" ขึ้น จนเจ้าตัวต้องออกมายุติขอเงิน พร้อมบอกเป็นการสื่อสารผิดพลาด ก่อนหงายการ์ดดังว่าตนทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ล่าสุด เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวนี้ เพจเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย โดย ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยยกกฎหมายในมาตรา 13 และมาตรา 19 ระบุโทษสูงสุด จำคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท ซึ่งหากเอาเงินไปทำอย่างอื่นก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงได้
โดยเพจเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย เขียนข้อความระบุดังนี้... "ยุคโซเชียล คนก็ใช้โซเชียลได้เป็นประโยชน์จริงๆ แม้กระทั่งการขอทาน ยังมาอยู่บนโลกโซเชียลได้
.
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเรามีกฎหมายห้ามขอทานแล้ว โดยเป็นพระราชบัญญัติ ควบคุมขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งในมาตรา 13 ระบุว่า ห้ามบุคคลใดทำการขอทาน
การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการขอทาน
.
(1) การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือการแสดงกิริยาอาการใด
.
(2) การกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้
.
มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า การขอทานในโซเชียล เป็นการขอเงินเพื่อเลี้ยงชีวิตรึเปล่า ถ้าไม่เอามาเลี้ยงชีวิต ก็ต้องดูว่า เป็นการทำให้คนอื่นเกิดความสงสารเลยโอนเงินให้หรือไม่
.
นอกจากนั้น การขอเงินที่บอกว่าจะเอาไปซื้อข้าวกินแล้วไม่ทำตาม หรือหลอกลวง ก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนได้
.
อ้อ อีกอย่างนึง รายได้ที่มาจากการขอทาน อาจต้องเสียภาษีด้วยนะ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป
.
สรุปว่า ผู้ใดขอทาน มีโทษสูงสุด คุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น"
cr. FB สายตรงกฎหมาย