- 22 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กลายเป็นที่ถกเถียงของคนในสังคมขึ้นมาทันที หลังจากพมีคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชาย "ธีรศักดิ์ หลงจิ" อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 เหตุเกิดที่จังหวัดตรัง โดยนักโทษเด็ดขาดดังกล่าวได้ทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย รวม 24 แผล เป็นเหตุให้เหยื่อถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิตศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิพากษายืนเป็นผลให้คดีถึงที่สุด
อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความที่สร้างชื่อจากการเป็นทนายคดีกลุ่มวัยรุ่นรุมฆ่าชายพิการจนเสียชีวิต โพสต์เฟซบุ๊กเเสดงความคิดเห็นกรณีการลงนำโทษโทษประหารกลับมา
ขณะเดียวกันมีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ควรมีและเพิ่มการประหารให้มากขึ้นด้วย ,ชีวิตควรแลกด้วยชีวิต ถูกต้องแล้วครับ , ประหารค่ะ ขนาดเปาวุนจิ้นยังประหารราชวงศ์ที่ทำผิดได้ นับประสาอะไรกับสามัญชนที่ทำผิด ทำชั่วไม่เกรงกลัว ตอนตายก็ต้องไม่กลัวค่ะ , และอีกอย่างทำไมเมืองไทยต้องมีการลดโทษ ไอพวกคนเหี้ยๆพวกนี้มันถึงได้ใจทำผิดแล้วผิดอีก ไม่มีสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเอง , เคสตัวอย่างมีแล้ว คนต่อๆไปคงเป็นพวกนี้ ต่อไปประเทศไทยจะได้เห็นการถูกประหารชีวิต ทุกวันทุกเดือนทุกปี ฟังแล้วก็หดหู่ใจนะคับ ทำไมติดคุกตลอดชีวิตห้ามลดโทษ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าหรือเปล่าคับ
.
ไม่เพียงเท่านั้นในรายการ เจาะเนชั่น ยังได้นำเสนอ ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ ได้สรุปสถิตินักโทษประหารชีวิต ณ วันที่ 30 เมษายน 2561 ว่ามีทั้งหมด 517 คน ชาย 415 คน หญิง 102 คน แบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ 287 คน ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาฎีกา 30 คน และนักโทษเด็ดขาดเมื่อคดีถึงที่สุด 200 คนกรณีแบ่งเป็นประเภทความผิด 3 คดี คือ คดียาเสพติดให้โทษ อุทธรณ์ 189 คน ฎีกา 24 คน และเด็ดขาด 83 คนคดีความผิดทั่วไป อุทธรณ์ 95 คน ฎีกา 6 คน และเด็ดขาด 117 คน และคดีความมั่นคง อุทธรณ์ 3 คน ฎีกา และเด็ดขาดไม่มี
ในขณะที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นว่าควรจะคงโทษประหารเอาไว้ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ลงมือกระทำผิดนั้นไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ต่างก็ออกมาเคลื่อนไหว ต่อเนื่อง อาทิเช่นพล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความแย้งถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า การออกมาต่อต้านการประหารนักโทษของประเทศไทย
จากองค์กรนิรโทษกรรมสากลในไทยนั้น มีข้อติติงหลายเรื่องครับ
(1) กรรมการขององค์กรที่ตั้งขี้นมาไม่มีมาตราฐาน ให้คนในสังคมไทย ยอมรับ
(2) ขบวนการลงโทษในไทย ไม่ได้ทำให้ผู้ต้องหาได้รับโทษจริงตามที่ศาลพิพากษาไว้
(3) โทษประหารแม้จะไม่ได้แก้ไขปัญหาทางสังคมมากนัก แต่ก็เป็นการปกป้อง
(4) สังคมไทยเต็มไปด้วยวัยรุ่นที่บรรดาลโทสะง่าย การที่ทำให้
(5) ตำรวจไม่เคยปฏิบัติตามหน้าที่ของตำรวจจริงๆ ประเทศที่เจริญแล้ว จะมีระบบ
(6) จะไม่มีโทษประหารได้ ประเทศเราต้องมีการศึกษาที่ทั่วถึงมากกว่านี้เสียก่อน
บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อดีตนางสาวไทยนั้น ก็ได้ไลฟ์สดผ่านเพจ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี.. ยืนยันถึงความต้องการที่จะเห็นโทษประหารชีวิต มีอยู่ในประเทศไทยต่อไป ดังนี้ มีใจความสำคัญ คร่าวๆว่า ขอเเสดงความยินดี กับกลุ่มเเอมเนสตี้ ที่ไปประท้วงหน้าเรือนจำบางขวางด้วย ที่ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อยากให้เห็นสภาพของครอบครัวของคนที่เป็นเหยื่อ เขาจะรู้สึกอย่างไร มีความเป็นอยู่อย่างไร อย่างน้อยนักโทษประหารยังมีโอกาสโทรหา สั่งเสียร่ำลา คนในครอบครัว เเต่เหยื่อที่เสียชีวิต เขาไม่มีโอกาสเหล่านี้เลย .. เราไม่ได้บอกว่าสังคมไทย เป็นสังคมที่เถื่อน
อ้างอิงรายการเจาะเนชั่น