- 28 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ภายหลังจาก นักฟุตบอลและโค้ชรวม 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวง ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 23 มิถุนายน 2561 จนถึงขณะนี้ยังค้นหาไม่พบ แต่การค้นหานักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความร่วมมือและน้ำใจจากทุกทาง ทุกภาคส่วน ด้วยหวังว่าจะเจอเด็กๆ และโค้ชโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จากการสำรวจหาปล่องเหนือถ้ำ จากการตรวจสอบพบ 3 จุด จุดแรกเข้าไปได้ 50 เมตร จุดที่สองเข้าไปได้ 20 เมตร และจุดที่สามเข้าไปได้ 10 เมตร ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าปล่องทั้ง 3 จุดจะเข้าไปได้แค่ไหน โดยวิศวกรรมสถานและกรมทรัพยากรธรณีเตรียมใช้เครื่องมือวิเคราะห์ปล่องและใช้เครื่องมือสอดลงไปว่าลงไปได้อีกหรือไม่ พร้อมใช้เครื่องสำรวจลักษณะของภูเขาและถ้ำด้วยว่ามีลักษณะเช่นไร เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ในการค้นหา
โดย นายสุวิทย์ โควสุวรรณ ผอ.ส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้านี้ว่า ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ติดตามและรวบรวมข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยในเรื่องของการเจาะผนังถ้ำที่คาดว่าอยู่ใกล้จุดพัทยาบีชนั้น ทางกองอำนวยการช่วยเหลือในพื้นที่ได้แจ้งว่าเริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งจุดที่จะดำเนินการนั้น เป็นบริเวณ 3 โพรงใหม่ใกล้ดอยผาหมี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สำรวจพบ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่นำขับรถเจาะขนาดใหญ่มาถึงถ้ำหลวงแล้ว เพื่อมาเตรียมเจาะถ้ำในการระบายน้ำออก โดยเจ้าหน้าที่ต้องวางแผนเพื่อเตรียมเจาะในจุดแรกบริเวณจุดโถงพัทยาบีชก่อน คาดเป็นจุดที่ทั้ง 13 ชีวิตอยู่บริเวณนั้น ซึ่งแผนใหม่ลดน้ำในถ้ำหลวง หากได้ผลเตรียมเจาะหลายจุด ใช้เวลา 1 ชั่วโมงรู้ผล
ขณะเดียวกัน นายนิวัติ บุญนพ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 เปิดเผยถึงแนวทางการเจาะว่า ทีมงานจากม.เกษตรศาสตร์ จะนำเครื่องวัดความต้านทานไฟฟ้ามาตรวจสอบพื้นที่ด้านบนถ้ำ เป็นจุดที่ตรงกับพัทยาบีช หากผลออกมาเป็นบวกก็จะดำเนินการเจาะถ้ำ โดยนำเครื่องมือเจาะของกรมทรัพยากรมาเจาะด้านบนของถ้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ลึก 120 เมตร จากนั้นนำกล้องทีวีหรือทีวีบอร์โฮลด์หย่อนเข้าไปเพื่อส่องจุดโพรงด้านใน หากพบเยาวชนก็จะหย่อนน้ำและอาหาร สำหรับการสแกนกษณะโครงสร้าง ซึ่งขั้นตอนติดตั้งจะต้องมีการวางไลน์-วางแนว สำหรับลากสายไฟก่อน.