- 03 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ถือเป็นข่าวดีที่คนไทยทั้งประเทศตั้งตารอคอย หลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยต่างเร่งค้นหาเด็กนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และโค้ช รวมทั้งหมด 13 คน ที่หายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย จนเมื่อเวลาประมาณ 22.25 น. ของคืนวันที่ 2 ก.ค. 61 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้แถลงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เจอ 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวงแล้ว ทั้งหมดปลอดภัย ซึ่งเด็กๆ อยู่บนเนินนมสาว ห่างจากพัทยา บีช ไปอีก 400 เมตรนั้น เรียกได้ว่าทั้งประชาชนคนไทย และอีกหลายประเทศต่างให้ความสนใจและติดตามข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งแรงใจช่วยให้ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย
ซึ่งต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าในการเข้าช่วยเหลือว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำเด็กๆ ทั้งหมดรวมทั้งโค้ชออกมาได้ เพราะระดับน้ำยังสูง หากถามว่าจะนำทั้งหมดออกมาวันไหน จะไม่มีการกำหนดเดทไลน์วันที่แน่นอนว่าวันไหน แต่จะเป็นวันที่ปลอดภัย 100% จึงจะนำออกมา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้แพเข้าไปรับเด็กออกมาได้หรือไม่ ทางผู้ว่าฯเชียงรายตอบว่า สามารถนำแพเข้าไปได้หากระดับน้ำในถ้ำลดลง แต่ขณะนี้ยังทำไม่ได้ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีเด็กจำนวน 3 คนมีอาการบาดเจ็บนั้น ตนไม่ยืนยัน แต่ได้ส่งทีมแพทย์ดำน้ำเข้าไปดูแลแล้ว
นอกจากนี้เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้รายงานว่า ตลอดทั้งวันนี้ นักดำน้ำอาสาฯ กู้ภัย และนักดำน้ำต่างชาติ ลำเลียงขวดอากาศ ไปยังโถง 3 ให้มากที่สุด ช่วงบ่ายนำถึงโถง 3 จำนวน 45 ขวด การนำสายโทรศัพท์ไปถึง หาดพัทยา ยังมีอุปสรรคล่าช้า ยังไปไม่ถึง
ส่วนนักดำของซีล เข้ารับผิดชอบในการดูแลเด็กๆ 9 นาย และหมอภาคย์ พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน หมอทหารที่จบซีล อีก1 นาย และ พยาบาล หน่วยซีล อีก1 นาย โดยตั้ง เป็น “บก.ส่วนหน้า” เพราะจะต้องเป็นพื้นที่ ดูแล เด็กๆ ในการปรับสภาพ พูดคุย ตรวจร่างกาย ที่พบว่า 11 คน ร่างกายปกติ อีก2 คน อ่อนเพลีย และดำเนินการตรวจ รักษา การให้ทานอาหารตามขั้นตอน และฝึกดำน้ำเมื่อพร้อม
ล่าสุดก็มีความคืบหน้าเกี่ยวสถานการณ์ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ ที่ดำเนินการสูบน้ำ ก็ยังคงเร่งมือต่อไป เพื่อหาทางนำน้ำออกจากถ้ำหลวง ให้ได้ปริมาณมากที่สุด ส่วนทีมเก็บรังนกจาก ลิบง จ.ตรัง นั้น หลังจากไปสำรวจปล่องถ้ำเขาหลวงเมื่อวาน เดินทางตั้งแต่เช้ากว่าจะถึงยอดปล่องลึกบนยอดเขาก็ราวเที่ยง พอถึงบ่ายโมงก็ทำการลงสำรวจ ซึ่งก่อนลงไปก็จะมีการอาซานและดุอาฮฺขอพรจากพระเจ้า โดยบังแอนเกาะลิบง จากนั้นก็ทำการลงสำรวจในปล่องลึกสุดโลก ซึ่งทุกคนที่เคยผ่านความยากลำบากมามากมาย ล้วนบอกว่ามันยากและลึกที่สุดกว่าครั้งใดๆ เพราต้องลงไปลึกกว่า 500 ม. ใช้เชือกยาวกว่า 100 กก.
ขณะที่ทางเฟซบุ๊ก Pop Tongmanora หนึ่งในทีมงานสูบระบายน้ำ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "เช้านี้ทีมงานท่อเรายังเดินเครื่องปกตินะเพื่อน้ำได้ลดและนำเด็กออกมาได้ง่าย ขอบคุณทุกกำลังใจ #จากเด็กบ้านแพ้วและนครปฐม"
นอกจากนี้ในเพจคิตตี้ มีหนวด ยังบอกด้วยว่า "รับการประสานล่าสุด ทีมท่อสูบน้ำซิ่ง ขอเลื่อนภาระกิจการกลับบ้านนะครับ พี่เขาขอช่วยกันสูบน้ำให้ชาวนาทั้งห้าพันไร่ที่ได้รับผลกระทบให้จบก่อน #ผมขอนับถือน้ำใจพี่จริงๆครับ"
ทำเอาชาวโซเชียลต่างซาบซึ้งในน้ำใจของทุกหน่วยงาน ที่ทำงานอย่างไม่ย่อท้อ และถือว่าภารกิจสูบน้ำออกจากถ้ำก็เป็นอีกงานหินไม่แพ้กัน ยิ่งน้ำลดไวเท่าไหร่ โอกาสที่พาทีมหมูป่า 13 ชีวิตกลับบ้าน ก็จะรวดเร็วขึ้น และนอกจากนี้ยังต้องสูบน้ำในน้ำข้าวของชาวบ้านต่ออีกด้วย เรียกได้ว่าได้ใจคนในสังคมไปเต็มๆ
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Pop Tongmanora ,คิตตี้ มีหนวด ,เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ