- 06 ก.ค. 2561
ที่เรียกผมจอดเพราะอะไร !?!? คนขับรถบรรทุก โดนเจ้าหน้าที่เรียก...รถบรรทุกแซงไม่ได้ เถียงลั่นจับแซงผมไม่ให้จับ (มีคลิป)
นับว่าเรื่องราวของผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบยังเป็นเรื่องราวที่ผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบของตำรวจเมื่อไหร่ที่มีการลงพื้นที่ ตั้งด่าน หรือว่าตรวจความเรียบร้อยของผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น ต่างมีผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของคุณตำรวจในหลายครั้ง และดูเหมือนว่าจะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องหัวเสียไปตามๆ กัน
เรื่องราวนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ออกมาเผยแพร่ผ่านทางโลกออนไลน์ ทำเอาชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายกับพฤติกรรมของตำรวจทั้งสองท่านนี้ โดยคลิปวิด๊โอดังกล่าวได้เผยแพร่ออกมาพร้อมกับข้อความว่า รถบรรทุกห้ามแซงจริงหรือ ห้ามเถียง ถ้าเถียงจะได้ขอหาเพิ่ม ทั้งนั่งแถวตอนหน้าเกิน2คน ทั้งไม่คาดเข็มขัด ทั้งๆที่คาดกันทุกคน แต่ก็เอาจนได้ อยู่ยากจริงๆ
ซึ่งเรื่องราวภายในคลิปเป็นเรื่องราวที่ชายคนหนึ่งที่เป็นคนขับรถบรรทุก ได้ขับรถมาตามท้องถนน แต่ก็ต้องจอดรถเพื่อหยุดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหน้าที่ตรวจ ซึ่งทางตนก็ยอมให้ตรวจแต่โดยดีแต่กลับถูกคุณตำรวจเขียนใบสั่งซะอย่างนั้น ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งว่าชายคนดังกล่าวได้ขับรถของตนแซงรถคันอื่น และไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะถามตำรวจกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังว่า ไม่คาดได้อย่างไร เพราะตนยืนยันว่าตน และคนที่นั่งมาด้วยคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ทางตำรวจยังคงแจ้งว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัยซึ่งผิด พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522 มาตรา 123 และยืนยันว่าที่เรียกให้จอดนั้น เพราะจะจับในข้อหาที่ขับรถแซง ซึ่งชายคนดังกล่าวรู้สึกไม่พอใจและได้เถียงกับเจ้าหน้าที่ เพราะว่าตนไม่ผิด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มว่า ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และทางเจ้าหน้าได้เชิญให้ไปขึ้นศาล
ซึ่งกฏหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก ระบุไว้ว่า
มาตรา33 ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาหรือล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้
(1) ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
(2) ทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
(3) ทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึงหกเมตร
มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจำทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจำทางเว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้
(1) ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
(2) ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
(3) จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
(4) เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
(5) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย
มาตรา 35 รถที่มีความเร็วช้าหรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท่าที่จะกระทำได้ ผู้ขับขี่รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร รถจักรยานยนต์ในทางเดินรถซึ่งได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ ตั้งแต่สองช่องขึ้นไปหรือได้จัดช่องเดินรถประจำทางด้านซ้ายไว้โดยเฉพาะ ต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทางแล้วแต่กรณีความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
มาตรา 43 (8) ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
มาตรา 123 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถยนต์ยอมให้ผู้อื่นนั่งที่นั่งตอนหน้าแถวเดียวกับที่นั่งผู้ขับขี่รถยนต์เกินสองคน ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสารรถยนต์ ซึ่งนั่งที่นั่งตอนหน้าแถวเดียวกับที่นั่งผู้ขับขี่รถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย
ขอบคุณ หนุ่ม คลองกระบวย