9 ข้อ!! #เลี่ยงเอดส์ ไทยมีผู้ป่วยจำนวนมาก! ไม่แสดงอาการ  ต้องรู้จัการป้องกันตัวเอง!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV) คือ โรคจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ (AIDS, Acquired Immuno Deficiency Syndrome หรือ Acquired Immune Deficiency Syndrome) ซึ่งทั่วโลกเริ่มรู้จักโรคเอดส์ ประมาณปี ค.ศ. 1981 ทั้งนี้การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีพบได้ในทุกอายุ! ตั้งแต่ทารกในครรภ์ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ป่วยจำนวนมาก! ที่ติดเชื้อเอชไอวี และเสียชีวิตจากโรคนี้ เนื่องเชื้อเอชไอวี พบได้ทั่วโลก เป็นโรคระบาด แต่ปัจจุบันสามารถรักษาไม่ให้แสดงอาการได้แล้ว!! แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะรักษาให้หายขาดได้!! ทำให้ทุกคนต้องรู้จักกการป้องกันตัวเอง!!
 

 

การป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี มีหลายวิธี ได้แก่
1.เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่สามี หรือภรรยาของตัวเอง ต้องใช้ถุง ยางอนามัยเสมอ ฝ่ายชายจะมีเพศสัมพันธ์กับใครต้องใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นนิสัยโดยไม่มีข้อยกเว้น ฝ่ายหญิงจะมีเพศสัมพันธ์กับชายใด ต้องให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ถ้าฝ่ายชายไม่ยอมใช้ ต้องปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์โดยเด็ดขาด รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางปากและทางทวารหนักด้วย ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเช่นกัน!
2.ฝ่ายชายไม่ควรใช้ปากกับอวัยวะเพศหญิงที่ไม่ใช่ภรรยา เพราะอาจมีเชื้อไวรัสในน้ำเมือกจากช่องคลอดของฝ่ายหญิงได้ ถ้าเข้าปากฝ่ายชายแล้วอาจทำให้ฝ่ายชายติดเชื้อได้ เคยมีรายงานการติดเชื้อโดยวิธีนี้แล้วถึงแม้จะไม่มากเท่าการติดเชื้อจากน้ำอสุจิของฝ่ายชายก็ตาม
3.หลีกเลี่ยงการจูบปากกับคนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ทราบว่าเป็นพาหะนำเชื้อหรือไม่ ถึงแม้ว่าในน้ำลายจะมีโอกาสน้อยที่จะมีเชื้อไวรัสเอชไอวี แต่ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าบังเอิญมีแผลภายในช่องปากก็อาจเป็นทาง เข้าของเชื้อไวรัสได้

 

9 ข้อ!! #เลี่ยงเอดส์ ไทยมีผู้ป่วยจำนวนมาก! ไม่แสดงอาการ  ต้องรู้จัการป้องกันตัวเอง!!

 

4.อย่าใช้การฉีดยาเสพติดชนิดเข้าเส้น อย่าใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วม กับคนอื่น
5.หลีกเลี่ยงการสักตามผิวหนัง การเจาะส่วนต่างๆของร่างกายเพราะสถานบริการบางแห่งอาจรักษาความสะอาดของเครื่องมือไม่ดีพอ
6.บุคลากรทางการแพทย์ ถ้าเกิดอุบัติเหตุเข็มตำต้องรีบแจ้งหน่วยที่ดูแลทางการติดเชื้อ เพื่อรับยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงที วิธีนี้สามารถป้อง กันการติดเชื้อได้มาก
7.ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ ยังอยู่ในระยะของการศึกษาวิจัย ยังไม่มีการผลิตออกมาใช้ในวงกว้าง ในระยะใกล้นี้ จึงไม่สามารถใช้วัคซีนในการป้องกันได้
8.ต้องเตือนตนเองไว้เสมอว่า เราไม่สามารถรู้ว่าใครติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจากการดูลักษณะภายนอก คนที่ดูภายนอกสวยงาม หรือหล่อเหลาสะอาดสะอ้านเพียงใด ก็ไม่สามารถไว้ใจได้ว่า เขาหรือเธอจะไม่ใช่พาหะนำโรคไวรัสเอชไอวีมาสู่เรา จึงต้องป้องกันไว้ก่อนเสมอ
9.ก่อนแต่งงานกับใคร ต้องตรวจเลือดของผู้ที่จะมาแต่งงานกับเราก่อนเสมอทั้งหญิงและชายว่า มีเชื้อโรคอะไร หรือเป็นพาหะของโรคใด ทั้ง นี้ไม่เฉพาะโรคเอดส์ แต่รวมถึง โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบ และโรคธาลัสซีเมีย ด้วย!

 

9 ข้อ!! #เลี่ยงเอดส์ ไทยมีผู้ป่วยจำนวนมาก! ไม่แสดงอาการ  ต้องรู้จัการป้องกันตัวเอง!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ พนัส เฉลิมแสนยากร  พยาธิแพทย์