- 16 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก 1 ในผู้ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โดยระบุว่า
"คนแปลกหน้าที่ผมอยากสวมกอดมากที่สุดในโลก ตามกระแสข่าวโค้ชเอกสุขภาพอ่อนแอสุด เหตุสละอาหารให้เด็ก ตัวเองไม่กิน ในฐานะที่เป็นผู้นำ สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด คือ กลัวว่าโค้ชเอกจะโทษตนเอง และสำนึกแบบสำคัญผิดว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของตนเอง และไม่ยอมยกโทษให้ตนเอง อันนำไปสู่การพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้า และทำร้ายตนเองได้"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายธวัชชัย กล่าวว่า ตนอยากเข้าพบและกอดเพื่อให้กำลังใจทั้ง 13 คน โดยมีกำหนดการที่จะต้องไปเปิดสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพะเยาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ หลังจากเสร็จภารกิจก็จะให้ขอให้ยุติธรรมจังหวัดเชียงรายประสานเพื่อเข้าให้กำลังใจเยาวชนทั้งหมด แต่ต้องดูความพร้อมของเด็ก ๆ และครอบครัวก่อนว่าต้องการจะพบคนแปลกหน้าเช่นตนหรือไม่ หากพร้อมก็อยากให้กำลังใจ แต่ถ้าไม่พร้อมตนก็เคารพสิทธิ์ของเขา
"แม้แพทย์จะระบุว่า ขณะนี้ทั้ง 13 คน มีสุขภาพจิตเป็นปกติ แต่ลึก ๆ ไม่มีใครทราบว่าขณะที่ติดอยู่ในถ้ำภาวะจิตใจลึก ๆ ของพวกเขา เป็นอย่างไร สิ่งที่วิตกกังวลในระยะยาวคืออาจป่วยด้วยโรคซึมเศร้าเรื้อรัง ซึ่งโรคดังกล่าวมีระยะเวลารื้อรัง 2 ปี จึงจะแสดงอาการให้เห็น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเด็กแต่ละคนเมื่อกลับคืนสู่ครอบครัวแล้วจะมีอาการลึก ๆ อย่างไรหรือไม่ จึงยังไม่ควรมีอะไรเข้าไปกระตุ้นในช่วงนี้”
"การติดถ้ำในครั้งนี้มีคุณูปการต่อประเทศไทยมากเพราะทำให้คนทั่วโลกรู้จักไทยมากกว่าเดิม เพราะมีการระดมทีมนักดำน้ำและเครื่องมือที่ดีที่สุดในโลกมารวมอยู่ที่นี่ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือสังคมจะต้องช่วยกันประคับประคองเยาวชนกลุ่มนี้ให้มีชีวิตอยู่รอดอย่างมีคุณภาพ และต้องไม่ละเลยปัญหา การช่วยเหลือในสิ่งที่เป็นไปได้ ต้องไม่ลืมว่าเขาไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นผู้ประสบภัย จึงต้องใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาร่วมกันถอดบทเรียนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต"
ขอบคุณที่มา : ธวัชชัย ไทยเขียว