พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

จากกรณีมีคนร้ายบุกเข้ามาลักทรัพย์แล้วแอบนอนหลับที่บ้านทาวส์เฮ้าส์ 3 ชั้นหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ซอยงามวงศ์วาน 18 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนที่เจ้าของบ้านมาพบ และได้มีการต่อสู้กันจนทำให้คนร้ายพลาดท่า ถูกเจ้าของบ้านใช้แขนล็อกคอเสียชีวิตภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยมี นายทรงวุฒิ ปุณณรัตน์กุล อายุ 23 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นผู้ใช้แขนรัดคอคนร้าย 

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหากับนายทรงวุฒิว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยนายทรงวุฒิก็ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ยืนยันไม่ได้เจตนาฆ่า เพียงแต่ต้องป้องกันตัวเองเท่านั้น  เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.  สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างกระบวนการสอบสวน ซึ่งจะต้องส่งสำนวนการชันสูตรพลิกศพว่าผู้ตายเป็นใคร ตายได้อย่างไร วิธีอะไร ตายที่ไหน ส่วนคดีอาญา ก็ต้องสอบสวนการกระทำของเจ้าของบ้านว่าสมควรแก่เหตุหรือไม่ ถ้าพอสมควรแก่เหตุ ทางพนักงานสอบสวนก็จะสั่งไม่ฟ้อง และจะส่งสำนวนดังกล่าวให้ทางพนักงานอัยการอีกครั้ง หากพนักงานอัยการเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินกว่าเหตุ ก็อาจสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน

 

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของบ้านว่าฆ่าคนตาย แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความต่างคือ  ฆ่าคนตายคือจงใจ เเต่ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุถึงตาย นั้นไม่ได้ตั้งใจฆ่า ด้านนางสี อินทพันธ์ พี่สาวของนายดี ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าผ่านอมรินทร์ทีวีว่า  ตนและครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความ เนื่องจากน้องชายตนก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งทางนายทรงวุฒิ ก็ได้มีการช่วยเหลือค่ารถขนศพจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 13,000 บาท

 

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

นางสี กล่าวต่อว่า หลังจากที่เห็นศพ ก็มั่นใจว่าเป็นน้องชายของตัวเอง ตนก็รู้สึกเสียใจที่มาพบกับน้องชายในสภาพที่เสียชีวิต ตอนเด็ก ๆ น้องชายตนไม่ได้มีนิสัยลักขโมย เพราะเขาบวชเณรตั้งแต่แม่ตาย หลังจากสึก เขาก็ออกจากบ้านที่ศรีสะเกษมาทำงานที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งผ่านมา 20 ปี ก็ไม่เคยได้ติดต่อหรือพูดคุยกัน และไม่เคยพบเจอกันอีก ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะมาเจอน้องชายครั้งสุดท้ายในสภาพที่เสียชีวิตแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนต้องการเพียงนำศพน้องชายกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาเท่านั้น


พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

พี่สาว "โจรชะตาขาด" ไม่ติดใจเอาความเจ้าบ้าน ซาบซึ้งผู้เสียหายจ่ายค่าทำศพ!

 

ขอขอบคุณ อมรินทร์ทีวี