"หนุ่มใต้"พลเมืองดีช่วยเด็กรอดถูกตาแท้ๆขืนใจ ได้งานใหม่ที่สภ.หาดใหญ่ หลังถูกเถ้าแก่น้ำดื่มไล่ออก

"หนุ่มใต้"พลเมืองดีช่วยเด็กรอดถูกตาแท้ๆขืนใจ ได้งานใหม่ที่สภ.หาดใหญ่ หลังถูกเถ้าแก่น้ำดื่มไล่ออก

จากกรณีที่คุณตาวัย 62 ปี เกิดอาการเมาเหล้าแล้วล่อลวงหลานสาวแท้ๆ อายุ 15 ปี ไปพยายามข่มขืนในป่าละเมาะ ในพื้นที่ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่โชคดีที่เด็กยังไม่ได้ถูกตาแท้ๆ ของตนเองขืนใจนั้น เนื่องจากเด็กได้ร้องเสียงดัง และมีพลเมืองดีผ่านมาช่วยเหลือไว้ได้นั้น 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ได้ทำการสอบปากคำชายวัย 62 ปี แต่เจ้าตัวยังปฎิเสธว่าไม่ได้ลงมือข่มขืน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ พาบุคคลอื่นไปกระทำการอนาจาร,กระทำอนาจารบุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน18 ปี,และความผิดตาม พรบ.ความรุนแรงและครอบครัว 


ต่อมาทางด้านนายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี พนักงานส่งน้ำของโรงงานผลิตน้ำดื่มแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กวัย 15 ปีได้ทันนั้น ได้เดินทางไปที่สภ.หาดใหญ่ เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังต้องเป็นพยานจนถูกนายจ้างไล่ออกจากงาน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตอนนี้ต้องเดือดร้อนเพราะไม่มีที่ไปและไม่มีที่พัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็อาศัยอยู่ที่บ้านของเถ้าแก่ หลังจากที่มาทำงานส่งน้ำได้ 2 เดือนแล้ว  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มใต้ช่วยด.ญ.รอดถูกตาแท้ๆขืนใจ โดนนายจ้างไล่ออก บอกทำเสียเวลางาน

ทั้งนี้ทางเถ้าแก่เจ้าของโรงงานผลิตน้ำที่นายทิพกร ทองขาว ทำงานอยู่นั้น ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว หลังจากถูกสังคมและกระแสโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้ไล่นายทิพกรออกเนื่องจากไปเป็นพยานในคดีดังกล่าวและทำให้เสียงานว่า ขณะนี้ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยตัวเพราะกลายเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ยืนยันว่า สาเหตุที่ให้นายทิพกร ออกจากงาน ไม่ได้มาจากการไปเป็นพยานในคดีนี้ จนทำให้เสียการเสียงานส่งน้ำไม่ทัน ซึ่งตนและภรรยายังชื่นชมนายทิพกร ด้วยซ้ำที่เป็นคนดี ช่วยเหลือเด็กให้รอดจากการถูกตาแท้ๆ ขืนใจ 

 

ส่วนสาเหตุที่แท้จริง มาจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา นายทิพกร ได้ขอรถคันใหม่ไปส่งน้ำให้ลูกค้าที่ค้างอยู่อีก 50 ถัง เพราะส่งให้ไม่ทันในวันเกิดเหตุ โดยอ้างว่ารถคันเก่าที่ขับส่งน้ำเป็นประจำกระจกแตกขับไม่ได้ ซึ่งตนก็ให้อนุญาตไป และก่อนไปส่งน้ำก็ได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจที่สภ.หาดใหญ่ เสร็จประมาณบ่าย 2 โมง และไปส่งน้ำต่อ ซึ่งเวลาที่ใช้ในการส่งน้ำจริงๆ ราว 1 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่นายทิพกร นำรถกลับมาส่งที่โรงน้ำตอน 4 ทุ่ม ภรรยาของผมจึงโมโหมาก เพราะในวันนั้นจำเป็นต้องใช้รถไปย้ายหอให้กับลูกสาวและเพื่อนที่อ.เมืองสงขลา ในช่วงเย็น จึงทำอะไรไม่ได้เลยเพราะไม่มีรถ จึงให้นายทิพกร ออกจากงาน 

"หนุ่มใต้"พลเมืองดีช่วยเด็กรอดถูกตาแท้ๆขืนใจ ได้งานใหม่ที่สภ.หาดใหญ่ หลังถูกเถ้าแก่น้ำดื่มไล่ออก

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เถ้าแก่น้ำดื่มโอดตกเป็นจำเลยสังคม ใจดำไล่"หนุ่มใต้" พลเมืองดีออกจากงาน ความจริงโมโหเอารถไปบ้านญาติ
 

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว โดยนายทิพกร ได้เดินทางมายัง สภ.หาดใหญ่ พร้อมกับนางวันดี ทองขาว อายุ 50 ปี มารดา และ น.ส.ชญานุตน์ ทองขาว น้องสาว โดยเข้าพบกับพ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี 

"หนุ่มใต้"พลเมืองดีช่วยเด็กรอดถูกตาแท้ๆขืนใจ ได้งานใหม่ที่สภ.หาดใหญ่ หลังถูกเถ้าแก่น้ำดื่มไล่ออก

 

ทั้งนี้พ.ต.อ.กิตติชัย ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับ นายทิพกร ทราบว่า สาเหตุที่ถูกไล่ออกจากงานไม่เกี่ยวกับเรื่องที่การมาเป็นพยานในคดีข่มขืนเด็กหญิง แต่มีปัญหากับนายจ้างมาก่อนแล้ว ในเรื่องงานแต่ในส่วนของตำรวจไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของประเด็นนี้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ส่วนการช่วยเหลือเรื่องงานทำนั้น ได้เสนอให้มาช่วยงานที่สภ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งค่าตอบแทนและที่พัก รวมทั้งจะเสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อมอบเกียรติบัตรยกย่องในความกล้าหาญที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กที่กำลังจะถูกข่มขืน

 

ขณะที่นายทิพกร กล่าวว่า พอใจกับงานใหม่ที่จะมาช่วยงานที่สภ.หาดใหญ่ แต่จะขอเวลากลับไปพักกับครอบครัวที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกสักสัปดาห์ก็จะกลับมาทำงาน และจะตั้งใจทำความดีต่อไป ส่วนความฝันคือจะทำงานเก็บเงินซื้อรถกระบะสักคันเพื่อส่งน้ำ และหารายได้เลี้ยงแม่และส่งเสียน้องสาวและน้องชายอีก 2 คนที่บ้านให้เรียนจนถึงระดับปริญญาตรี ซึ่งตนเองนั้นไม่ติดใจที่นายจ้างจะไล่ออก จากนี้ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่  แต่ยอมรับว่าตนเองนำรถไปใช้ส่วนตัวจริง โดยไม่ได้บอกเถ้าแก่ เนื่องจากผมไม่มีโทรศัพท์ใช้ 

 

โดยสาเหตุที่ขับรถไปบ้านญาติ ต้องการไปบอกญาติเท่านั้นว่าได้ช่วยเหลือเหยื่อให้รอดจากการถูกข่มขืน นอกจากนี้นางวันดี ทองขาว มารดาของนายทิพกร กล่าวว่า ภูมิใจที่ลูกชายทำความดี และได้รับการยกย่องจากสังคมรวมทั้งความช่วยเหลือในเรื่องงาน และดีใจที่ช่วยเหลือเด็กให้รอดจากการถูกข่มขืน