หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย!

หนุ่มใต้เจ้าของเฟซบุ๊ก Suphachai Jom Nuduang โพสต์คลิปวีดีโอเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2561 หลังถูกตำรวจเรียกค้นตัวและตรวจปัสสาวะโดยที่ไม่มีการตั้งด่าน อยากถามว่าตำรวจมีสิทธิ์ทำอย่างนี้ใช่ไหม ตนให้ความร่วมมือดีแต่แค่อยากรู้ให้แน่ใจเฉยๆ

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช คุณ Suphachai Jom Nuduang ได้เขียนข้อความบรรยายคลิปวีดีโอถูกตำรวจเรียกตรวจปัสสาวะไว้ว่า "ผมก็ไม่รู้ ผมผิดถูกนะคับ ประชาชนตาดำๆๆมั้ยรู้กฎหมายเท่าพวกพี่หรอกผมขับรถอยู่ดีๆๆ ไปซื้ออาหารนกแล้วไล่มาค้นผม พอไม่พบอะไรแล้วตรวจเยี่ยว"

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)  

 

ผมก็เยี่ยวให้ตรวจ แต่ก็ไม่พบอะไร ผมแค่อยากทราบครับว่า(ตำรวจชะอวด) ที่เห็นทำถูกหรือว่าผิด ขอพี่น้องที่รู้กฎหมายช่วยบอกผมหน่อยๆๆว่าทำแบบนี้มันถูกเหรอครับ ผมจะได้เลิกสงสัย, ช่วยแชร์หน่อยครับ

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาหาเขาพร้อมขออนุญาตตรวจค้นร่างกาย จากนั้นก็พูดกับเขาว่า "ผมสงสัยว่าคุณเสพยาขอตรวจปัสสาวะด้วยนะ" เจ้าของคลิปก็ถามกลับไปทำนองว่าสามารถเรียกตรวจเรียกค้นอย่างนี้ก็ได้หรือ ไม่มีด่านก็ตรวจได้หรือ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าสามารถทำได้แม้ไม่ตั้งด่าน เห็นน่าสงสัยก็เรียกได้หมด สำหรับเจ้าของคลิปเองเจ้าหน้าทีนายหนึ่งบอกว่าเห็นท่าทางน่าสงสัย พอเจอตำรวจก็ลุกลี้ลุกลนจึงได้เรียกตัวไว้

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

ก่อนตรวจเจ้าหน้าที่พูดกับเจ้าของคลิปว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างถูกต้องแล้ว เจ้าของคลิปจะรู้กฎหมายก็รู้ให้จริงและการถ่ายคลิปไว้ก็ให้ระวังเรื่องการนำไปเผยแพร่เพราะเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ถูกต้องตามขั้นตอน เจ้าของคลิปเองถ้ายืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติดก็ไม่ต้องกังวลอะไร

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

ทั้งนี้ชาวเน็ตต่างเข้ามาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเป็นจำนวนมากว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน

 

หนุ่มไปซื้ออาหารนกถูกตร.เรียกกลางทางค้นตัวไม่เจออะไร บอกสงสัยว่าเสพยาขอตรวจฉี่ด้วย! (คลิป)

 

ทั้งนี้เกี่ยวกับคำถามที่ว่าตำรวจไม่ได้ตั้งด่านตรวจสามารถเรียกตรวจปัสสาวะได้หรือไม่นั้นในเว็บไซต์กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าเมื่อผู้ร้องมั่นใจว่าตนเองไม่ได้เสพยา และไม่มีของผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิเรียกตรวจในบริเวณสาธารณะได้ ผู้ร้องหรือประชาชนทั่วไปต้องยินยอมให้ตำรวจ หากผลการตรวจออกมาที่ด่านตรวจเป็นสีม่วงหรือสีม่วงอ่อน ผู้ร้องสามารถร้องขอให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลได้ เพราะเป็นสิทธิของผู้ร้อง เพื่อความชัดเจนว่าเสพยาหรือไม่ เป็นผลกระทบโดยตรงของผู้ร้องและให้เกิดความชัดเจนทางคดี เนื่องจากในทางคดีเมื่อตรวจปัสสาวะที่ด่านเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวประชาชนคนนี้ว่าเสพยามาหรือไม่ มาที่สถานีตำรวจเพื่อให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือให้โรงพยาบาลตรวจปัสสาวะพร้อมนำตัวประชาชนคนนี้ไปตรวจหาสารเสพติดเช่นกัน เพื่อความชัดเจนทางคดี

1.ตำรวจมีสิทธิขอค้นดูสิ่งของในกระเป๋าได้ต่อหน้าผู้ร้อง แต่ไม่มีสิทธิยึดสิ่งของในกระเป๋า ถ้าไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย หรือมีไว้เป็นความผิด ผู้ร้องมีสิทธิใช้โทรศัพท์ได้เช่นกัน

2.การตรวจปัสสาวะของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นแค่การตรวจเบื้องต้น หากผลออกมาเป็นสีม่วง ไม่ใช่ว่าต้องเสพยาเสพติดเสมอไป อาจเป็นการทานยาอื่นๆมาก่อนหน้า และให้ผลเป็นสีม่วง ในทางปฏิบัติต้องเป็นผลการตรวจปัสสาวะที่ผ่านห้องแล็ปของโรงพยาบาลจะออกมาว่าในปัสสาวะมีสารเสพติด พนักงานสอบสวนจึงจะดำเนินคดีกับประชาชนคนนั้นต่อไป

3.กรณีไม่ได้รับคึวามดเป็นธรรม แจ้งสำนักงานจเรตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การให้คำปรึกษาดังกล่าวเป็นการให้คำปรึกษาในเบื้องต้นไม่อนุญาตให้ผู้ใดนำไปใช้อ้างอิงหรือใช้ในการดำเนินคดีใดๆ หากท่านมีข้อสงสัยเรื่องปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวท่านสามารถขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด (สยจ.) ประจำจังหวัดของท่าน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย หรือที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติอาคาร ราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรึกษากฎหมายของประชาชนทั่วไป 0 2141 2761-63หรือที่สายด่วนคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหมายเลข 1111 กด 77 ทั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษา

 

ขอบคุณ Suphachai Jom Nuduang และ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม