"ตร."น้ำใจงาม มอบเงิน500 ช่วย"คุณตาวัย79" โดนสาวเชิดเงินหนี ทิ้ง"บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ"ไว้ดูต่างหน้า

ตำรวจ น้ำใจงาม ช่วยเหลือคุณตา ที่โดนมิจฉาชีพขโมยเงินจากตู้เอทีเอ็ม

    จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.61 ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีประชาชนมาเข้าคิวกดเงิน 500 บาท จาก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนกันต่อเนื่องหนาเเน่นตลอดทั้งวัน  ซึ่งก็ได้มีเหตุการณ์ที่คุณตารายหนึ่ง มากดเงิน ก่อนจะวานให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าช่วยกดเงินจากตู้เอทีเอ็มให้ ก่อนจะเชิดเงิน วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วลอยนวล  ต่อมาจะได้ตำรวจ น้ำใจงามช่วยเหลือ

"ตร."น้ำใจงาม มอบเงิน500 ช่วย"คุณตาวัย79" โดนสาวเชิดเงินหนี ทิ้ง"บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ"ไว้ดูต่างหน้า
  

โดยคุณตาที่ประสบเหตุ มีชื่อว่า นายแหนง อ่ำพุทรา อายุ 79 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิตติพันธุ์ โปร่งคำ รอง สว.สอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ว่าตนมาเข้าคิวรอกดเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ที่หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาอู่ทอง ริมถนนมาลัยแมน สาย 321 ขาเข้าตัวเมืองสุพรรณบุรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.

 

 

"ตร."น้ำใจงาม มอบเงิน500 ช่วย"คุณตาวัย79" โดนสาวเชิดเงินหนี ทิ้ง"บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ"ไว้ดูต่างหน้า

 


  กระทั่งผ่านไป ราวๆ 2ชม.  ได้ถึงคิวของตนแต่ตนกดเอทีเอ็มไม่เป็น จึงได้ขอให้ผู้หญิงสาว วัยราวๆกลางคน  รูปร่างสันทัด ไม่อ้วน ไม่ผอม ผิวดำแดง ผมยาวประบ่าที่ได้มากดเงินคิวอยู่ด้านหน้าของตนกดให้ แต่เมื่อหญิงสาวใช้บัตรของตนกดเงินออกมาแล้ว กลับรีบเดินหนีไปโดยคืนมาแต่บัตรแต่ไม่ยอมให้เงิน

 

 

     หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.กิตติพันธุ์ สงสารลุงแหนง ที่ถูกมิจฉาชีพฉกเอาเงินสวัสดิการแห่งรัฐไป จึงได้ควักเงินส่วนตัวมอบให้ 500 บาท  โดย ลุงแหนง เล่าว่า ตนพักอาศัยอยู่กับน้องสาวและน้องเขย ตั้งใจว่าจะกดเงินช่วยเหลือคนจนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่กลับมาถูกมิจฉาชีพฉกเอาเงินหนีไปอีก โชคดีที่มีตำรวจใจดีมอบเงินมาให้มา 500 บาท ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มอบเงินให้แทนเงินคนจนที่ถูกคนใจร้ายเชิดหนีไป ขอฝากไปถึงผู้หญิงที่กดเอาเงินลุงไป ขอให้นำเงินเอามาคืนให้ลุงด้วย เนื่องจากลุงเองก็ไม่มีรายได้อะไร

 

"ตร."น้ำใจงาม มอบเงิน500 ช่วย"คุณตาวัย79" โดนสาวเชิดเงินหนี ทิ้ง"บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ"ไว้ดูต่างหน้า

 


     ทั้งนี้ตำรวจได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดกับทางธนาคารแล้ว แต่ทางธนาคารแจ้งว่าต้องทำเรื่องขออนุมัติจากสำนักงานใหญ่ก่อน จึงจะนำภาพวงจรปิดให้กับตำรวจเพื่อจะเป็นหลักฐาน ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป