- 12 ธ.ค. 2561
หลานสาว 2 ผัวเมียเปิดสาเหตุแพ้คดีความถูกทุบบ้าน เพราะคู่กรณีอ้างสิทธิ์นส.3ครอบครองที่ดิน
จากกรณีที่เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Komkay Simvivat ได้บอกเล่าเรื่องราวของคุณลุง ป้าท่านหนึ่ง ที่เสียใจอย่างหนัก หลังบ้านที่อยู่อาศัยมากกว่า 40 ปี ต้องโดนทุบ ทำให้ไม่มีที่อยู่ เนื่องจากแพ้คดีความเรื่องที่ดิน จึงวอนขอความช่วยเหลือ
พร้อมระบุว่า "ขอความกรุณาจากทุกท่านช่วยแชร์ และช่วยเหลือลุงกับป้าหน่อย บ้านแก่โดนทุบตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย61 โดนทุบเพราะแพ้คดีความเรื่องที่ดิน บ้านและที่ดินนี้แกอยู่มา 30-40 ปีแล้ว แล้วเมื่อปี 2558 มีบุคคลอ้างว่ามีหนังสือนส.3 จึงถูกฟ้องขับไล่และศาลตัดสินแพ้คดีในศาลชั้นต้น ตอนนี้กำลังอุทรณ์คดี แต่ดันมีหมายบังคดีขับไล่รื้อถอนออกมาก่อน บ้านจึงโดนทุบ
ลุงแกไปขอความช่วยเหลือทุกๆ ที่แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่คืบหน้า ทุกวันนี้แกจะไปดูบ้านแกทุกวัน และก็ร้องไห้ ตอนนี้แกอาศัยอยู่ที่โรงรถหน้าบ้านของเราอยู่ เด็กๆ มีความลำบากมากเรื่องการกิน การอยู่ จึงอยากให้ทุกท่านเข้ามาช่วยเหลือลุงกับเด็กๆ ขอแค่อุปกรณ์สร้างบ้าน หรือช่วยแชร์ ให้ข้อความนี้ไปถึงรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ ติดต่อทาง 176/1ม. 1 ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร 064-0158627 (ป้านวล) ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแชร์นะคะ"
อ่านข่าว : 2ผัวเมียร้องไห้บ้านโดนทุบเพราะแพ้คดีความ ไม่มีที่อยู่ต้องอาศัยโรงรถซุกหัวนอน
ล่าสุดทางทีมข่าวทีนิวส์ ได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว ทราบชื่อคือ "คุณป๊อบ" เป็นหลานสาวของคุณลุง คุณป้า ที่ปรากฎในคลิปโดนทุบบ้าน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังถูกตัดสินใจให้แพ้คดีความ และไม่มีที่อยู่อาศัย ว่าเดิมที ที่ดินผืนนี้ได้ที่ปู่ย่า พ่อแม่ และลุงป้าของตัวเองได้มาตั้งรกรากอยู่นั้น
ทราบว่าเป็นที่ดินส.ป.ก. ที่ใกล้กับเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในอดีตเคยมีนักธุรกิจใหญ่ เป็นคนมีอำนาจในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร อ้างว่ามีหนังสือนส.3 และยินดีจะให้ทางครอบครัวเช่าอยู่ในพื้นที่นี้ พร้อมทั้งทำการเกษตรได้ โดยไม่ขอรับค่าเช่าเป็นเงินเดือน แต่เวลามีงบจากรัฐบาลเยียวยาเกษตรกร ช่วยเงินค่าน้ำท่วม ก็ขอให้แบ่งเปอร์เซ็นต์กัน
ก็อยู่กันมาเรื่อยๆ กว่า 30-40 ปี จนตอนนี้ตัวเองเป็นหลานอายุ 32 ปีแล้ว วันดีคืนดีก็มีบุคคลที่มีอำนาจ เข้ามาในพื้นที่บ้าน อ้างว่ามีนส.3 และมีสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้จะขอให้ย้ายออกไป ไปทำกินที่อื่น ซึ่งก็แปลกใจว่า อยู่มาตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาไล่ แล้วก็ตกลงเช่าพื้นที่อยู่อาศัย ก็ยอมรับว่า อาจจะเป็นเพราะครอบครัวความรู้น้อย ไม่รู้กฎหมาย เลยตกปากรับคำอะไรไว้ในสมัยอดีต เข้าใจดีว่าไม่มีสิทธิ์ในที่ผืนนี้อยู่แล้ว แต่ก็อยู่กันมานานมาก ไม่คิดว่าจะถูกไล่
เมื่อถามถึงจุดแตกหัก ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามาไล่ที่ เกิดจากอะไร? "คุณป๊อบ" บอกว่า เพราะคุณลุงจะลงทุนปลูกอ้อย เพราะอ้อยกำลังมีราคาดี อยากเปลี่ยนจากปลูกข้าวมาเป็นทำไร่อ้อย แล้วพอลงมือปลูกไปได้สักพัก เขาก็ไม่พอใจ ส่งคนมาไถออกไป ตามมาด้วยยื่นหลักฐานฟ้องศาล ทางครอบครัวเราพยายามจะหาหลักฐานในการทำสัญญาเช่าที่ดิน หรือแม้กระทั่งว่า ได้รับการยินยอมให้มาอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ตั้งแต่มีการปัดหมุดแบ่งเขตอาศัย กับเขตป่าสงวนแห่งชาติแล้ว แต่ทนายฝ่ายเราไม่ได้เอาหลักฐานหรือพยานอื่นๆ ยื่นต่อศาล จึงถูกตัดสินใจแพ้คดีความ
ต่อมาคุณลุงได้ติดต่อไปยังกรมที่ดิน ขอหลักฐานและคำชี้แจงในการอาศัยบนที่ดินดังกล่าว และได้ยื่นคำอุทธรณ์ต่อศาลแล้ว แต่กลับมีหมายบังคับคดีมาติดหน้าบ้าน และก่อนหน้านี้เพิ่ง 1 เดือน ทางฝ่ายคู่กรณีก็ส่งคนมารื้อ ทุบบ้านออก ยอมรับว่าทางครอบครัวไม่มีความรู้ทางกฎหมายมากนัก อีกทั้งที่ออกมาร้องเรียน ก็ไม่ได้ต้องการครอบครองที่ดิน แต่เราต้องการได้อยู่ในพื้นที่นั้นต่อ ในฐานะคนอาศัย ขอแค่มีที่ซุกหัวนอน มีที่ทำกินก็เพียงพอแล้ว
แต่ที่ไม่มีอะไรจะสู้ เพราะอีกฝ่ายมีทั้งอำนาจ เป็นคนใหญ่โตในพื้นที่ ครอบครัวรับราชการและคนในพื้นที่ก็นับหน้าถือตา ส่วนเรามันคนจน เสียงจะไปดังกว่าเขาได้ยังไง ตอนนี้อยากได้ความเป็นธรรม หากไม่มีสิทธิ์อยู่ต่อ ก็ขอให้มีการชี้แจง ให้มอบความเป็นธรรมให้บ้าง เพราะยังเหลืออีก 8 หลังคาเรือนในละแวกนี้ ที่จะโดนทุบบ้านเป็นรายต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระแสในโลกออนไลน์ มีชาวโซเชียลจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นใจ และพยายามที่จะช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยในเบื้องต้น ส่วนเรื่องคดีความยอมรับว่าคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อีกทั้งเรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า การที่ชาวบ้านไม่ค่อยรู้กฎหมายเรื่องที่ดินยังมีอีกมาก และตั้งถิ่นฐานทำกินมานานก็น่าเห็นใจ ในการที่สร้างที่อยู่ใหม่ และไร้ที่ทำกิน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Komkay Simvivat , สายันต์ โพธิ์แย้ม