จ่าโทเกรียงศักดิ์ ถูกปลาสากแทงคอ แม่เคยขอให้เลิกเป็นทหารแต่เจ้าตัวอยากตามรอยคุณพ่อที่ล่วงลับ!

จากกรณี จ่าโทเกรียงศักดิ์ ทหารสังกัดกองพันทหารสื่อสาร กองพลนาวิกโยธิน ประสบอุบัติเหตุถูกปลาสาก ที่มีปากแหลม ว่ายสวนมาพุ่งชนลำคอเจ็บสาหัส ขณะฝึกรีคอนหรือ การต่อสู้ทางดิน น้ำ ฝั่ง ต่อเนื่อง 60 ชั่วโมง อยู่ในทะเล อ.แหลมงอบ จ.ตราด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมาหลังจากนั้นได้เสียชีวิตลงเนื่องจากเสียเลือดมาก

 

โดยหลังเกิดเหตุ เพื่อนและครูฝึกได้รีบนำตัวจ่าโทเกรียงศักดิ์ขึ้นฝั่ง และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล แต่จ่าโทเกรียงศักดิ์ เสียเลือดมาก ส่งผลให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุว่า มีเลือดออกในปอด ขณะนี้ญาติของจ่าโทเกรียงศักดิ์ ได้เดินทางมารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

 

 

ท่ามกลางความโศกเศร้ามีญาติของจ่าโทเกรียงศักดิ์เล่าให้ฟังว่าแม่ของจ่าโทเกรียงศักดิ์เคยขอให้เลิกเป็นทหารเนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่จ่าโทเกรียงศักดิ์ยังยืนยันจะเป็นทหารต่อไปเพื่อตามรอยคุณพ่อที่เป็นทหารเรือและเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้

 

นอกจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนเริ่มกลัวปลาสากหรือปลาเต็กเล้ง ว่าจะถูกจู่โจมเช่นเดียวกับจ่าโทเกรียงศักดิ์ ทว่าเรื่องนี้ อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์อธิบายนิสัยตามธรรมชาติของปลาสากหรือปลาเต็กเล้งหลังข่าวที่เกิดขึ้นว่า

 

 

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายครับ และขออธิบายสั้นๆ ดังนี้

ปลาเต็กเล้งพบได้ทั่วไป เป็นปลาผิวน้ำ หากินปลาเล็กเป็นอาหาร ทั่วไปในที่นี้คือตามกองหิน ใกล้แหลม ตามท่าเรือ หรือตามวัสดุลอยน้ำกลางทะเล

ปลาเต็กเล้งไม่ดุร้าย ในทางกลับกัน เป็นปลาขี้ตกใจ ตื่นกลัวคนนักดำน้ำเจอปลาเต็กเล้งเป็นประจำ ไม่ใช่ปลาหายาก

กรณีนี้เกิดขึ้นเฉพาะจริงจัง คาดว่าปลาคงตกใจจากจุดอื่น แล้วพุ่งหนีมาทางนี้ ปลาไม่มีพิษ และไม่จู่โจมด้วยการพุ่งเข้าแทง เป็นเหตุบังเอิญ เท่าที่ทราบ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ถึงขั้นเสียชีวิตในไทย ในเมืองนอกมีอยู่บ้างที่ได้รับบาดเจ็บ แต่นานๆ ครั้ง (นานมาก) เราไม่จำเป็นต้องกลัวปลาชนิดนี้ว่าจะจู่โจมเรา สุดท้าย ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งครับ