"กระทรวงยุติธรรม" ยื่นมือช่วย เด็กสาว เหยื่อ 5ทรชนขืนใจ จ่อโดนโทษสูงสุด!

จากกรณี เฟซบุ๊กชื่อ ก๊อสด์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี พ่อของเด็กหญิงถูกโจ๋วัยรุ่น 5 คน ลากไปข่มขืนเผยภาพมือขืนใจลูกสาว พร้อมคลิปขณะ อบต.เข้าเคลียร์ขอจบเรื่องมีใจความสำคัญดังนี้ “เหตุเกิดกับลูกสาวผมเอง โดนไวรุ่น 5คนนี้ ฉุดไปรุมโทรม ข่มขืน เรื่องราว รายระเอียดเป็นยังไง อันนี้ผมไม่รู้ และไม่อยากรู้ด้วย ผมรู้แค่ ลูกผมเดินอยู่ข้างถนนแล้ถูกฉุดเข้าไปในร้าน ทุกอย่าง20 แล้วร่วมกันกระทำชำเรา ตอนประมาน5ทุ่ม ของวันที่ 16/12/2561 ซึ่งตอนนั้น ผมอยู่ กทม. เพื่อนโทรมาบอกว่า ลูกสาวเราถูกข่มขืน แต่จับตัวเด็กที่ทำใด้หมดแล้ว ตอนกำลังเคลียร์กับ พ่อแม่ ของเด็กทั้ง5คนนี้อยู่ 

 

จากที่ผมฟังๆมาก็ประมานว่า หนึ่งในนั้น มี ชายคนนึง เป็นญาติของเด็กอ้างว่าตัวเองเป็น อบต. แล้วจะมายัดเงินให้ เพื่อให้เรื่องจบ ไม่ต้องแจ้งความไม่ต้องถึงโรงพัก จากตอนแรก บอกให้ 30,000 คุยไปคุยมา ต่อ10,000 ตอนนั้นผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ ผมก็โทรคุยกับเพื่อน ก็บอกว่าให้แจ้งความเลย ไม่เอาเงิน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ต่อมา คือตอนนั้นผมมาถึงแล้ว ประมาน ตี2 ก็เห็นเด็ก 5คนที่กระทำ นั้งเรียงกันอยู่บนโต๊ะหินอ่อน ผมก็ควบคุมความโมโหของตัวเองไม่ใด้ ผมเตะเด็กคนนึงสลบ อีกคนคิ้วแตก พ่อเด็กโดนตบหน้าไปทีนึง ขอหาไม่สั่งสอนลูก 

 

 

ส่วนคนที่อ่างตัวว่าเป็น อบต. ผมก็กระทืบไปอีกชุดนึง ขอหารู้มาก ออกอุบายเล่ห์เหลี่ยม หลังจากนั้น ก็ส่งตัวขึ้นโรงพัก ลูกสาวผมไปตรวจภายในที่ ร.พ.สระบุรี หลังจากเรื่องจบ ตำรวจโทรมาว่า พ่อแม่เด็กที่โดนผมกระทืบไป ไม่ยอม แจ้งความผมกับ ข้อหาทำร้ายร่างกายต่างๆนาๆ ผมยอมรับผิด ทุกข้อกล่าวหานะครับ ล่าสุด เมื่อเช้า ตำรวจโทรหาผม คุยประมาณว่า เป็นห่วงอนาคต 5คน นั้นเหมือนจะให้ผมไม่เอาเรื่อง ผมก็ งง ตอนนี้กลัวว่า ทาง อบต. จะมีเส้นสาย มีเล่ห์เหลี่ยม มาก ช่วย ฝากโซเชี่ยล ช่วยทีครับ และตำรวจได้ปล่อยตัวเด็กทั้ง5 คนไปแล้ว ผมก็ถามทำไมถึงปล่อย พี่ตำรวจบอกว่า ไม่มีหน้าที่ ที่จะจับกุม”
 

สำหรับความคืบหน้าทางด้านการดำเนินการโทษทางกฏหมายกับ 5ทรชน นั้น เฟซบุ๊ก ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือกรณีเด็กหญิง ๑๒ ขวบ ถูกกลุ่มเด็กหรือเยาวชน ๕ คนรุมโทรม

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ วรรคสาม และวรรคสี่ บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง และเด็กนั้นไม่ยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต

แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็กหรือเยาวชน จึงต้องดำเนินการตาม พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ คือ พนักงานสอบสวนต้องนำตัวเด็กหรือเยาวชนไปศาลเยาวชนฯ ในเขตอำนาจ เพื่อตรวจสอบการจับกุมทันที ทั้งนี้ ภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาที่เด็กหรือเยาวชนไปถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตามมาตรา ๗๒ ซึ่งหากในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการกระทำของเด็กหรือเยาวชนมีลักษณะหรือพฤติการณ์ที่อาจเป็นภัยต่อบุคคลอื่นอย่างร้ายแรง หรือมีเหตุสมควรประการอื่น ศาลอาจมีคำสั่งให้ควบคุมเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดไว้ในสถานพินิจหรือในสถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและตามที่ศาลเห็นสมควรได้ แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายให้ศาลคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิและประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชนเป็นสำคัญ และการควบคุมหรือคุมขังเด็กหรือเยาวชนให้กระทำเป็นทางเลือกสุดท้ายตามมาตรา ๗๔ วรรคท้ายครับ

ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนต้องแจ้งให้ผู้อำนวยการสถานพินิจที่เด็กหรือเยาวชนนั้นอยู่ในเขตอำนาจ เพื่อดำเนินการสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อเสนอความเห็นต่อศาลว่าควรใช้มาตรการใดจึงจะเหมาะกับเด็กเป็นรายบุคคลแม้กระทำความผิดร่วมกันตามมาตรา ๘๒ (๑) ซึ่งศาลก็จะดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาให้ฝึกอบรมในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนตามระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร หรือวิธีการอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร

ส่วนคดีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนไปทำร้ายกลุ่มเด็กหรือเยาวชนที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา และญาติ นั้น ก็เป็นอีกคดีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงดังกล่าวต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะได้รับการบันเทาโทษหรือไม่ก็อยู่ที่เหตุและศาลเห็นสมควรครับ

อนึ่ง สำหรับเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อสามารถได้รับเงินค่าตอบแทนความเสียหายที่เกิดข้ึนจากหรือเนื่องจากมีการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่นตาม พรบ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รับคำขอต่อไป รวมถึงการให้คำแนะนำการขอรับความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจากกองทุนยุติธรรมด้วยโดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรีจะได้เข้าไปแจ้งสิทธิ รับคำขอ ให้คำปรึกษาข้อกฎหมายและให้ความช่วยเหลืออื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

ขอบคุณข้อความจาก ธวัชชัย ไทยเขียว