ผลชันสูตร "ยายติ๋ม" ถูก "ไอ้เบนซ์"ฟาดด้วยของแข็งจนสิ้นใจ ตร.เปลี่ยนข้อหาใหม่ "ฆ่าโดยเจตนา"

จากกรณีที่มีชายวัยรุ่น ทำร้ายร่างกายหญิงสูงอายุจนถึงแก่ความตาย โดยเหตุเกิดริมถนนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ 

โดยชายวัยรุ่นรายนี้ได้ใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสูงอายุ ก่อนมีคนมาพบร่าง นอนอยู่ริมถนนสภาพใบหน้าบวมปูด ศีรษะแตกเลือดอาบทั้งตัว ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น ต่อมาจึงทราบตัวคนร้ายคือ นายเบนซ์ อายุ 17 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตคือยายติ๋ม ซึ่งเป็นคนในชุมชนเดียวกัน
 

 

ทราบว่านายเบนซ์ได้ไปต่อว่าผู้ตาย ขณะนำขยะไปทิ้งที่ถังขยะริมถนน ปากซอยชุมชน จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยทราบว่าผู้ตายได้ไปเคลียร์กับคนในครอบครัวนายเบนซ์ แล้วถูกนายเบนซ์ทำร้ายอย่างรุนแรง โดยแม่และยายนายเบนซ์พยายามช่วยกันห้ามแต่ก็ถูกทำร้ายไปด้วย จากนั้นนายเบนซ์อุ้มร่างผู้ตายมาโยนทิ้งริมถนนแล้วหลบหนีไป ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด 

 

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการจับกุมตัว นายเบนซ์ หรือ"เบนซ์ เทพารักษ์" อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย  โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา นายเบนซ์ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางวนิดา แพรนุ่น หรือ ยายติ๊ม อายุ 62 ปี แม่ค้าร้านขายของชำจนเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในชุมชนเทพารักษ์ 1 ริมถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวนายเบนซ์ได้ที่บ้านของเพื่อนรุ่นพี่ 2 คน อยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับคนทั้งสองในข้อหา ให้ที่พักพิงผู้ต้องหาด้วย

 

 

ขณะที่การสอบสวนครั้งแรก นายเบนซ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนกินเหล้าเมาและไปตามทวงเงินจากผู้ตาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้ตายมายืมเงินของยายตนเองไป 1 หมื่นบาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับยังไม่มาคืน ระหว่างนั้นเกิดการโต้เถียงกันขึ้นตนจึงโมโหตบหน้าผู้ตายไป แล้วผู้ตายก็เดินหนีไปที่หน้าร้านขายของตนก็เดินตามไปทุบตีกระทืบผู้ตายจนสลบ จากนั้นก็ลากร่างของผู้ตายออกมาริมถนนโดยหวังว่าชาวบ้านจะได้พาผู้ตายไปหาหมอ ที่ทำไปเพราะตนเองเมาและโมโหจนขาดสติ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ถึงแก่ความตาย แต่ก็ไม่ทราบว่าเสียชีวิตได้อย่างไร

 

ตามมาด้วยถ้อยคำสารภาพผ่านคลิปวีดีโอ ซึ่งในครั้งนี้ นายเบนซ์บอกว่า "ข่าวบอกว่าผมชิงทรัพย์ ผมไม่ได้ชิงครับ แล้วก็ว่าจะซ่อนศพ ก็ไม่ได้ซ่อนครับ มีรุ่นพี่มาช่วย บอกจะพาแกไปหาหมอ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าวด้วย ผมไม่ได้ตียายจนตาย แค่ผลักแกข้างหน้า แล้วแกล้มไปกระแทกเหลี่ยมปูน ตอนนั้นแกยังมีสติอยู่เลย รุ่นพี่โทรเรียกรถโรงพยาบาลแล้ว ผมตีแก แต่ไม่ได้ทุบตีจนตาย แกไม่ได้เสียชีวิตตรงที่เกิดเหตุ แกไปเสียชีวิตที่หน้าบ้านผม"

 

 

อ่านข่าว : "อีเจี๊ยบ" รับไม่ได้มีคนเรียกชื่อ"ไอ้เบนซ์"เหมือนยกหาง ล่าสุดพลิ้วคดีโทษ "ยายติ๋ม" ล้มกระแทกเหลี่ยมปูนเสียชีวิต

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติม คืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยทางด้านพ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รับผลชันสูตรศพ นางวนิดา แพรนุ่น หรือยายติ๋ม อายุ 62 ปี แม่ค้าร้านขายชำ ที่ถูกนายเบนซ์ ทำร้ายจนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางแพทย์เปิดเผยแล้วว่า ผู้ตายถูกทุบตีด้วยของแข็งอย่างแรงที่ศีรษะ และต้องเป็นการใช้อาวุธลงมือเท่านั้น

 

ผิดกับคำกล่าวอ้างของ นายเบนซ์ ที่บอกว่า แค่ตบหน้าและผลักเบาๆ แต่ผู้ตายล้มศีรษะฟาดเหลี่ยมปูนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น

 

 

 
จึงมีการขอเปลี่ยนข้อหาจากเดิมคือ ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาเป็นการฆ่าโดยเจตนา เนื่องจากหลักฐานสำคัญทางการชันสูตรศพ ค่อนข้างชัดเจนว่าผู้ต้องหาตั้งใจจะลงมือฆ่าให้ตาย ทั้งนี้เมื่อแจ้งข้อหาใหม่เสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุตรงชุมชนเทพารักษ์ 1 ริมถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น เพื่อเตรียมฝากขังในวันที่ 22 ธ.ค. 2561 นี้

 

 

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ได้ลงมือเหตุมาหลายคดี ก่อนจะมาโดนจับในคดีทำร้ายยายติ๋ม ตอนเป็นเยาวชนมีทั้งหนีคดีกรรโชกทรัพย์ ชิงทรัพย์ พยายามฆ่า และเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ในจังหวัดขอนแก่น โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวตอนฝากขัง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนเมื่อคืน(20 ธ.ค.)  นายเบนซ์นอนคุกคืนแรก มีอาการอิดโรยเล็กน้อย และบ่นว่าเหงา