รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

จากกรณีคดีที่คนในสังคมให้ความสนใจอย่างยิ่ง สำหรับกรณีที่เด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 5 รายก่อเหตุรุมข่มขืน ภายในร้านขายของแห่งหนึ่งพื้นที่จ.สระบุรี โดยในเวลาต่อมาพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายได้ร้องขอความเป็นธรรมและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเอาผิดกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุต่างรับสารภาพว่าได้ลงมือรุมข่มขืนเด็กหญิงจริง นั้น

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

ในเวลาต่อมากลายเป็นเรื่องราวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียลเมื่อเฟซบุ๊กเพจดังอย่าง "ล่า" ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ภายหลังจากที่พ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายได้มีการเปิดใจผ่านโซเชียลว่าตนเองและลูกสาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ถึงขั้นลูกสาววัย 12 เหยื่อ 5 วัยรุ่นหลุดปากว่าจะฆ่าตัวตายได้ไหม พร้อมกับมีการเปิดเผยข้อมูลว่าเด็กหญิงโดนผอ.โรงเรียนบีบให้ลาออก เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จนกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมากมายจากชาวเน็ต

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความว่า...ถ้าตามประเด็นข่าวเป็นจริงย้าย ผอ.ออกไปก่อนเลย..!!! ประเด็นน้องเด็กหญิงถูกรุมโทรมนั้น สถานะตกเป็นเหยื่อที่ต้องได้รับการดูแลเฉกเช่นเดียวกับทีมหมู่ป่าติดถ้ำ บิดามารดา ผู้ปกครอง ครู คนในชุมชน สังคมประเทศนี้ ต้องดูแลและให้กำลังใจและปกป้อง ไม่ซ้ำเติม รวมถึงต้องช่วยกันแสวงหาหนทางเพื่อช่วยให้น้องและครอบครัวก้าวผ่านมันไปให้ได้ จนสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขครับ

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

ตามประเด็นข่าวคนที่ต้องเข้าใจเรื่องนี้ คนสำคัญที่สุดนอกจากพ่อแม่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว คุณครูและผู้บริหารสถานศึกษาก็ยิ่งต้องตระหนักรู้ยิ่งกว่า เนื่องเป็นองค์กรที่ดูแลเด็กและเยาวชน และหรือรวมทั้งไม่ควรอนุญาตให้บุคคลใด ๆ เข้าไปสัมภาษณ์หรือข่มขู่เด็กได้

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

ในฐานะกรรมการสามาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ด้านการพัฒนาเด็ก เยาวชนและครอบครัว เห็นว่า ถ้าเป็นจริงตามข่าว แสดงว่าผู้บริหารศึกษาแห่งนี้ไม่ตระหนักรู้ มีวุฒิภาวะและสำนึกไม่เพียงพอที่สมควรจะเป็นผู้บริหารสถานศึกษา และเห็นว่าควรเป็นคนแรกที่ต้องออกไปจากสถานศึกษาแห่งนี้ มิใช่เด็กครับ

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความที่ถูกเผยแพร่โดยสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ "ร่มไม้ แทททู" ซึ่งได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า...ในวันที่ 23 ธันวาคมวันอาทิตย์นี้นะครับ ทางพวกเรา ชมรมผู้อาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย จะเดินทาง ไป ให้กำลังใจช่างก็อส และ มอบเงินที่รวมกัน ของพี่น้องชมรม เพื่อไป ช่วยเหลือเพิ่มเติม สถานที่รวมตัวพบกันที่ สถานีรถไฟสระบุรี ไม่เกินเวลา 10 โมงเช้า ใครที่ จะไปด้วยกันไปเจอกันที่นั่นนะครับ ใครที่จะไปช่วยคอมเม้นหน่อยนะครับ หรือท่านใดที่อยาก จะ ช่วยและมอบ ให้ด้วยตัวเองนอกเหนือจากชมรมก็ยินดีนะครับ แล้วพบกันครับ 

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

มิจฉาชีพที่นี่ไม่มีหรอก มีแต่มิตรแท้ที่ไม่เคยทิ้งกัน .!!! อย่าร้องไห้เลยไอ้น้อง เอ็งไม่ได้สู้เพียงลำพัง เอ็งยังมีเพื่อน มีพี่น้อง มีชมรม มีคนที่รักเอ็งอยู่อีกเยอะ อย่าท้อ ทุกคนพร้อมเป็นกำลังใจพร้อมช่วยเหลือ เพราะเราคือ (((ชมรมผู้รักอาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย))

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

รองปลัดยุติธรรม อัดแรงผอ.หญิงถ้าพูดจริง บีบคั้นเหยื่อขืนใจ ต้องเป็นคนแรกพ้นโรงเรียนไม่ใช่เด็ก

 

ขอบคุณ : ธวัชชัย ไทยเขียว