"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" โดดป้อง! "เด็กหญิงวัย 12" เข้าโครงการคุ้มครองพยาน

"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" โดดป้อง! "เด็กหญิงวัย 12" เข้าโครงการคุ้มครองพยาน

จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อว่า ก๊อดส์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี ได้โพสต์เตือนภัยที่เกิดขึ้นในจ.สระบุรี โดยระบุว่า “อยากเตือนภัย ชาวสระบุรี บ้านเรา อยู่ยากแล้ว” พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง โดนวัยรุ่น 5 คน ฉุดไปรุมโทรม ข่มขืน เบื้องต้นรู้เพียงว่า ลูกสาวเดินอยู่ข้างถนนแล้ว ถูกฉุดเข้าไปในร้านขายของ 20 ทุกอย่าง แล้วร่วมกันกระทำชำเรา พร้อมระบุด้วยว่า ยังมีอีก 2 คลิป ช่วงแรก ประมาณ 23.00 ของวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งตนเองอยู่ กทม.เพื่อนโทรมาบอกว่า ลูกสาวเราถูกข่มขืน แต่จับตัวเด็กที่ทำได้หมดแล้ว ตอนนี้กำลังเคลียร์กับพ่อแม่ของเด็กอยู่ โดยหนึ่งในนั้น มีชายคนหนึ่ง เป็นญาติของเด็กทั้ง 5 อ้างว่าเป็น อบต. แล้วจะมายัดเงินให้เรื่องจบ ตอนแรกบอกว่าจะให้ 30,000 คุยไปคุยมาต่อรองเหลือ 10,000 ตนบอกเพื่อนให้แจ้งความ เพราะจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" โดดป้อง! "เด็กหญิงวัย 12" เข้าโครงการคุ้มครองพยาน

 

สำหรับความคืบหน้าในวันนี้ (24/12/2561) นายอาคม พ่อของเหยื่อ 5ทรชน ได้ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งสุดท้าย โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ในตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาเพราะได้กำลังใจจากเพื่อนและญาติพี่น้อง รวมถึงพี่ๆ สื่อมวลชนที่คอยช่วยเหลือในการทำข่าว โดยความคืบหน้านั้นก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อทั้ง 5ทรชน นั้น ได้เข้าไปอยู่ในมือตำรวจแล้ว และรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระบุรี นั้นทำงานได้ดีและรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก 

 

โดยพ่อเด็กก็มีการสอบถาม เจ้าหน้าที่สภ.สระบุรีว่าจะมีการเอาผิด เด็กอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เล่นเกมส์นั้น ตนจะจะเอาผิดได้ไหม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กล่าวว่าไม่สามารถเอาผิดได้เพราะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ดังกล่าว 

 

"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" โดดป้อง! "เด็กหญิงวัย 12" เข้าโครงการคุ้มครองพยาน

 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวนั้น ก็มีการสอบถามถึงพฤติกรรมของลูกสาว เหยื่อ 4ทรชนว่า เด็กนั้นเกเรและไม่ค่อยตั้งใจเรียนหรือเปล่า โดยพ่อเด็กก็กล่าวว่า เป็นเพื่อนปกติของเด็กวัยประมาณนี้เพราะสมัยตนอายุเท่าลูกก็มีการหยุดเรียนและเกเรด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้านประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดอย่างประเด็นที่ ผอ.รร.นั้นจะไล่ออกลูกของตนนั้น ยืนยันว่ามีการพูดจริง แต่ไม่ใช่ผอ.รร. แต่เป็นคนที่ตำแหน่งสูงกว่านั้น โดยตนนั้นหลังจากที่ลูกสาวถูกซ้ำเติมจิตใจนั้น ก็ได้ให้ลูกลาออกและหยุดเรียนไปแล้ว 

 

"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" โดดป้อง! "เด็กหญิงวัย 12" เข้าโครงการคุ้มครองพยาน

 

สืบเนื่องจากกรณีดังนั้น เพจ ล่า ได้เปิดเผยข้อความของ ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยล่าสุดนั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ #สำนักงานคุ้มครองพยาน อุ้ม #เด็กหญิงเหยื่อทรชน เข้าโครงการคุ้มครองพยาน นอกจากนี้รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังโพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อเฟส "ธวัชชัย ไทยเขียว" ว่า

กระทรวงยุติธรรมยินดีช่วยเหลือค่า ทนายความและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี รวมถึงรับเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน

สืบเนื่องจากกรณีผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม สามารถขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการตามมาตรา ๒ (๑๔) ประมวลกฎหมายอาญาได้ และเมื่อพิจารณาฐานะความเป็นอยู่ของบิดามารดาของเหยื่อแล้ว ไม่สามารถเข้าถึงความเป็นธรรมด้วยตนเองได้ ก็สามารถขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมเป็นค่าจ้างทนายความและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในระหว่างการดำเนินคดีได้ครับ

นอกจากนี้ หากเด็กผู้เสียหายถูกข่มขู่หรือคุกคามรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหน่ึงอย่างใดของพยานทั้งก่อน ขณะ และหลังมาเป็นพยานนั้น สามารถขอเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานของกระทรวงยุติธรรมได้ และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับทางเพศอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย การย้ายที่อยู่หรือที่พักอันเหมาะสม จัดเจ้าหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัย ได้รับค่าใช้จ่ายค่าเลี้ยงชีพที่สมควรแก่พยานหรือบุคคลท่ีอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดู ช่วยเหลือเรียกร้องสิทธิที่พยานพึงได้รับ ดำเนินการเพื่อให้พยานมีอาชีพหรือการศึกษาอบรม หรือดำเนินการอื่นใดให้พยานสามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามความเหมาะสม ทั้งดำเนินการอื่นใดให้พยานได้รับความช่วยเหลือและได้รับความคุ้มครองตามที่เห็นสมควร

ทั้งสองบริการข้างต้นสามารถยื่นได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรี หรือที่กระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตามจะให้ยุติธรรมจังหวัดสระบุรีทำงานเชิงรุกไปพบบิดาของเด็กด้วยอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตามตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๓๐ ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือโฆษณาข้อความซึ่งปรากฏในทางสอบสวนของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือในทางพิจารณาคดีของศาลที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว หรือชื่อสกุล ของเด็กหรือเยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด หรือสถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาโดยได้รับอนุญาตจากศาลหรือการกระทำที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

ดังนั้น สื่อและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยอด

นายธวัชชัย ไทยเขียว
รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ล่า ธวัชชัย ไทยเขียว