รวบแล้ว สาวแสบหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายกว่า10ล้านบาท

รวบแล้ว สาวแสบหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายกว่าสิบล้านบาท

ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง 
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น , พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษบก.สส. บช.น. วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.อัญชรินทร์ รัตนสิงห์ อายุ 39 ปี ตามที่อยู่บ้านเลขที่ 55/270 ซ.พระสุเรนทร์ 44 คลองสามวา กทม. ผู้ต้องหาความผิดฐาน”ฉ้อโกงฯ”ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ7/11 ริมถนนราชดำเนิน ต.คลองกระแซง อ.เมือง จ.เพชรบุรี 

 

รวบแล้ว สาวแสบหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายกว่า10ล้านบาท

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.อัญชรินทร์ รัตนสิงห์ ยังมีหมายจับในคดีอื่นดังนี้
1.หมายจับ ศาลมีนบุรี ท้องที่ สน.บางชัน ข้อหา “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะออกเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น”
2.หมายจับ ศาลมีนบุรี ท้องที่ สน.บางชัน คดีข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”
3.หมายจับศาลกรุงเทพใต้ ท้องที่ สน.พลับพลาไชย ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน”
4.หมายจับ ศาลแขวงพระนครเหนือ ท้องที่ สน.โชคชัย คดีข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”
5.หมายจับ ศาลแขวงพระนครใต้ ท้องที่ สน.ภาษีเจริญ คดีข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”
6.หมายจับ ศาลแขวงพระนครใต้ ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”
7.หมายจับ ศาลจังหวัดจันทบุรี ข้อหา “พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ .จำเลยไม่ไปตามศาลนัดแล้วหลบหนี

รวบแล้ว สาวแสบหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายกว่า10ล้านบาท

 

จากกรณี ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อน ถูกผู้ต้องหาหลอก ขายสินค้าแบรนด์เนมซึ่งมีราคาสูง จำพวก กระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับ ฯลฯ ในสังคมออนไลน์โดยมีทั้ง หลอกให้โอนเงินชำระค่าสินค้า และ โอนเงินค่ามัดจำสินค้าสำหรับสินค้าพรีออเดอร์ไปยังผู้ต้องหา เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับจึงได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ระมัดระวัง ในการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ต้องหานี้ และ ได้มีการติดตามเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ โดยได้มีการขอความช่วยเหลือไปยัง สื่อสังคมออนไลน์ ร่วมทั้งขอความช่วยเหลือไปยังผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ผบก.สส.บช.น.ได้ทราบเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพนี้ โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ก่อเหตุเพิ่มเติม ต่อมา กก.วิเคราะห์ข่าวฯจึงได้สืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ต้องหาได้ จากนั้นจึงได้นำส่ง พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้ต้องหารายนี้ ได้โพสต์ประกาศขายสินค้าแบรนด์เนมตามหน้าเว็บเพ และ สื่อต่างๆ โดยสินค้าดังกล่าวนั้น มีทั้งสินค้าที่มีอยู่จริง และ สินค้าที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งสินค้า มือหนึ่งและมือสอง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ โอนเงินชำระค่าสินค้า หรือเงินมัดจำค่าสินค้ามา ก็ไม่ได้ส่งสินค้าให้ผู้เสียหายมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาทซึ่งการกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหา ทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่ได้แจ้งความแล้วและยังไม่แจ้งความทาง บก.สส.บช.น.จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลของคนร้าย และสืบสวนติดตามจับกุมจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ เพื่อนำส่ง พงส.ผู้รับผิดชอบ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผบก.สส.บช.น. ขอเรียนกับประชาชนว่า ในปัจจุบันการติดต่อซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเรื่องที่ง่าย และสินค้าแบรนด์เนมบางชนิด มีมูลค่าสูง จึงควรใช้ความระมัดระวัง และ ตรวจเช็คข้อมูลของผู้ขายให้ละเอียด ควรสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขาย ที่มีความน่าเชื่อถือเพราะพี่น้องประชาชน อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา เพื่อประสงค์ทรัพย์สินของท่าน เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น 

 

รวบแล้ว สาวแสบหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายกว่า10ล้านบาท

ขอบคุณเพจ123คนดีมีน้ำใจ สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เพชรบุรี