พ่อวัย 67 ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะติดยาบ้า ส่งบำบัดไม่เป็นผล

พ่อวัย 67 ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะติดยาบ้า ส่งบำบัดไม่เป็นผล

กลายเป็นเรื่องราวสุดเศร้าส่งท้ายปี ที่ต้องจบชีวิตเพราะปัญหายาเสพติด เมื่อลูกชายวัย 22 ปี ถูกพ่อยิงเสียชีวิตคามือ โดยพ่อของผู้ตายได้ให้การว่า ลูกชายติดยาเสพติดอย่างหนัก เข้ารับการบำบัดหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จนนานเข้าเหมือนเป็นปัญหาสะสมระหว่างพ่อกับลูก จนเกิดพลั้งมือยิงลูกเสียชีวิต

โดยทางด้าน พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.สะบ้าย้อย และพ.ต.ท.ศราวุธ เจี้ยงเต็ม รองผู้กำกับการสอบสวน และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ หลังรับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 27/5 บ้านทัพหลวง หมู่1 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายมานพ ทันประจำสินธุ์ อายุ 22 ปี  พบว่ามีบาดแผลถูกยิงเข้าราวนมขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นพักของผู้ตาย 

พ่อวัย 67 ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะติดยาบ้า ส่งบำบัดไม่เป็นผล

 

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ  นายสามารถ ทันประจำสินธุ์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของนายมานพ และเป็นอดีตนายกอบต.คูหา หลังก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุเสร็จจึงได้ควบคุมตัวนายสามารถ ไปยังสภ.สะบ้าย้อย และได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งนายสามารถยอมรับสารภาพว่ากระทำการดังกล่าว และได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนและได้รับอนุญาตให้ประกัน 

 

พ่อวัย 67 ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะติดยาบ้า ส่งบำบัดไม่เป็นผล


ทั้งนี้สาเหตุในเรื่องราวสุดเศร้านี้ สืบเนื่องมาจากที่ลูกชายติดยาอย่างหนัก ฝ่ายพ่อของผู้ตายเคยให้ตำรวจไปจับตัวที่บ้านหลายครั้ง รวมทั้งเคยพาไปเข้ารับการบำบัดแต่ก็ไม่ยอมเลิกเด็ดขาด และหวนกลับมาเสพอีก จึงหมดปัญญาที่จะรักษา

 

โดยขณะเกิดเหตุ นายมานพได้พยายามนำอาวุธปืนลูกซองยาวออกจากบ้าน แต่ถูกนายสามารถผู้เป็นพ่อพยายามเข้าไปห้ามไม่ให้เอาออกไปเพราะเกรงว่าจะไปก่อเรื่อง จึงได้เกิดยื้อแย่งและกระทบกระทั่งกันขึ้น สุดท้ายนายสามารถ ผู้เป็นพ่อแย่งปืนได้และยิงใส่ลูกชายไป 1 นัดจนล้มลงขาดใจตายคาที่ต่อหน้าต่อตา ด้วยความโกรธและบันดาลโทสะ 

 

พ่อวัย 67 ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะติดยาบ้า ส่งบำบัดไม่เป็นผล

 

อย่างไรก็ตามนายสามารถ ผู้เป็นพ่อได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ยังไม่พร้อมที่จะพบใคร เพราะสภาพจิตใจยังย่ำแย่กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวและต้องมาฆ่าลูกชายด้วยน้ำมือของตัวเอง