สธ.-กทม.-กรมควบคุมมลพิษ เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพฝุ่นละอองขนาดเล็กในกทม.-ปริมณฑล

กระทรวงสาธารณสุข และ กรมควบคุมมลพิษ จับตาเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จากสภานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกระจายในกทม.และปริมณฑล

ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต  นายแพทย์กิติพงษ์ พนมยงค์ หัวหน้ากลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ รพ.นพรัตนราชธานี แถลงข่าวการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 

 

นายแพทย์ศุภกิจกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์สุขุม  กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ ร่วมปฏิบัติงาน และประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ เพื่อติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน

 

โดยยกระดับจาก EOC ของกรมอนามัยที่เปิดมาตั้งแต่เริ่มพบปัญหาฝุ่นละออง เมื่อเดือนธันวาคม 2561 พร้อมทั้งกรมควบคุมโรค ได้ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด และจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งมีการสื่อสารเตือนภัยให้ประชาชนทราบความเสี่ยงและป้องกันดูแลสุขภาพของตนเองได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

แพทย์หญิงพรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ได้ออกประกาศค่าเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กแบ่งเป็น 5 สีตามระดับความเสี่ยงต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นไปตามค่าคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ มีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง โดยสีส้มและสีแดงเป็นสีที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยคุณภาพอากาศระดับสีส้ม (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)

 

คือเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงให้ลดการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่หากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง (เกิน 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) เป็นระดับที่มีผลต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรลดหรืองด และกลุ่มเสี่ยงให้งดการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเมื่อออกนอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติเช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น

 

สำหรับการเลือกสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กนั้น ขอให้ประเมินความเสี่ยงของตนเองว่ามีความเสี่ยงสูงหรือไม่ เช่น อาศัยอยู่ในพื้นที่และช่วงเวลาที่มีค่า PM 2.5 สูง และกลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือ ต้องทำงานหนักกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น ตำรวจจราจรที่ทำงานกลางแจ้ง วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง คนงานที่ทำงานก่อให้เกิดฝุ่น เป็นต้น ควรสวมใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ ตั้งแต่มาตรฐาน N95 ขึ้นไป และใส่ให้ถูกวิธีจึงจะป้องกันได้ กลุ่มที่มีโรคประจำตัวได้แก่ หอบหืด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรขอคำปรึกษากับแพทย์ประจำตัว 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เช้านี้อากาศ "กรุงเทพฯและปริมณฑล" ค่าฝุ่นลดลงเกือบทุกพื้นที่ คาด 7 ก.พ.ลดลงอีก

-กรมควบคุมมลพิษ คาด 7-8 ก.พ.นี้ ปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 อาจเพิ่มขึ้น เตือนจุดฝุ่นเยอะ

 

สำนักการแพทย์

 

สาธารณสุข