หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

ที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยหลักๆ ในการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้ และยิ่งในยุคปัจจุบันคอนโดถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนวัยทำงานมากที่สุด เพราะสะดวก และมีพื้นที่ใช้สอยอย่างเพียงพอกับการจัดการทำความสะอาด รวมไปถึงการบริการของส่วนกลางต่างๆ ที่มาทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และห้องทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้หลายคนเกิดไอเดีย อยากดัดแปลง ตกแต่งห้อง ในความสไตล์มากยิ่งขึ้น 

 

เหมือนกับหนุ่มรายหนึ่ง ที่ซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง และตัดสินใจทำการตกแต่งห้องใหม่ ให้กลายเป็นคาเฟ่เล็กๆ มีมุมนั่งพักผ่อน เหมือนได้อยู่ในร้านกาแฟและขนม โดยหนุ่มคนนี้ได้เล่าผ่านเว็บไซต์ชื่อดัง บอกว่า โดยนี้จะเป็นการรีวิว การตกแต่งคอนโดห้องเล็กๆให้เป็นคาเฟ่ส่วนตัวนะครับ  จากเด็กๆ ที่อยากจะมีบ้านของตัวเองแล้วแต่งตามแบบที่เราชอบ แต่ก็ได้แค่เล่น The Sims วนๆไป  จนวันนี้ได้ทำตามฝันที่เด็กๆได้อัดอั้นไว้แล้วครับ
 

ผมตัดสินใจซื้อคอนโดโครงการนึงที่พอจะไหว ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทำงาน อยู่ช่วงสถานีต้นๆ เส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง ห้องผม ขนาด 28 ตรม.อยู่ชั้น 1 ครับ 555 ไม่ได้อ่านผิดหรอกครับ ชั้น 1 ชั้นแรกที่ติดพื้นเลยครับ 
จะซื้อห้องนี้ตอนแรก มีแต่คน งง ทำไมเอาชั้นนี้ ตึกมีตั้ง 20-30 ชั้น ซึ่งตอนนั้นก็ลังเลระหว่างห้องชั้นสูงแต่ห้องมุมกับห้องทิศแดด 


        
แต่สุดท้ายพอทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศห้องจริงๆกันแล้ว ต่างเห็นพ้องต้องกันเลยครับ ว่ามันโอเคตามที่ผมบอก ห้องชั้น 1 มันไม่ได้แย่เลยจริงๆ (รอบๆตึกพักอาศัยที่เริ่มจากชั้น1 เป็นสวนของโครงการหมดเลยครับ ส่วนตัวมาก ห้องชั้นนี้เลยเหมือนได้พักกลางสวนกันไปเลย55)


 
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เดิมแล้วผมเป็นคนชอบต้นไม้ครับ (คงพอเดาๆได้จากการเลือกตำแหน่งห้องแล้ว555) แล้วก็ชอบบรรยากาศตามร้านอาหารตามคาเฟ่ร้านกาแฟ คือคอนเซปของห้องที่อยากได้ครับ คืออยากให้มีต้นไม้เยอะๆ มีไฟเหลืองๆ โทนอบอุ่นๆ หน่อย แต่ก็ยังคงสไตล์เข้มๆ เท่ๆ ตามแบบห้องผู้ชายอยู่ ซึ่งสไตล์ที่ตอบโจทย์คือ สไตล์ tropical-loft แบบ modern หน่อยๆ ครับ อินสปาย เรฟ เสพๆจาก Pinterest ช่วยได้เยอะครับ ละก็ได้จ้างอินทีเรียมาช่วยดูเรื่องแบบให้ครับ 

 

การตกแต่งหลักๆที่ใช้จะเป็นไม้และวัสดุผิวด้านๆครับ เลยใช้เป็นตัวระแนงไม้กับเหล็กสีด้าน และจะเลี่ยงไม่ใช้วัสดุผิวเงาสะท้อน เลยครับ เพราะกลัวมันจะไปทาง luxury ถ้ามีกระจกหรือของเงาๆเยอะๆ

 

-เริ่มที่งานบิลต์อินในห้องนอนครับ จะข้ามห้องนั่งเล่นไปนะครับเพราะเป็นบิลต์พวกตู้เก็บของทั่วๆไป เนื่องจากห้องนอนพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จากห้องตัวอย่างที่แค่ใส่เตียงขนาด 5 ฟุตก็เต็มแล้ว แต่ผมอยากมีพื้นที่สำหรับโต๊ะนั่งทำงาน และจะทำฐานเตียงแบบมีสเต็ปเหยียบขึ้นไปด้วย เลยเปลี่ยนทิศหัวเตียง แล้วก็ปรับขนาดที่นอนให้เหลือขนาด4ฟุตครึ่ง จริงๆ ก็เป็นขนาด Double bed มาตรฐาน แต่ทางบ้านเราก็จะเห็นมีแค่ 5-6 ฟุตสำหรับเตียงคู่ ซึ่งก็มีโรงงานของแบรนด์ที่นอนที่รับทำตามขนาดเฉพาะพร้อมผ้าปูให้เราอยู่ครับ สอบถามได้  เราก็จะได้พื้นที่สำหรับนั่งทำงานเพิ่มเข้ามา กับขนาดที่นอนที่เล็กลงหน่อย แต่นอนกันสองคนแล้วก็พอดีเลยครับไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัดอะไร 

  
โต๊ะทานข้าวในบริเวณห้องครัว จากห้องตัวอย่างที่เป็นโต๊ะหันหน้าชนกัน ก็ให้เป็นโต๊ะบาร์ อยากได้ฟีลนั่ง อยู่ร้านกาแฟครับ55 พร้อมได้พื้นที่สำหรับตู้เก็บของด้วยครับ

-ฝ้าเพดาน ใส่รายละเอียดเพิ่มโดยใส่ไม้ ระแนงไม้ และตะแกรงเหล็กฉีกแขวนลงมาครับ (ตัวฝ้าเหล็กจะติดหลังจากงานบิลต์หลักนะครับ) ซึ่งงานฝ้าของคอนโดต้องระวังตัวหัวดับเพลิง กับตัวสัญญาณเพลิงไหม้ด้วยนะครับ ซึ่งตอนออกแบบไม่ทันคิดเรื่องนี้ โดยทางโครงการแจ้งว่า ห้ามทำการปิดทับ/ย้าย หรือกระทำการใดใดอันเป็นการกระทบต่อระบบความปลอดภัย ก็เลยต้องแก้ปัญหาโดยทำเว้นช่วงส่วนงานระบบความปลอดภัยไว้

 

-งานผนัง สีที่ใช้ทานี่เปลี่ยนสองสามรอบได้ครับ55 สีตอนแรกเป็นสีเข้มเลยครับพอทาไปละ+ห้องเราเล็กด้วย เลยกลายเป็นรู้สึกอึดอัดไปหมด ตอนแรกก็อ่านมาแหละครับเรื่องนี้ ก็สงสัยว่ามันจะจริงหรอ ซึ่งพอทาไปเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง

 

ต้องทาใหม่ ดรอปเฉดลงมา ...แต่ก็ดันมีเรื่องอีก เนื่องจากว่าสีที่ดูจากแคตตาล็อกสี เราลืมไปว่าพอมาทากับผนังจริงในห้องที่เป็นแสง warm light แล้ว สีจะเพี้ยนไปจากตอนแรกอีกครับ เลยต้องหาใหม่แล้วเทียบหลายๆเฉดกับแสงต่างๆครับ จนมาได้สีนี้ครับ (รูปสามรูปนั่นคือสีเดียวกันนะครับ แต่แสงคนละแบบ)  ผนังส่วนครัว เป็นสีซีเมนต์ครับ ตัวนี้โยนหัวก้อยเลย เห็นแต่แผ่นตัวอย่าง แต่ไม่รู้เลยครับทาทั้งห้องจะออกมายังไง สรุปแล้วคือโอเคเลยครับ พอใจเลย สีจะมี texture ดูดิบๆเป็นธรรมชาติ สากๆด้านๆหน่อย ทาแล้วได้ฟีลเหมือนบ้านดินเลยครับ555ชอบๆ 


แล้วก็มีใช้ตัวอิฐเทียมติดผนังครับ เลือกเป็นแผ่นอิฐเทียมเพื่อให้ดูสมจริงๆหน่อย แต่ก็หนักพอควร จะติดตั้งต้องดูผนังด้วยนะครับ โดยใช้เทคนิคติดตั้งแบบ over grouting ครับ คือใช้ตัวปูนยาแนวแบบเต็มๆร่องให้ล้นๆเลอะตัวแผ่นอิฐหน่อย เพื่อให้ดูดิบๆครับ ไม่รู้เรียกดิบหรือเขลอะ 55 

 

-งานบิลต์ปิดท้าย เป็นงานเหล็กครับ ฝ้าตะแกรงเหล็กฉีกตอนแรกที่บอก กับชั้นวางของเหล็กแบบลอฟท์ๆ และประตูครับ ผมรื้อของเดิมออก ใช้เป็นประตูกระจกกรอบเหล็กสีดำแทนครับ จริงๆประตูนี่แอบขัดใจคนทางบ้าน เขาชอบของเดิมมากกว่า แต่ก็ให้เหตุผลไปว่า ใช้เพิ่มแสงและความโปร่งโล่งให้ห้องครับ -และหน้าต่างในห้องนอนจากที่ทั่วๆ ไปจะติดม่านกัน ผมเลือกจะติดเป็นมูลี่ไม้แทนครับ เพราะอยากได้ความไม้ 55 และติดมูลี่ก็ดีตรงที่เราสามารถปรับการรับแสงรับวิวหรือความส่วนตัวได้ตามใจเราเลยครับ

 

-งานไฟ ห้องผมเดินไฟติดเพิ่มครับ เป็นไฟแทรคไลท์เข้าราง 3 จุด บริเวณห้องนั่งเล่น2จุด กับครัว1จุด และตัวดาวน์ไลท์ติดลอยกับไฟเส้นLED บริเวณห้องนอนครับ เพื่อเพิ่มแสงในห้อง + ไว้ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งมันช่วยได้มากจริงๆนะครับ เปลี่ยนหลอดเปิด คือห้องนี่คนละฟีลกันเลย แต่ต้องทำการแยกสวิตช์นะครับ เพื่อจะได้เปลี่ยนหลอด ปิดจุดนี้ เปิดจุดนั้น แต่ถ้าไม่ได้มายอะไรเรื่องฟีลลิ่ง ก็ใช้สวิตช์ร่วมก็ได้ครับ แล้วแต่สะดวก แต่เปิด/ปิด ทีมันก็จะ ติด/ดับ พร้อมกันหมดเลยครับ 
        


ราคาต้องดูเทียบกันหลายๆร้านนะครับ มันจะแพงที่ตัวโคมครับ เป็นแทรคไลท์/ดาวน์ไลท์เหมือนกัน บางร้านราคาต่างกันเท่าตัวเลยครับ ซึ่งก็น่าจะวัสดุแหละครับ เนื่องด้วยผมตั้งใจจะเซฟคอสต์ เลยหาตามร้านที่ถูกที่สุด เพราะดูเผินๆผมก็แยกความต่างมันไม่ค่อยออก

 

-งานขั้นสุดท้ายแล้วครับ ข้าวของเครื่องใช้ของตกแต่งและต้นไม้ จะเน้นงานไม้ งานหวาย เครื่องจักสาน อีโค่เฟรนด์ลี่ครับ ฮ่าๆๆ ไม่ก็งานเหล็ก สีดำๆด้านๆแบบลอฟท์ไปเลยครับ ส่วนใหญ่ ikea จะได้พวกของใช้ครับ สารพัดของใส่บ้านแทบทุกแนว ส่วนพร็อพของตกแต่งต้องจตุจักรพลาซ่า โซนของตกแต่งบ้านเลยครับ เปิดทุกวัน ของแต่งบ้านเยอะมากๆ ไปเดินแล้วก็จะฟินๆ สวยๆทั้งนั้น แต่ราคาก็ต้องคอยเทียบๆกันเอาครับ แล้วก็มีช็อปออนไลน์บ้างนิดหน่อย

 

ต้นไม้ก็ไม่พ้นจตุจักรอีกครับ ตลาดนัดต้นไม้ครับ เปิดตั้งแต่ช่วงบ่ายๆวันอังคาร ยันดึกยันมืดเลย วันพุธจะเปิดช่วงเช้าถึงแค่ช่วงเย็น ส่วนวันพฤหัสเปิดช่วงเช้าถึงบ่ายๆครับ ต้นไม้เยอะมากครับ มีหลายชนิด ไม้ใบ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลอะไรมีหมด เดินแล้วก็จะฟินๆเหมือนเดิน จจ.พลาซ่าหน่อย 555 อีกที่ที่ได้ต้นไม้มาก็ที่ราบ11 ตรงบางเขน ตรงข้ามวัดพระศรีฯครับ

 

จบแล้วครับ พอได้มั้ยครับ คาเฟ่ส่วนตัวกับคอนโดห้องเล็กๆ หลังตกแต่งเสร็จและเข้าอยู่จริง ก็มีปัญหาบ้างครับจากการยัดต้นไม้ไว้ที่ห้อง เนื่องจากตัวห้องอยู่ชั้นล่างและหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ+ต้นไม้ใหญ่บริเวณสวนหน้าห้อง เลยทำให้ที่ห้องแดดค่อนข้างส่องเข้าถึงน้อยครับ 
    

จะว่าดีมันก็ดีแหละครับสำหรับเรา ร่มรื่นไม่ร้อนดี ที่ห้องไม่ต้องมีพัดลมก็อยู่ได้ แต่มันดันกระทบกับต้นไม้ที่ห้องครับ บางต้นแสงไม่พอเลยค่อนข้างจะดูแลยากหน่อย สำหรับคนชอบต้นไม้อยากหาไว้ที่ห้อง ต้นที่ผมแนะนำก็คงจะเป็นพวกตระกูลพลูนี่แหละครับดูแลง่าย ยิ่งใส่น้ำแล้วยิ่งดูแลง่ายสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาด้วย ละก็มี เสน่ห์ขุนแผน ม้าเวียน แก้วสารพัดนึก ครับ ส่วน ลิ้นมังกร กับกวักมรกตเขาก็ว่าทนกันนะครับ แต่ที่ห้องไม่มีที่ไว้แล้วเลยยังไม่ได้ลองนำมาปลูกครับ55


ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณด้วยนะครับสำหรับใครที่ติดตามอ่านมาถึงจุดนี้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ด้วยนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะแต่งห้องหรือกำลังแต่งอยู่ไม่มากก็น้อยครับ ส่วนถ้าใครที่พอจะแนะนำต้นไม้ที่สามารถเลี้ยงในสภาพแวดล้อมแสงน้อยได้ ก็รบกวนแนะนำด้วยนะค้าบ ขอบคุณครับ 

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

หนุ่มไอเดียเจ๋ง ลงมือเปลี่ยนคอนโดธรรมดาๆ ให้กลายเป็นคาเฟ่

 

 

ขอบคุณเว็บไซต์ : pantip.com