กรมอนามัยเตือน แผ่นแปะรูจมูกกรอง ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย

กรมอนามัยเตือน แผ่นแปะรูจมูกกรอง ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย

ปลัด สธ.ประชุม 5 จังหวัดปริมณฑล กำชับดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ เสี่ยงรับฝุ่น PM 2.5 แนะงดจัดงานวิ่งออกไปก่อน โดยเฉพาะมาราธอน เหตุต้องใช้อากาศมากถึง 10 เท่า และใช้เวลาวิ่งนาน ด้านกรมอนามัยเตือนแผ่นแปะรูจมูกกรองฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย ไม่ผ่านการรับรองสินค้า ระวังตกเป็นเหยื่อกลุ่มหาผลประโยชน์

 

กรมอนามัยเตือน แผ่นแปะรูจมูกกรอง ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย

 

วันนี้ (25 ม.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประชุมร่วมกับ 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี เกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมมอบหน้ากากอนามัยและแผ่นพับ
 

นพ.สุขุมกล่าวว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กขณะนี้อาจเกิดปัญหาต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ได้ โดยขอให้ทั้ง 5 จังหวัดปริมณฑลมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วย อย่างไรก็ตาม อัตราการป่วยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ สัญญาณอันตรายของฝุ่นขนาดเล็กไม่ใช่เพิ่งเริ่มเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เกิดมาตั้งแต่ปีก่อนหรืออาจจะมาจากก่อนหน้านั้น เพราะไทยเพิ่งเริ่มมีการวัดค่า PM 2.5 ได้ไม่นาน และค่าอันตรายต่อสุขภาพคือมีระดับ ตั้งแต่ 90-100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ดังนั้น ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือแม้แต่ออกกำลังกาย 

 

กรมอนามัยเตือน แผ่นแปะรูจมูกกรอง ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย

 

นพ.สุขุมกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่นในปริมณฑล พบว่ามีบางพื้นที่จัดกิจกรรมการวิ่ง ก็ขอให้ผู้จัดกิจกรรมพิจารณางดการจัดไปก่อนในช่วงนี้ แม้ว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดี แต่การวิ่งต้องใช้แรงมาก ร่างกายต้องเพิ่มการหายใจ ต้องการอากาศมากถึง 10 เท่า ยิ่งการวิ่งมาราธอนที่ต้องใช้เวลานานมากกว่า 3-4 ชม. ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ตัวประชาชนก็ควรสังเกตค่า PM 2.5 ก่อนทำกิจกรรมด้วย

 

กรมอนามัยเตือน แผ่นแปะรูจมูกกรอง ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่มีงานวิจัย

 

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้สังคมมีความตื่นตัวเรื่องของการป้องกันตัวเองจากฝุ่นละอองกันมาก แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเชื่อข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียซึ่งมีบางคนบางกลุ่มพยายามหาผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น การโฆษณาขายหน้ากากอนามัยประเภทต่างๆ ที่ที่มีการอ้างสรรพคุณว่า สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ อ้างว่าหิ้วมาจากประเทศนั้นประเทศนี้ เรียนว่าหน้ากากอนามัยจัดเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เป็นต้น เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพ บุคลากรทางการแพทย์มั่นใจที่จะใช้งาน ดังนั้นขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังแม้ว่าจะมีราคาถูกก็ตาม

 

“อย่างตอนนี้มีการโฆษณาขายอุปกรณ์ขนาดจิ๋วป้องกันฝุ่นละอองนำเข้าจากประเทศอินเดีย มีลักษณะเป็นแผ่นแปะที่รูจมูกนั้น ถ้าดูกลไกแล้วเล็กจะกรองฝุ่นได้หรือไม่ แล้วที่แปะสติกเกอร์บางๆ ก็เสี่ยงหลุดเข้าไปในโพรงจมูกได้หรือไม่ ที่จริงเราไม่เคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้เลย ไม่เคยมีการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ใดๆ เลย ไม่เคยมีผู้เชี่ยวชาญคนไหนหยิบมาใช้งาน ดังนั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังการตกเป็นเหยื่อทางการตลาด หากจะซื้อหน้ากากอนามัยควรดูที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในปัจจุบัน” พญ.อัมพรกล่าว