"บิ๊กโจ๊ก" ปูพรมกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ 82 จุด 11 จังหวัด ข้อหา “อั้งยี่และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงความพร้อม เตรียมกวาดล้างผู้เงินกู้นอกระบบ 82 จุด 11 จังหวัด ตั้งข้อหา “อั้งยี่และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.บุญลือ กองบางยาง รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต. จำนงค์ รัตนกุล รองผบช.ภ.5 นายพีรพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ เลขานุการกรม สำนักงานปปง. นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5   พ.อ.อโณทัย ชัยมงคล รองผบ.มทบ.33 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.สภ.ภูผาม่าน  พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด พ.ต.ท.ธนารัตน์  มีทองหลาง รองผกก.สส.สภ.ชนบท  พ.ต.ท.จามร อันดี รองผกก.ป.สภ.ท่าพระ พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รองผกก.สส.สน.ห้วยขวาง  พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รองผกก.สส.สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่  ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ตำรวจแถลง

บิ๊กโจ๊ก ชี้แจง

 ปฎิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปูพรม82 จุดใน 11 จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพฯ, ชลบุรี,เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, พะเยา, แพร่, น่าน, แม่ฮ่องสอน, และ อุดรธานี  จับกุมนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด 14 ราย จาก 55 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 14 คน ประกอบด้วย นายวรรษา  เจนติยานุรักษ์, นายวินัย สิงห์เผือก นายธัญยบูรณ์  หอมกลิ่น, นายนิรุต กมลมาลย์, นายอิทธิพัทธ์  สังข์ทอง, นายทวีหรือหมี  คำเสียง, นายหัสชัย  โพนปลัด,นายวุฒินันท์  ขอเหนี่ยวกลาง, นายชุติเทพ  สุโพธิ์, นายเจษฎา ศรีสกุล, น.ส.วลัยพร  ประสพ  โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหา “อั้งยี่และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”

และนางพัชริน  แต้กุล, นายณัฐพล  อยู่สำราญ นายพีระ  ปฏิกรณ์ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”   พร้อมยึดอายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา มูลค่า 644.9  ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์และที่ทำการบริษัท จำนวน 6 แห่ง, โรงแรมจำนวน 4 แห่ง,ร้านอาคารสถานประกอบการจำนวน 2 แห่ง ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง รถยนต์ 25 คัน ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 197 ฉบับ เนื้อที่ 220 ไร่ มูลค่า 218 ล้านบาทพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องทางคดีอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น  972.9  ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.

"บิ๊กโจ๊ก" ปูพรมกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ 82 จุด 11 จังหวัด ข้อหา “อั้งยี่และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด
 

ในส่วนพฤติกรรมของนายทุนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากเดิมมีการทำนิติกรรมอำพราง ให้ชาวบ้านเซ็นชื่อในกระดาษเปล่า อีกทั้งมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด ซึ่งในรายของนายทุนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีการเปิดกิจการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หรือธุรกิจลิสซิ่ง ซึ่งมีทั้งเปิดโดยถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีการกระทำผิดเงื่อนไขตามตกลง โดยมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงในส่วนนี้ถือว่าผิดกฏหมายเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากำหนด ทั้งนี้ในเชียงใหม่จับกุมนายทุนเครือข่ายบริษัท เอ็ม.อี. ลีสซิ่ง  จำกัด ซึ่งมีสาขาย่อยกว่า 10 สาขา โดยมีนายพีระ  ปฏิกรณ์ เป็นกรรมการบริษัท ในส่วนของจ.แพร่  จ.พะเยา และอุดรธานี เป็นการขยายผลเครือข่ายของเซนลิสซิ่ง ซึ่งนายทุนมีพฤติกรรมรับขายฝากที่ดิน มีสาขา 1500 สาขาทั่วประเทศ ต่อมาปรากฏว่าที่ดินของชาวบ้านที่นำมาจำนองถูกกรมสรรพากรอายัดไว้เนื่องจากนายทุนมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ตั้งแต่ปี 2544  หลังถูกสำนักตรวจสอบภาษีอากรกลาง กรมสรรพากรกลาง ประเมินเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 260 ล้านบาท และมีการฟ้องร้องกัน ภายหลังศาลฎีกาได้พิพากษาให้กรมสรรพากรชนะคดี ทำให้กรมสรรพากรต้องยึดที่ดินกว่า 400 ไร่โดยใช้อำนาจตามม.12 ประมวลรัษฎากร ยึดที่ดินดังกล่าวไว้ ซึ่งปัจจุบันยังมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยกับชาวบ้าน แม้ที่ดินถูกสรรพากรอายัดก็ตาม

บิ๊กโจ๊ก สัมภาษณ์สื่อ

แถลงข่าว

หลังจากนี้จะดำเนินการตามแนวทางโดยการยึดอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเพื่อมาเฉลี่ยทรัพย์คืนเป็นที่ดินให้ชาวบ้าน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะประสานทางกระทรวงการคลังเพิกถอนใบอนุญาตลิสซิ่งที่กระทำผิดเงื่อนไข และปราบปรามลิซซิ่งที่เปิดผิดกฎหมายต่อไป โดยในวันที่ 28 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบและนายทุนดอกเบี้ยโหด ที่ จ.มหาสารคาม และในวันที่ 16 มี.ค. จะมีการมอบโฉนดคืนให้พี่น้อง ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 8 -9 ต่อไป

โปรดติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ จากยูทูปชาแนล ของสำนักข่าวทีนิวส์ www.tnews.co.th


    
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-"บิ๊กโจ๊ก" ลุยจับแก๊งเงินกู้นอกระบบ เครือข่าย "เจี๊ยบ มีนบุรี" ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้าน อึ้งรายได้หน.ทีมทวงดอกเบี้ย เหยียบแสนต่อเดือน (คลิป)

-อดีต สว.ส.ส.ศรีสะเกษ ถูกบิ๊กโจ๊กจับกุมยึดทรัพย์กว่า 2 พันล้านบาท โต้ลั่นไม่เคยปล่อยเงินกู้นอกระบบ เพียงทำธุรกิจซื้อขายที่ดินเท่านั้น
-ตร.กวาดล้างกลุ่มทุนหมวกกันน็อคปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดยึดทรัพย์กว่า200ล้าน
-"บิ๊กโจ๊ก" สั่งชุดฉก.บุกทลายเครือข่าย "สจ.เล็ก เมืองนนท์" นายทุนเงินกู้ทวงหนี้โหด ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้าน