ตร.ปิดถนนสกัดสายแว้นวิภาวดีรวบโจ๋16 นัดซิ่งผ่านเพจเฟซบุ๊กยึดจยย.อื้อ

พลตำรวจตรี นิติธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร พร้อมด้วยตำรวจหลายหน่วยงานสนธิกำลังกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และถนนวิภาวดีรังสิต รวมถึงจับกุมกุมผู้ต้องหา แอดมินเพจเฟซบุ๊ก "รถหมอบ ทุ่งมังกร สาย 1" ซึ่งมีการโพสต์ข้อความชักชวนแข่งรถในทาง หลังจากมีประชาชนผู้พักอาศัยในย่านดินแดงแจ้งร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสายด่วน 191 ว่า ในช่วงเวลา 02.00 น. จะมีเด็กและกลุ่มวัยรุ่นออกมามั่วสุมแข่งรถในเส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไปเลยไปจนถึงแยกหลักสี่ จำนวนกว่า 100 คัน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก

 

แผนผัง

ชุดสืบสวนสอบสวนจึงลงพื้นที่โดยใช้เทคโนโลยีภาพจากกล้องวงจรปิดจนสามารถใช้ภาพถ่ายและภาพคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานในการออกหมายเรียกผู้ครอบครองรถมาสอบสวนและเปรียบเทียบปรับได้กว่า 40 ราย

 

ปราบเเว้นวิภา - ดินเเดง

 

ขณะนี้มีผู้มารับทราบข้อหาแล้วจำนวน 11 ราย ส่วนรายที่เหลือหากไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ก็จะออกหมายเรียกอีกครั้ง และหากไม่มาก็จะดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ทำผิดกฎหมาย ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการจับกุมในลักษณะการปิดกล่อง ซึ่งหลายครั้งเกิดความสูญเสียขึ้นกับเจ้าหน้าที่และตัวผู้ขับขี่เอง 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากลตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 95 เดซิเบล ซึ่งจากการตรวจรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จำนวน 45 คัน พบมีท่อไอเสียดังเกินกว่ามาตรฐานจำนวน 26 คัน จึงออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน และให้ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ส่วนการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยว่าจะออกมาแข่งรถในทางพบผู้ขับขี่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 31 ราย เยาวชน 16 ราย จากการตรวจสารเสพติดและปัสสาวะ พบมีสารเสพติดในร่างกาย 1 ราย

 

จับเด็กเเว้น

 

มอไซค์เเว้น

 

รถจักรยานยนต์

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ทั้งนี้จึงฝากไปถึงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทุกประเภทให้แก้ไขรถของตัวเองให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนน หากผู้ขับขี่คิดจะดัดแปลงด้วยการติดแผ่นป้ายทะเบียนแนบไปกับตัวถังรถด้านใน หรือไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดโดยใช้เอกลักษณ์เฉพาะของรถแต่ละคัน ติดตามจากต้นทางไปจนถึงปลายทางของรถคันดังกล่าว หากพบว่ารถจักรยานยนต์คันใดมีการติดแผ่นป้ายทะเบียนแนบไปกับตัวถังด้านในจะถือว่ามีเจตนาที่จะดัดแปลงอำพรางป้ายทะเบียนเจ้าหน้าที่จะเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 2,000 บาทโดยไม่มีการละเว้น

 

รายงานโดย "อนุวัฒน์ คนทำข่าว กรุงเทพ "

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เด็กแว้นยกล้อเสียหลักชนมอเตอร์ไซค์ส่งแก๊ส ถังหลุดกระแทกพื้นทำเสียวระทึกทั้งถนน (คลิป)

ตำรวจนิมิตใหม่ปิดล้อมจับแว้นถนนหทัยราษฎร์ได้ 95 คัน 54 คน(คลิป)

กล้องหน้ารถจับภาพ "มอไซค์แว้น" สุดชุ่ย ขับยกล้อพลาด ชนมอไซค์ส่งแก๊ส (คลิป)