ดีเจสถานีดัง โพสต์บอกสังคม อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา

เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ฉุดคิดขึ้นมาได้ เมื่อดีเจสถานีดัง ออกมาโพสต์ข้อความดีๆ เพื่อเป็นการบอกสังคมว่า "อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา"

จากเฟชบุ๊กของ DJ ADHISUK JS100 ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบเจอเมื่อวานนี้(28 มี.ค.) ซึ่งตนได้รับการขอร้องจากคนแปลกหน้า โดยเล่าเอาไว้ว่า "สละเวลาอ่านเชิญทางนี้สักนิดครับ  มีเรื่องเล่าระหว่างที่มาช่วยทำกิจกรรมให้ รพ.ศรีธัญญาวันนี้ครับ เป็นช่วงเย็นแล้วหลังจากที่พาเดินชมทั่ว รพ. ก็อยู่ช่วงพักผ่อนตามอัธยาศัยที่ตึกพิพิธภัณฑ์ รพ.ศรีธัญญา ระหว่างนั้นเสียงของ โรส-ศิรินทิพย์ ขึ้นร้องเพลงเป็นศิลปินจิตอาสามาพอดี ผมกับคุณพิมพ์จันท์ ก็กำลังจะเดินไปฟัง ทันใดนั้น ....

 

 อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา

 

มีคนแปลกหน้า เป็นชายวัย 40-50 ปี นั่งกับพื้นหลบมุมเสา พูดขึ้นมาเบาๆว่า 'มียาแก้มึนหัวมั้ยครับ ผมเวียนหัว' พวกผมก็หันไปมองเพราะรู้สึกได้ว่าเขาพูดกับเรา แต่พูดเบามากและไม่สบตา จึงถามว่า'อะไรนะครับ' ถามไปมาอยู่ 3 รอบจนฟังได้ความ เลยจะเดินไปหยิบยาพาราในรถให้ แต่รถจอดไกล เลยพยายามถามๆหาให้แถวนี้ก่อน

สรุปไม่รู้จะหาจากใคร เลยบอกเขารอแป๊บนึง ถามอาการเป็นยังไง เขาตอบ'เวียนหัว'แบบเดิม พวกผมสังเกตปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเขา รู้สึกได้ว่าเขาอาการหนักแน่นอน เลยเดินไปหาคนช่วย แต่ด้วยความที่วันนี้ทุกคนใส่เสื้อ #IAMFROMศรีธัญญา กันหมด ทำให้แยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร คนไหนหมอ คนไหนเจ้าหน้าที่ คนไหนพยาบาล คนไหนคนนอก เลยสุ่มไปที่คนๆนึงที่น่าจะใช่คนในที่สุด เขาก็ช่วยถามๆแล้วชี้ไปที่น้องๆ 2 คนที่มีกระเป๋าพยาบาล พวกผมไม่รอช้าที่จะพาไปหาผู้ป่วยทันที

 

อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา

 

ทราบภายหลังว่าน้อง 2 คนเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 1 มาถึงก็วัดความดันผู้ป่วยพร้อมกับซักถาม คงรู้ทันทีว่าผิดปกติ คนนึงเลยแยกไปตามคุณหมอทันที ส่วนพวกผมสังเกตว่าผู้ป่วยมีบัตร Press เลยถามว่าเขามากับเพื่อนด้วยหรือเปล่า เขาพยักหน้า ผมเลยขอเบอร์ติดต่อ เขาเหมือนพยายามจะขยับแขน แต่พูดกลับมาเบาๆว่า 'แขนชา ขยับไม่ค่อยได้' ในใจผมนึกทันที เอาแล้ว! ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่ อาการสโตรกชัดๆ อย่างที่เคยมีประสบการณ์สัมภาษณ์ใครต่อใครมา แว๊บขึ้นมาในหัวทันทีว่าโรคนี้เวลาจำกัด!! เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองอะไรประมาณนี้

เมื่อพยายามหยิบโทรศัพท์ของผู้ป่วยออกมาได้ รีบถามว่ามากับใคร เขาก็พยายามบอกชื่อแล้วบอกว่าโทรไลน์ พอหลังจากนั้นก็เหมือนเขาจะเริ่มประคองสติไม่ไหวแล้ว น้องนักศึกษาแพทย์ก็เลยประคองให้เขานอนหงาย ส่วนผมก็เปิดไลน์ของผู้ป่วย เห็นมีคนทักมาถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วโทรไลน์มาด้วยแต่ผู้ป่วยไม่ได้ตอบกลับเลย ผมเลยกดโทรออกไปที่ไลน์นั้นแล้วแจ้งเขาว่าให้มาตรงนี้ด่วน เจ้าของโทรศัพท์กำลังจะหมดสติ ขณะเดียวกันผมก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อบ่ายเพิ่งคุยกับหมออยู่หลายคน เดี๋ยวคงต้องไปลองตามดูสักคนนึงเผื่อช่วยได้

 

ดีเจสถานีดัง โพสต์บอกสังคม อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา

 

ระหว่างนั้นกิจกรรมตรงเวทีหลักดำเนินไปตามปกติ ยังคงสนุกสนาน ดนตรีบนเวทีก็ยังเล่นต่อเนื่อง พวกผมก็พยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ และก็ไม่อยากให้บรรยากาศบนเวทีต้องจบลง จังหวะนั้นนักศึกษาแพทย์อีกคนที่ไปตามหมอ พาหมอมาพอดี คุณหมอใช้เวลาสังเกตอาการอยู่ประมาณ 1 นาที แล้วพูดขึ้นมาว่า "น่าจะเป็นอาการเกี่ยวกับสโตรก รีบขอรถพยาบาลโดยด่วน ไม่งั้นผู้ป่วยแย่แน่ ที่นี่ก็ไม่น่ามีเครื่องมือ ใกล้สุดน่าจะ รพ.บำราศฯ" ผมเลยรีบกดโทร 1669 ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็รับสาย

ผม: ตอนนี้มีผู้ป่วย มีอาการสโตรก ต้องการรถพยาบาลมารับผู้ป่วยภายใน รพ.ศรีธัญญา ด่วน! ประสานให้ผมหน่อย ตรงนี้มีคุณหมออยู่ด้วย เดี๋ยวให้คุณหมออธิบายอาการนะครับ
หมอ: สวัสดีครับ ผมเป็นหมอนะ ตอนนี้อาการผู้ป่วย ..บลาๆๆๆๆๆๆ
ระหว่างนั้นคนไข้มีอาการชักเกร็ง จากเบาไปแรงจนน่ากลัว ผมเลยบอกคุณหมอเดี๋ยวผมคุยต่อเอง
ผม: ขอด่วนเลยนะครับ
1669: ขอทราบอาการผู้ป่วยด้วยค่ะ
ผม: ตอนนี้ชักเกร็งครับ คุณหมอบอกต้องการรถพยาบาลด่วนเลยครับ
1669: ตรงนั้นมีคุณหมออยู่ค่ะ คุณหมอเขาน่าจะดูแลได้นะคะ ดิชั้นต้องการทราบประวัติผู้ป่วยค่ะ เขามีโรคประจำตัวมั้ยคะ

 

ดีเจสถานีดัง โพสต์บอกสังคม อย่าละเลยการขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า เพราะนั่นอาจเป็นวินาทีชีวิตของเขา

 

ผมเริ่มหัวเสียละ !!?
ผม: ผมไม่รู้หรอกครับโรคประจำตัว ผมไม่ได้รู้จักกับเขา วันนี้ที่นี่มีจัดงาน คนนี้เขาเป็นนักข่าวที่มาทำ แล้วป่วยแบบนี้ ผมไม่รู้หรอกครับ ตรงนี้มีคุณหมออยู่ คุณหมอประเมินแล้วยังขอรถพยาบาล คุณช่วยประสานหน่อยเถอะครับ

จากนั้น 1669 ก็ขอเบอร์ติดต่อไป ผมเลยเอาเบอร์นักข่าวที่มากับผู้ป่วยให้เป็นเบอร์ผู้ติดต่อฉุกเฉิน แล้วบอกให้ขับมาที่นี่ก่อนเดี๋ยวบอกทางอีกทีเพราะค่อนข้างซับซ้อน ก่อนวางสายไป (ตอนนั้นคิดในใจว่าทำไมไม่กด SOS ของตัวเอง แต่ก็มั่นใจว่าเราอยู่ตรงนี้แล้ว น่าจะลดขั้นตอน บอกได้เร็วกว่า) จากนั้นผมก็นึกขึ้นได้ถามหมอว่าส่งรักษาที่ศรีธัญญานี่ไม่ได้เหรอ หมออธิบายว่า "ที่นี่มีห้องฉุกเฉิน ดูได้เบื้องต้น แต่อุปกรณ์ช่วยตรงนี้ไม่มี ต้องส่งไปรักษาต่ออยู่ดี หรืออย่างน้อยต้องเอารถพยาบาลมาถึงก่อน บนรถจะมีอุปกรณ์ เปิดเส้นเลือดให้ยาละลายลื่มเลือดได้ก่อน"

ผ่านไป 5 นาที ยังไร้วี่แววรถพยาบาล คุณหมอสีหน้าไม่ดี ทุกคนก็วนกระวายมองหารถพยาบาล ส่วนผู้ป่วยชักเกร็งเป็นครั้งที่ 2 สังเกตว่าหมอแทบไม่ได้ทำอะไรเลยกับผู้ป่วย เพียงแต่ช่วยจัดท่าให้นอนตะแคงและให้พื้นที่เปิดโล่ง ผู้ป่วยธาตุเริ่มแตก มีเลือดออกทางปาก มีปัสสาวะไหล เริ่มมีบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยมากขึ้น หยิบอุปกรณ์ต่างๆ เท่าที่จะหาได้ตรงนั้นมาช่วย ส่วนผมเห็นมี รปภ. ขี่จยย.มาพอดี เลยวิ่งไปบอกว่า ให้วิทยุบอกหน่อยว่าเดี๋ยวจะมีรถพยาบาลมา ถ้ามาถึงหน้ารพ.แล้ว ฝากให้ รปภ. ป้อมหน้านำทางมาเลยนะครับ หรือถ้าเรียกรถพยาบาลที่ รพ.ศรีธัญญาได้ ก็ให้มาเลย

คุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่เดินผ่านมาตรงนี้ ต่างรุมช่วยเท่าที่จะทำได้ ติดที่ไม่มีอุปกรณ์ ทุกคนช่วยโทรศัพท์ประสานกันภายในอีกที ว่าให้เอารถจากศรีธัญญามาก่อน เตรียมแผนรองรับไว้ที่ห้องฉุกเฉินด้วยอีกทาง เวลาก็ผ่านไปไวมาก สรุปแล้วกว่ารถพยาบาลจะมาถึงใช้เวลาประมาณ 20 นาที เป็นรถของ รพ.ศรีธัญญาเอง แล้วพาผู้ป่วยขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันรถพยาบาลที่ขอไปครั้งแรกได้ยินว่ามาจาก รพ.พระนั่งเกล้า!? เลยให้ตามไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อรับต่อ

พอผู้ป่วยไปแล้ว สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทุกคนต่างโล่งอกและภาวนาให้ผู้ป่วยคนนั้นปลอดภัย สโตรกต้องแข่งกับเวลา เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ต้องรักษาภายใน 4 ชั่วโมง ไม่งั้นสมองอาจเสียหาย กลับมาที่จุดเกิดเหตุ ผม คุณพิมพ์จันท์ นักศึกษาแพทย์ 2 คน ต่างมองหน้ากันและขอบคุณซึ่งกันและกันที่ร่วมกันช่วยเหลือคนที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จัก แม่บ้านเข้ามาเช็ดทำความสะอาดของเหลวติดเชื้อ และแยกย้ายกันไป

ตลอดเหตุการณ์กิจกรรมบนเวทียังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับดนตรี 'คุณดี้-นิติพงษ์'ก็คงจะไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ดีแล้วครับไม่งั้นงานอาจจะสะดุดไม่เป็นท่า นี่งานก็ผ่านไปได้ ผู้ป่วยก็ส่ง รพ. ทันเวลาสำเร็จ

เหตุการณ์นี้ผมขอบันทึกไว้ในประสบการณ์ชีวิต และฝากถึงทุกท่าน อย่าละเลยปล่อยผ่านการขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า ผมยอมรับว่าแว๊บแรกที่ผู้ป่วยส่งเสียงมา ผมยังนึกว่าเขาเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในรพ.ศรีธัญญา แต่สังเกตว่ามีบัตรนักข่าวห้อยอยู่ ความคิดแว๊บแรกจึงตกไป ดีที่ตัดสินใจช่วยจนจบเหตุการณ์ เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า"สติสำคัญที่สุด"

ปล.1 หลังเหตุการณ์ผมมาทบทวน มีหลายอย่างที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ บางคนอ่านก็อาจจะมีข้อติเตียน แต่ผมพูดตรงๆนะครับว่าเหตุการณ์มันผ่านไปไวมาก ต้องตัดสินใจเลย ตอนนั้นไม่มีเวลาให้คิดอย่างตอนพิมพ์นี่เลย

ปล.2 เสียงคุณโรส-ศิรินทิพย์ ร้องเพลงดังอยู่ตลอด แต่หูผมไม่ได้ยินเลยว่าเป็นเพลงอะไรบ้าง ขอฟังใหม่รอบหน้านะครับ ^^"

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-พ่อ-แม่ ร้องความเป็นธรรม พาลูกมารักษาเนื้องอก ตอนฉีดเกิดอาการชักเกร็งตกจากเตียง(คลิป)
-แห่สดุดีสนั่น!!! หนูน้อยนักเรียนซ้อนท้ายจยย.ครู เกิดอาการชักกระตุกเสียหลักลงข้างทาง คอยเฝ้าครูไม่ห่าง โซเชียลชื่นชมสังคมต้องการคนแบบหนู!!!
-ทำดีต้องชื่นชม!! สาวร้านแว่นน้ำใจงาม เข้าช่วยเหลือ ลุงเกิดอาการชักเกร็ง ก่อนรถพยาบาลจะมาถึง (มีคลิป)

 

ขอบคุณ  DJ ADHISUK JS100