พ่อน้องลูกครึ่งมาถึงไทยรอเจอหน้าลูกๆแล้ว

พ่อน้องลูกครึ่งมาถึงไทยรอเจอหน้าลูกๆแล้ว

จากกรณี ด.ช.ลูก้า นิรันดร์ โบเรล 12 ปี ด.ญ.พาเมลา นิรันดร์ โบเรล อายุ 11 ปี ลูกครึ่งไทย- สวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยตกเป็นข่าวพลัดตกจากที่สูง 4 คนพี่น้อง แต่รอดชีวิตเพียง 2 คน ได้หลบหนีออกจากบ้านพักย่านรามคำแหง เพื่อออกตามหาพ่อชาวสวิตเซอร์แลนด์ หลังถูกแม่ซึ่งเป็นคนไทยทำร้ายร่างกายหลายครั้งเพราะทำความสะอาดห้องไม่เรียบร้อย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาเพื่อมาตามหาพ่อที่พักอยู่ในซอยมีสทีน (รามคำแหง160) ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้า  

2 ลูกครึ่ง หนีออกจากบ้าน หลังถูกแม่ทำร้ายร่างกาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สั่งสอบแม่ 2 เด็กลูกครึ่ง หลังหนูน้อยเปิดปากโดยทำร้ายนานนับปี

ต่อมาความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น รายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ได้เปิดเผยคำพูดของ นางสาวมีนี่ คนสนิทของพ่อเด็ก ได้เผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กทั้ง 2 คนดีขึ้น เริ่มยิ้มแย้มพูดคุยแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และยืนยันว่าจะไม่กลับไปอยู่กับแม่ โดยตลอด ตลอดช่วงที่ผ่านมามักจะโดนแม่ทุบตีมาตลอด และเตะที่แผลจากอุบัติเหตุตกจากตึก อีกทั้งแม่ไม่เคยพาไปทำแผลที่โรงพยาบาล แต่ซื้ออุปกรณ์มาให้เด็กทำกันเอง บางครั้งมีแผลคล้ายหนอง ลำตัวมีรอยขีดข่วนด้วยเล็บ ซึ่งการหนีออกจากบ้านเพื่อไปหาพ่อ ไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตตอนที่เด็กทั้งหมดอยู่กันครบ 4 คน ทุกคนก็เคยเก็บข้าวของ ตั้งใจจะหนีแม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ ถูกตีและสั่งห้ามไว้

สองลูก ครึ่ง หนีออกจากบ้านไปตามหาพ่อ เพราะถูกแม่ทำร้ายร่างกาย

ทั้งนี้ ตนพูดคุยและแจ้งความคืบหน้าให้พ่อเด็กทราบโดยตลอด ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่สามารถเดินทางมาจัดการทั้งหมดได้ด้วยตนเอง แต่ได้มอบหมายให้ทนายความและคนสนิทดำเนินการแทนทั้งหมด มีการเตรียมเอกสารเพื่อจะยืนยันสิทธิ์และรับลูกกลับไปดูแล เนื่องจากแม่ไม่มีความสามารถที่จะดูแลลูกได้ และคาดว่าไม่เกินวันที่ 9 เม.ย. 62 หลังจากที่พ่อเสร็จงานจากต่างประเทศก็จะรีบบินกลับมาไทย เพื่อดำเนินการทั้งหมด ยอมรับว่าด้วยข้อกฎหมาย พ่อคือคนต่างประเทศ อาจจะเป็นอุปสรรคบ้าง แต่เชื่อว่าแม่เด็กทำร้ายลูกจริง และลูกยืนยันว่าจะไม่กลับไปหาแม่ ส่วนเรื่องของการพาไปต่างประเทศ จะต้องมีการตรวจพิสูจน์และดำเนินการตามกฎหมายก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชาวเน็ตแห่ขุดประวัติแม่ 2เด็กลูกครึ่ง ถามถึงเงินบริจาค พร้อมโยงถึงเหตุการณ์ล่าสุด

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น พ.ต.อ จิรกฤต จารุนภัทร์ ผู้กำกับการ ดส. เปิดเผยความคืบหน้า การตรวจสอบประวัติ น.ส.รัต( นามสมมุติ ) แม่ของเด็ก พบว่า ในปัจจุบันนี้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ย่านที่มีชาวต่างชาติพลุกพล่าน ซึ่งเชื่อว่า หน้าที่การงานมีความเป็นหลักแหล่ง

ส่วนประเด็น เคยต้องคดียาเสพติด พบว่า มีชื่อปรากฎในประวัติเมื่อหลายปีก่อน แต่จากพฤติกรรมในปัจจุบัน ทางญาติ ยืนยันว่า น.ส.รัต เลิกราจากสิ่งเหล่านี้ไปหมดแล้ว แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เนื่องจากปัญหายาเสพติด อาจถือว่า สามารถสร้างปัญหาให้แก่เด็กได้ หากสองหนูน้อยต้องพักอยู่ใกล้บุคคลที่มีปัญหาเหล่านี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหา คุณมีมี่ เพื่อนสนิทชาวไทยของ นายเลออง พ่อของเด็กทั้งสอง ระบุว่า ในขณะนี้ นายเลออง ทราบปัญหาของลูกๆแล้ว จากการประสานงานของหน่วยงานไทย โดยเจ้าตัวเตรียมบินกลับมาเยี่ยมลูกในวันที่ 12 เมษายน นี้ ส่วนจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอรับสิทธิ์นำลูกกลับไปดูแลต่อหรือไม่นั้น ตนเองไม่มีข้อมูล เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของ นายเลออง

 

พ่อน้องลูกครึ่งมาถึงไทยรอเจอหน้าลูกๆแล้ว

 

ล่าสุดวันที่ 9 เมษายน 2562 ทางเพจเฟซบุ๊ก ล่า รายงานความคืบหน้า นายเลออง พ่อของเด็กทั้งสองเดินทางถึงประเทศไทยเพื่อรอพบหน้าลูกๆแล้ว ซึ่งกำลังปรึกษาแนวทางการช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่อยู่นั่นเอง

 

พ่อน้องลูกครึ่งมาถึงไทยรอเจอหน้าลูกๆแล้ว

 

พ่อมาเเล้ว ! ลุ้นว่าจะได้เจอลูก !  ไม่อยู่กับเเม่อีกตลอดชีวิต รอวันนี้  #พ่อขอพูดบ้าง ยังไงวันนี้ขอพบลูก

ขอให้เราได้เห็นอ้อมกอดของพ่อกับลูก เป็นกำลังใจให้พ่อท่านนี้ค่ะ ยังจำเคส 4 เด็กน้อยตกตึก รอดชีวิต 2 คน เรื่องเดิมผ่านมาเป็นปีเเล้วค่ะ เเต่ล่าสุด น้อง 2 คนที่รอดชีวิต คือ "ดีดี้" กับ "ลูกก้า" หนูน้อยหนีเเม่ออกจากบ้าน ไปตามหาพ่อ เเล้วทนายเจมส์ทราบเรื่อง จึงติดต่อมายัง #เพจล่า ให้ประสานมูลนิธิรณสิทธิ์เข้าช่วย

 

พ่อน้องลูกครึ่งมาถึงไทยรอเจอหน้าลูกๆแล้ว

 

วันนี้พ่อทำงานเสร็จ กลับมาจากต่างประเทศเเล้วนะคะ มูลนิธิรณสิทธิ์ พาคุณพ่อ เดินทางมาพบลูกค่ะ ทีมสหวิชาชีพกำลังประชุมเพื่อวางเเผนให้การช่วยเหลืออยู่ อีกสักครู่

พ่อบอกว่า "หวังว่า วันนี้จะได้พบลูก เเละขอเพียงเเค่วันเดียวก็มีความสุข"

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก รถตระเวนข่าว และ ล่า