- 18 เม.ย. 2562
เมื่อไม่นานนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jeans Jittrakorn ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่งเตือนสติให้หลายคนได้คิดในแง่มุมชีวิตด้านต่างๆ โดยระบุว่า...ประมาณทุ่มเศษๆ ผมไปเซเว่นอีเลฟเว่นแถวๆโรงเรียนอนุบาลมหาสารคามเพื่อไปซื้อของกินเล่น ขณะที่กำลังรอจ่ายตังอยู่นั้น ผมก็มองไปเห็นชายชราคนนึงยืนจ่ายตังอยู่หน้าผม มือแกถือน้ำอัดลมหนึ่งขวดเงิน50บาทและสิทธิ์แลกซื้อยับๆใบนึง
เมื่อไม่นานนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jeans Jittrakorn ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่งเตือนสติให้หลายคนได้คิดในแง่มุมชีวิตด้านต่างๆ โดยระบุว่า...ประมาณทุ่มเศษๆ
ผมไปเซเว่นอีเลฟเว่นแถวๆโรงเรียนอนุบาลมหาสารคามเพื่อไปซื้อของกินเล่น ขณะที่กำลังรอจ่ายตังอยู่นั้น ผมก็มองไปเห็นชายชราคนนึงยืนจ่ายตังอยู่หน้าผม มือแกถือน้ำอัดลมหนึ่งขวดเงิน50บาทและสิทธิ์แลกซื้อยับๆใบนึง พอจ่ายตังเสร็จแกก็เปิดขวดด้วยมือที่สั่นและเกร็งไปทั้งตัวราวกับว่าขวดมันเปิดยากมากๆ ตอนที่ตาแกเดินออกไปท่าทางแกจะมีปัญหาที่ขา และดูอิดโรยมาก ๆ แต่ด้วยความคิดที่ว่าแกคงมีรถขับกลับบ้านเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
เมื่อผมเสร็จธุระ พอสมองเริ่มได้ว่างคิด ผมก็นึกถึงหน้าแกและเป็นห่วงขึ้นมาซะเฉยๆ จึงย้อนกลับมาดูปรากฎว่าตาแกยังเดินอยู่ไกล้ๆแถวนั้นและเดินช้ามากๆ พอขับไปไกล้ๆ ผมจึงพูดคุยกับแกและจะไปส่ง แต่แกก็พูดด้วยเสียงหอบๆว่า"ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ" อยู่อย่างนี้ประมาณ 3-4 นาที ผมจึงบอกแกว่า"ถ้าตาไม่ขึ้นรถกับผมผมก็จะขับรถตามตาจนถึงบ้าน" จากนั้นแกถึงยอมขึ้นมา แกบอกว่าจะไปโลตัสแถวๆเสริมไทยแกได้ยินข่าวว่าน้ำอัดลมลดราคา แกเลยจะไปซื้อมาขาย ระหว่างเดินทางไปส่งแกซื้อของ ผมก็ถามไปเรื่อย"ทำไมมาเดินดึกๆดื่นๆละจะไปตั้งไกลลูกหลานตาอยู่ไหน" แกก็ตอบว่า "บ้านผมมีคนเดียวผมไม่กล้าหาไครมาลำบากกับผม ผมเกรงใจนะมาส่งผมแบบนี้" ผมเริ่มกลั้นน้ำตาไว้และถามเรื่องอื่น "เห็นตาเดินช้าๆกะเพกๆ ขาตาไปโดนอะไรมา แกตอบว่า "แกเป็นเก้าท์ ผมเกรงใจจังเลย" ผมชวนคุยต่อเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อย แต่แกจะจบประโยคด้วยคำพูดที่ว่า "ผมเกรงใจนะไม่น่ามาส่งผมเลย" พอถึงห้างเสริมไทยแล้วก็ถือว่าได้ช่วยในระดับหนึ่งผมจึงจะหันรถกลับบ้านแล้วก็มาคิดได้อีกว่าบ้านแกอยู่ไหน แล้วแกจะกลับยังไง เถียงกับตัวเองอยู่นานเพราะผ่านมาสักพักและไม่รู้จะหาแกเจอได้ที่ไหน ความคิดสุดท้ายคือถ้าผมไม่กลับไปหาแกก่อนนอนผมยังจะนึกถึงหน้าแกไหม ผมจะหลับลงได้หรอ ผมเลยจึงย้อนกลับไปหา แล้วก็เหมือนจะเจอง่ายเหลือเกิน ขับไปถึงที่ไปส่งแกก็เจอกันเลย ผมจึงพูดขึ้น "มาตา ถ้าได้ไปส่งไม่สุดมันก็เหมือนขี้ไม่สุด ป๊ะผมไปส่งถึงบ้านเอง" ในมือแกถือเพียงน้ำโค้กขวดนึงเดินกลับออกมา ผมจึงถามว่า "ทำไมไม่ซื้อเยอะๆหละตา กลับไปซื้ออีกไหม แกก็อ้ำอึ้งสักพักและตอบกลับมาว่า "อยู่รถเข็นก็มีเหลืออยู่ครับ" แต่ผมว่าไม่น่าจะใช่ เพราะการที่คนคนนึงเจ็บขาเดินทางเท้าไกลๆ ไม่น่าเพื่อซื้อน้ำอัดลมขวดเดียว ผมเลยคิดว่าตังแกน่าจะไม่พอแกคงโกหกเพราะไม่อยากรบกวนผมไปมากกว่านี้ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อไปถึงรถเข็นของแก มีแต่ขวดเปล่าๆ และน้ำอีกไม่กี่ขวดที่มีน้ำไม่เต็มสักขวด แกเป็นคนดีมากๆคนนึงเลย ถึงแกจะลำบากมากๆแต่แกก็ไม่เคยจะให้คนอื่นลำบากเพราะแก แต่ผมอยากช่วยแกมากจริงๆผมจึงคิดอุบายได้ว่าผมจะให้ขนมกับตาและแอบเอาเงิน 200 บาท ไว้ที่ก้นถุง โดยบอกแกว่าผมซื้อมาเกิน ผมอิ่มแล้ว ตาช่วยกินหน่อย จากนั้นผมก็ให้เบอร์แกไป และบอกว่าหากแกเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือให้บอกผมได้ คิดว่าเป็นลูกเป็นหลาน หากผมว่างผมจะมาช่วย เมื่อกลับถึงบ้านไม่นานแกยังมีน้ำใจโทรมาบอกว่าผมลืมเงิน 200 ไว้ในถุงขนม ผมจึงบอกกับแกว่า ถ้าผมไม่โกหกแกแกคงไม่ยอมรับตังจากผม ผมช่วยอะไรได้ก็อยากช่วยดีกว่าขับรถไปให้ตำรวจจับ ถ้าตารับผมจะดีใจมาก นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าแกไม่เคยคิดจะเอาเปรียบผมเลย
ในขณะที่คนคนนึงกำลังคิดกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง อีกคนเขาก็ยังไม่คิดจะเป็นภาระคนอื่นในขณะที่เรากำลังจะกินขนมเพราะแค่ความอยากของปาก อีกคนเขากำเงินแน่นกว่าจะยอมซื้อข้าวน้ำกินลงคอในขณะที่คนบางคนโทษทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตโทษทุกอย่างที่อยู่รอบกาย อีกคนเขากำลังยืนหยัดสู้เพียงลำพังเพราะไม่อยากให้ใครมาลำบากไปกับตน ในขณะที่คนบางคนเรียกร้องความรักจากคนอื่น อีกคนเขากลับรักเพื่อนมนุษย์มากกว่ารักตนเองอ้อละแถมอีกนิดนึง พอไปส่งไกล้ถึงบ้าน แกบอกว่าแกยังจะไม่เข้าไป แกขออ่านหนังสือเก่าๆเล่น ที่ศาลาหมู่บ้านก่อน บ้านอยู่ไม่ไกลมาก (เราก็ห้ามยอมแพ้อ่านสอบบรรจุแข่งแกไปเลย555)ขอบพระคุณที่ทำให้ผมพบเจอคนดีดีในสังคมเทาๆแบบนี้ เงิน200ที่ให้ไปผมไม่เสียดายเลย มันคุ้มมากๆกับบทเรียน กับความอิ่มเอมใจนี้ คืนนี้ผมคงจะนึกถึงหน้าของตาแล้วหลับฝันดีแทนจะมาคิดมากแล้ว
ปล. สิทธ์แลกซื้อที่กล่าวไว้ข้างต้น แกเก็บได้
ปล.1 แกไม่มีบัตรสวัสดิการรัฐ
ปล.2 รถเข็นแกโดนขโมยล้อรถบ่อยมาก
ปล.3 ใครอยู่เทคนิค สารคามพิทก็ช่วยๆกันนะครับ
ที่เอามาเล่าทั้งหมด อยากให้คนที่มองโลกลบๆ อ่านลองแล้วเปลี่ยนวิถีคิด การใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น โลกจะน่าอยู่ขึ้นมากถ้ามีแบบตาแกเพิ่มขึ้น หรือเพียงเสี้ยวของท่านก็คงจะดีไม่น้อย อยากให้เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจทำดีนะครับ ผมเชื่อว่าคนทุกคนเป็นคนดีและสามารถคิดดีช่วยคนอื่นเช่นกัน แต่จะไม่มีใครรู้เลยว่าคุณเป็นดีหรือไม่ถ้าหาก มัวแต่คิดแล้วไม่ลงมือทำขออภัยหากได้ล่วงเกินตานะครับ และขอบพระคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบ #ตาต้อย #เทวดาเดินดิน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวน้ำใจงาม เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.สอบได้ที่1 แต่ไม่มีเงินมอบตัว
- หนุ่มวินน้ำใจงาม สละเวลามาโบกรถ ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ห้างดัง
- สาวกัมพูชาใจบุญ ขับรถแจกเงิน ให้ของกิน ตามถนน ชาวบ้านยกมือท่วมหัว เข้าคิวรอขอบคุณน้ำใจ(คลิป)
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Jeans Jittrakorn