กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

กองทัพเรือชี้แจงการดำเนินการกรณีบ้านลอยน้ำ (Seasteading)

  จากกรณีกระเเสข่าวฮือฮาในโลกออนไลน์ กับการที่ นายแชด แอนดรูว์ เอลวาร์โทวสกี้ และนางสุปราณี เทพเดช หรือ นาเดีย ภรรยาชาวไทย ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยลอยน้ำ ของกลุ่ม Seasteading ได้สำเร็จ  เพื่อโฆษณาชักชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบในแนวคิดการสถาปนาเป็นรัฐอิสระ หรือเขตปกครองตนเองขึ้นในอนาคต ในบริเวณอาณาเขตทางทะเลของประเทศไทย  ตามมาด้วย นายแชด และนางสุปราณี เทพเดช ส่งอีเมลถึง สื่อในสหรัฐอเมริกา ร้องทุกข์ว่า พวกเขากำลังหลบหนี และซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผยในไทย เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย และกล่าวหาทหารไทยว่าต้องการเอาชีวิตพวกเขา เเละต้องการเป็นผู้ลี้ภัย ร้องขอความช่วยเหลือจากสถานทูตสหรัฐฯ ในไทย ให้พาทั้งสองออกจากประเทศไทย


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง   -กองทัพเรือแจ้งความแล้ว หนุ่มฝรั่งเมียไทย ปลูกบ้านล้ำทะเลภูเก็ต

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

 

 

 

 ความคืบหน้ากรณีดังกล่าง ทางประเทศไทย นั้น  ทางเพจ...กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ... ได้เผยว่า!!

วันนี้ (19 เมษายน 2562) เวลา 16.00 น. พลเรือโท กาญจน์ ดีอุบล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่ นาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ (CHAD ANDREW ELWARTOWSKY) อายุ 46 ปี สัญชาติอเมริกัน และภรรยาชาวไทย ประกาศความสำเร็จในการตั้งเขตปกครองตนเองกลางทะเลสากลใกล้ภูเก็ต ผ่านทาง website YouTube ว่า สองสามีภรรยาดังกล่าว ได้ดำเนินการก่อสร้าง


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  -กองทัพเรือจัดการเด็ดขาด บ้านตากอากาศ 2 ชั้นกลางทะเลภูเก็ต

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต


ที่พักอาศัยลอยน้ำ ตามแนวคิดการตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำทะเลอาณาเขต (Seasteading) ในนามของ Ocean Builders โดยมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า Seasteading ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของบริษัท Phuket Premier Boatyard Co,Ltd. ตั้งอยู่ที่บ้านหยิด หมู่ 7 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และถูกนำไปติดตั้งสำเร็จ

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

 

 


ในพิกัด ละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก หรือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ระยะห่างประมาณ 14 ไมล์ทะเล ซึ่งพิกัดดังกล่าวอยู่ในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 เข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยมีการดำเนินการที่สำคัญดังนี้

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

 

วันที่ 12 เมษายน 2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หมวดบินในสังกัดทัพเรือภาคที่ 3 นำอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนตรวจการณ์ จำนวน 3 เที่ยวบิน และพบสิ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง


ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน 2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ประสานหน่วยงานในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ให้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบสิ่งก่อสร้างลอยน้ำด้วยเรือ ต.991 ผลการตรวจพบเฉพาะสิ่งก่อสร้างมีข้าวของเครื่องใช้อยู่ครบ แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัย เวลา 14.50 น. ของวันเดียวกัน พลเรือตรี กฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล. เขต 3 ) ได้ร่วมกับนายอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และฝ่ายกฎหมาย ศรชล. ร่วมแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง Seasteading

 

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

 

 

และในเวลา 17.00 น. หมวดร้อยรักษาความสงบ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เข้าตรวจสอบบริษัท Dream Yacht Charter ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างสร้างบ้านลอยน้ำ ในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายดิพงศ์ บุญสูง เป็นเจ้าของ แจ้งว่า เป็นผู้เช่าพื้นที่ แต่ไม่ระบุวัตถุประสงค์ในการเช่า

 

.


วันที่ 15 เมษายน 2562 ทัพเรือภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญเข้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนาย CHAD ANDREW ELWARTOWSKY ในข้อกล่าวหากระทำการใด ๆ เพื่อให้ประเทศชาติหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119

.
วันที่ 17 เมษายน 2562 พลเรือโท สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ได้แถลงข่าวติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการสร้างบ้านลอยน้ำ Seasteading ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต และกองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต

 

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของบ้านลอยน้ำนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการโดยมีผลการปฏิบัติดังนี้
- สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ พร้อมทั้งปิดหมายแจ้งคำสั่งปกครองให้คนต่างด้าวทราบ และขอให้บันทึกรายชื่อลงระบบข้อมูล (ระบบ PIBICS) เป็นบุคคลต้องห้าม
- สถานีตำรวจภูธรวิชิต รับแจ้งความจากทัพเรือภาคที่ 3/ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 พร้อมทั้งดำเนินการสอบปากคำนายทหารพระธรรมนูญ ทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อนำส่งให้อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20

 

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต


- จังหวัดภูเก็ต ประสานกระทรวงการต่างประเทศในการเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาให้รับทราบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนั้นได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าทำการตรวจสอบโรงงานที่ผลิตโครงสร้าง ซึ่งผลการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต จึงสั่งให้หยุดการดำเนินงานทันที รวมถึงให้พาณิชย์จังหวัด ศุลกากรจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว เข้าตรวจสอบโรงงานว่ามีการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่
- สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ออกประกาศแจ้งเตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณที่ติดตั้ง Seasteading และในส่วนของการเคลื่อนย้าย Seasteading เนื่องจากเป็นพยานวัตถุแห่งคดีอาญาและพยานหลักฐานต้องสมบูรณ์และพร้อมนำสืบในบริเวณพื้นที่ที่กระทำความผิด วัตถุลอยน้ำ Seasteading จึงต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ซึ่งจะส่งผลเสียรูปคดี และเป็นความผิดหาก เจ้าท่ากระทำ
โดยพลการปราศจากอำนาจหน้าที่ การนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะดำเนินการหารือกรมเจ้าท่า
เพื่อพิจารณาสั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตใช้อำนาจตาม มาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติ
การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ในการออกคำสั่งทางปกครอง ให้เจ้าของ Seasteading เคลื่อนย้ายวัตถุพยานออกไปภายใน 30 วัน ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการ

 

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต


สรุปแนวทางการดำเนินการต่อไป คือ ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการสูงสุดดำเนินการรับเป็นคดีแล้ว จึงจะดำเนินการยึดของกลาง (บ้านลอยน้ำ) ได้ โดยการดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าสู่ฝั่ง ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรวิชิต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต เตรียมวิธีการลากบ้านลอยน้ำดังกล่าวโดยมี ขั้นตอนการปฏิบัติงานดังนี้

 

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต


ขั้นที่ 1 วางแผนเตรียมการตรวจสอบโครงสร้างบ้านลอยน้ำ
ขั้นที่ 2 ออกเรือนำทีมเจ้าหน้าที่จาก กองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา และ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบโครงสร้าง
ขั้นที่ 3 ปรับแผนการปฏิบัติ และเตรียมอุปกรณ์ในการลากบ้านลอยน้ำ
ขั้นที่ 4 ดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าฝั่ง
ขั้นที่ 5 ดำเนินการเก็บรักษาบ้านลอยน้ำ ณ สถานที่เก็บ โดยทำการส่งมอบให้กับสถานีตำรวนภูธรวิชิต
เพื่อดำเนินการเก็บรักษาเป็นของกลางในการดำเนินคดีต่อไป
กองทัพเรือขอเรียนให้ทราบว่า กองทัพเรือ ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาเอกราช อธิปไตยและความมั่นคงของชาติทางทะเล จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้กระทำการเป็นกลุ่มบุคคลที่มีแนวความคิดจะสร้างถิ่นฐานถาวรกลางทะเลนอกเขตอำนาจอธิปไตยของรัฐต่าง ๆ โดยพยายามอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายมาดำเนินการ
โดยมิได้ดำเนินการขออนุญาตต่อทางการของประเทศไทยแต่อย่างใด รวมทั้งยังเชิญชวนให้กลุ่มคนที่มีแนวความคิดเดียวกันเข้ามาพักอาศัยหรือสร้างเพิ่มเติม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวแสดงออกถึงความมีเจตนาไม่เคารพต่อกฎหมายของประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่ง และจะทำให้เกิดรัฐใหม่ในอาณาเขตทางทะเลของประเทศไทย ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการแก้ไข ปัญหาดังกล่าวอาจจะขยายวงกว้างและยากที่จะแก้ไข อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยรวมทั้งจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างมหาศาล

 

กองทัพเรือ ชี้เเจง  สร้างบ้านลอยน้ำ ทะเลภูเก็ต


เพื่อเป็นการพิทักษ์ไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และความมั่นคงของชาติทางทะเลที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ กองทัพเรือจึงได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการแก้ไข ปัญหานี้ ตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกองทัพเรือ ขอยืนยันว่า กองทัพเรือ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเมื่อตรวจพบการกระทำผิดก็ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามกระบวนการตามอำนาจหน้าที่ โดยปัจจุบันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้ กองทัพเรือ ไม่ได้ส่งกำลังพลติดตามหรือคุกคามตามที่

 

 


นาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ และภรรยา ให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยการดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กองทัพเรือจึงขอความกรุณาให้ท่านช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไปและหากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ขอความกรุณาติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานโฆษกกองทัพเรือโดยตรง