ผบก.จร.คุยโชเฟอร์รถทัวร์โดนไถ แนะฟ้องอาญาหมวดมนัส

จากกรณีที่เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ คุณต้อม ทัวร์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมบรรยายข้อความด้วยความสงสัยว่า "อะไร ยังไง ใครเป็นคนบอกว่าต้องจ่ายค่าประเพณี ผ่าน ครม.ไหนมา มันจะมากเกินไปแล้ว ทำอะไร อายบ้างครับ พวกผมทำงานเเลกเงินกว่าจะได้แต่ละบาท อดหลับ อดนอน กว่าจะได้มา เงินร้อยหนึ่งเยอะมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราพอใจให้ครับ 

จนในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่คนนี้ได้ถูกคำสั่้งย้าย จากนั้นไม่นาน นายจักรรินทร์ ในผลดี หรือ ต้อม เจ้าของเฟซบุ๊ก คุณต้อม ทัวร์ ได้เปิดเผยกับทางทีมข่าว TNews ถึงสาเหตุที่ต้องอัดคลิป พร้อมเผยอีกว่าเขาเองก็กลัวว่าตนจะไม่ปลอดภัย

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มรถทัวร์เปิดอกเหตุตัดสินใจถ่ายคลิป ร.ต.ท.รีดเงินเป็นค่าจอดรถ

และหลังจากนั้นไม่นานชาวเน็ตก็ได้แฉเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนนี้อีกรอบว่าเขาได้นำเงินสดไปซื้อรถป้ายแดงจำนวนสามคันภายในรอบไม่กี่ปี จนทางเพจลิงค์ภาพการซื้อขายรถยนต์ดังกล่าวต้องลบข้อมูลนั้นทิ้งไป

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โซเชียลวิจารณ์แซด "หมวดมนัส" ศูนย์รถปิคอัพยกเป็นลูกค้า VIP
 

ล่าสุดนายจักรรินทร์  พร้อมด้วยภรรยาที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ได้เดินทางมายืนหลักฐานคือคลิปในวันดังกล่าวให้แก่พนักงานสอบสวนพร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ในการรวบรวมหลักฐานต่อไป

 

 

 

ด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการที่ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงและต้องดำเนินการสอบสวนให้ครบทุกประเด็น ส่วนตนได้เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว และได้พยายามนัดผู้เสียหายมาให้ปากคำ ซึ่งวันนี้ทางผู้เสียหายได้ พร้อมกับภรรยาเพื่อมาให้ปากคำ ซึ่งบางคนบอกว่ามีเรื่องกับตำรวจไม่กล้าเรียกร้องความเป็นธรรมและมาให้ปากคำ 

 

เบื้องต้นก็ได้ถามผู้เสียหายว่าเป็นอย่างไรเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้บอก ตามข้อเท็จจริงอย่างที่ปรากฎในคลิป ซึ่งตนก็ได้สั่งให้พนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการสอบ ผู้เสียหาย ให้ดำเนินการแจ้งความคดีอาญาในการเรียกรับผลประโยชน์ ในขั้นตอนของการสอบเรื่องทางวินัยของผู้หมวดคนดังกล่าว โดยตนได้แนะนำผู้เสียหาย ให้ไปที่สน. บางซื่อ เพื่อให้ดำเนินการแจ้งความให้เรียบร้อย ซึ่งการดำเนินคดีอาญากับทาง ข้าราชการพนักงานสอบสวนอาจจะต้องรวบรวมหลักฐานและส่งให้ทาง ปปท. ดำเนินการ

 

 

 

 

จุดนั้นปกติ ไม่ใช่ช่วงเทศกาลจะไม่สามารถที่จะจอดได้แต่ในช่วงของเทศกาลจะมีการเรียกระดมรถเสริมเข้ามา ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ก็ได้มีการสอบถามกับพนักงานรถทัวร์ซึ่งเขาจะเข้ามาเฉพาะช่วงเทศกาล ซึ่งพอมาทุกเทศกาลนั้นคือมันจอดได้ แต่หมวดท่านนี้อาจใช้ช่องว่างที่เห็นว่าบางคนไม่รู้ไปเรียกผลประโยชน์ แบบนี้ซึ่งมันไม่ถูกต้อง 

 

 

ขณะที่ผู้เสียหายได้บอกว่าไม่ใช่มีแค่หมวดคนนั้น (ร.ต.ท.มนัส เปี่ยมเนตร รอง สว.(จราจร) งานสายตรวจ 1 กก.1) ที่มาเรียกเก็บเงินนั้น อันนี้จะทำการขยายผลหรือไม่ ซึ่งทางประเด็นนี้ทางผู้เสียหายต้องแจ้งให้กับทีมงานของพนักงานสืบสวนและสอบสวนทราบ พนักงานสอบสวนก็จะมีการขยายผลต่อไป ในอดีตนั้นมีการเรียกเงินเรียกเก็บเงินในลักษณะแบบนี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าจะต้องมีการสอบสวน ว่าพฤติกรรมในอดีตของเขาเป็นอย่างไรซึ่งจะต้องสอบพยานที่เกี่ยวข้อง ในที่เกิดเหตุ จะไปพูดว่าเคยจ่ายมาตลอดก็ต้องบอกว่าเคยจ่ายให้กับคนนี้หรือเปล่าหรือใครจะต้องเอาหมด โดยขอให้บอกว่าเป็นตำรวจคนไหนระบุตัวตนให้ได้ ไม่ใช่บอกว่าตำรวจไม่รู้ว่าเป็นใครใส่เครื่องแบบตำรวจแบบนี้ไม่เอา 

 

 

 

 

ในส่วนที่มีการยืนยันว่าตำรวจจราจรไม่มีประเพณีแบบนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งอันนี้ กลับไปถามผู้หมวดคนนั้นว่าประเพณีนี้มันเป็นเช่นไร จะมีการเรียกสอบผู้หมวดคนนั้นหรือไม่ก็ต้องมีการเรียกสอบผู้หมวดคนนั้นอย่างแน่นอนแต่วันนี้หมวดคนนั้นก็ไม่ได้มา เรียกสอบแต่ ผู้เสียหายก่อน แต่ในส่วนของผู้หมวดคนนั้นผู้บังคับบัญชาของเขาก็อาจจะต้องมีการเรียกอยู่แล้ว คำสั่งให้ไปช่วยในเรื่องของธุรการ รวมถึงมีการเขียนรายงานจากตัวของหมวดเองว่ามีการพูดจริง แต่ยังไม่ได้รับเงิน โดยทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ว่าจะเป็นท่านผบตร. หรือท่านรองผบตร. เมื่อท่านเห็นคลิปแล้วท่านก็ถือได้ว่าเป็น ความผิดที่สำเร็จแล้ว

 

 

 

หลังจากที่เกิดกรณีนี้ขึ้นแล้วจะมีการตรวจสอบตำรวจท่านอื่นหรือไม่นั้น ยืนยันว่าผู้บังคับบัญชาระดับชั้นจะมีการดูแลและย้ำตามอุดมคติของตำรวจทุกนายอยู่แล้ว คดีนี้หากผู้เสียหายไปที่สน. บางซื่อก็จะเเจ้งความ 1 ข้อหาคือ  เรียกรับเงิน ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นคดีอาญา  สำหรับโทษในการกระทำความผิดในการรีดไถ่เงินคือการไล่ออก ไม่สมควรที่จะให้อยู่ในองค์กร 

 

 

แต่นี่เรื่องของการที่หลายคนมาว่าตนในเพจเยอะบอกว่าทำไมไล่ออก ให้มาทำธุรการทำไม ซึ่งขั้นตอนของข้าราชการ ตำรวจหรือข้าราชการหน่วยใดจะเอาคนออกหรือดำเนินการสั่งโทษ ต่างๆ ต้องมีหลักฐาน ตั้งกรรมการหรือผู้บังคับบัญชาจะต้องมีหลักฐานที่แน่นจนเขาหมดสิทธิ์ที่จะฟ้องกลับมันต้องจำนนด้วยหลักฐานจริงๆ ถึงบอกว่าขอเวลาในการรวบรวมหลักฐานก่อน  หลายคนบอกว่าให้ออกเลย ตอนนี้ก็เร่งดำเนินการเกี่ยวคดีนี้ให้มีความชัดเจนภายใน 7 วัน ยืนยันจะดำเนินการ ให้ถึงที่สุด โดยส่วนตัวมองว่า พฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรอยู่ในองค์กรด้วยซ้ำ ซึ่งโทษร้ายแรงความผิดทางวินัยถึงขั้นให้ออกจากราชการแต่ในขั้นนี้ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะสามารถออกได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผบก.จร.สั่งย้าย ร.ต.ท.รีดเงินค่าจอดรถ อ้างหน้าเฉยต้องจ่ายเป็นประเพณี

ในประเด็นเรื่องของรถป้ายแดงที่ปรากฏในโซเชียลที่มีหมวดคนนั้นซื้อรถ ที่โชว์รูมของรถแห่งหนึ่งนั้นอันนี้ อย่าเอาไปเชื่อมโยงกันรวมถึง การวิพากษ์วิจารณ์ ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะการนำไปเชื่อมโยง ในประเด็นต่างๆ บนโลกโซเชียล เพราะอาจเกิดความเสื่อมเสียให้กับตัวบุคคลและองค์กรได้