กลายเป็นเรื่องราวที่โลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอความยาว 2 นาที ที่สะเทือนความรู้สึกของบรรดานักอนุรักษ์เป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวมีชายไทยคนหนึ่งดำน้ำลงไปใต้ทะเล พร้อมทั้งหยิบเอาหินปะการังที่มีดอกไม้ทะเลซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาการ์ตูนหรือปลานีโม่ ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ชมที่บนผิวน้ำ และมีปลาการ์ตูนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในดอกไม้ทะเลติดขึ้นมาด้วย คาดว่าคลิปดังกล่าวถ่ายจากเกาะใดเกาะหนึ่งในทะเลอันดามัน

กลายเป็นเรื่องราวที่โลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอความยาว 2 นาที ที่สะเทือนความรู้สึกของบรรดานักอนุรักษ์เป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวมีชายไทยคนหนึ่งดำน้ำลงไปใต้ทะเล พร้อมทั้งหยิบเอาหินปะการังที่มีดอกไม้ทะเลซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาการ์ตูนหรือปลานีโม่ ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ชมที่บนผิวน้ำ แถมมีปลาการ์ตูนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในดอกไม้ทะเลติดขึ้นมาด้วย คาดว่าคลิปดังกล่าวถ่ายจากเกาะใดเกาะหนึ่งในทะเลอันดามัน

 

ไกด์หยิบดอกไม้ทะเล โชว์นักท่องเที่ยว

 

ชายหยิบดอกไม้ทะเล ชูขึ้นเหนือน้ำ ให้นักท่องเที่ยวชม


 

โดย จิตอาสา Go Eco Phuket ได้นำเรื่องราวดังกล่าวออกมาแชร์ ระบุข้อความว่า "#คำว่าเลวแรงไปไหมครับสำหรับนายคนนี้ คนรักทะเลทำงานด่วนครับ ช่วยสืบให้หน่อยเหตุเกิดขึ้นที่ไหน? และนายคนนี้คือใคร? เป็นมัคคุเทศก์รึป่าว อยากถามว่า ตอนที่เขาทำแบบนี้ เขาใช่อะไรคิด หัวสมองหรือหัวแม่โป้งทีนครับ!! ทำไปเพื่ออะไร เพื่อแลกกับความสะใจ หรือเศษสตางค์จากแขกที่มาเที่ยว พวกมันทำแบบนี้ได้อย่างไร!? ไม่มีหัวจิตหัวใจสำนึกรักทะเลกันบ้างรึไง?? #ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเท่ากับทำลายชาติ"


จะเห็นได้ว่าคลิปดังกล่าวที่ปรากฏนั้น มีเสียงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าเป็นชาวจีน แทรกขึ้นมาอยู่เป็นระยะ สอบถามพูดคุยกัน โดยมีหญิงสาวไทยคนหนึ่งพูดว่า “เราสามารถจับได้แบบนี้เลยเหรอ และคลิปดังกล่าวก็จบลง 

 

ไกด์ นำดอกไม้ทะเลมาไห้นักท่องเที่ยวดู


ทั้งนี้เพจดังกล่าวยังได้บอกอีกว่า แหล่งข่าวแจ้งว่าเป็นคลิปนี้ส่งกันในวีแชทครับ แล้วมีไกด์ที่รักและสงสารปลานีโม่ที่โดนรังแกเขาเลยเซฟแล้วส่งมาให้แอดมินครับ ส่งมาเมื่อ 28 เมษายน เมื่อเวลา 12.30 ครับ เขายืนยันว่าเป็นคลิปที่ส่งกันในกลุ่มวีแชทวันนี้
 

 

ทำลายธรรมชาติ

 

ขณะเดียวกัน เพจ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้ามาคอมเม้นต์ใต้คลิปว่า "ท่านอธิบดีกรม ทช. ทราบเรื่องแล้ว กำลังตรวจสอบข้อมูล หากท่านใดมีข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ช่วยส่งมาให้ด้วยครับ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันครับ"

 

ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเท่ากับทำลายชาติ


หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า ปลานีโม่มีสารเคลือบตัวเองเพื่อจะไม่โดนพิษของปะการัง ถ้าไปจับตัวมันแล้วสารเคลือบหลุด มันจะโดนปะการังตอดด้วยความเจ็บปวด ก่อนสารจะสร้างมาเคลือบตัวมันอีกครั้ง อยากให้ทะเลลงโทษคนแบบนี้ซะที


บ้างก็บอกว่า คนประเภทนี้มีเยอะครับสมัยนี้ ตอนนี้แหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่งเสื่อมโทรม ไม่ต้องโทษใครหรอกครับเพียงเพราะผลประโยชน์ในช่วงสั้นๆครับ กว่าจะรู้สึกตัวผมว่าทุกอย่างคงจะพังพินาศเกินคำว่า เยียวยา ดูแล้วน้ำตาคลอ สงสารน้องปลา น้องเค้าอยู่ของเค้า แล้วจิงๆ คุณเป็นไกด์ น่าจะเคารพกฎนี้มากกว่านักท่องเที่ยวอีกนะ เพราะต้องเป็นคนเตือนคนอื่น แต่นี่อะไร เล่นสนุก หวังเงินเล็กๆน้อยๆ แต่คุณกำลังฆ่าชีวิตหนึ่งอยู่ ไม่ได้มองโลกแง่ร้ายนะ เราว่าน้องปลาไม่อยู่แล้วหละ ช้ำแล้วจากไปแล้วหละ rip

 

ไม่มีหัวจิตหัวใจสำนึกรักทะเลกันบ้างรึไง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คู่รักขับรถไกลกว่า 800 กิโล พาเจ้าตูบมาเล่นน้ำทะเล

ชาวสมุยขอให้ตรวจสอบ มาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์บนโขดหินในทะเล และการสร้างศาลาที่พักรุกล้ำลำน้ำที่ใช้งบไทยนิยมยั่งยืนมาสร้าง

อากาศร้อนจัด ทำให้น้ำทะเลร้อนส่งผลกระทบต่อสัตว์ในทะเล และชาวประมงพื้นบ้าน ทำให้อาหารทะเลมีราคาแพง

เปิดคลิปดูกันชัดๆ วินาทีผู้ประกอบการนทท.บนเกาะหลีเป๊ะ ถ่ายภาพพายุงวงช้างได้กลางทะเล

พบ “เต่าตนุ” เพศเมีย น้ำหนักกว่า 55 กก.สภาพสดสมบูรณ์ ลอยเสียชีวิตกลางท้องทะเลตรัง

 

ขอบคุณ จิตอาสา Go Eco Phuket กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง