กรมอุตุประกาศพื้นที่เสี่ยงฝนตกประจำวันที่ 30 เมษายน 2562

กรมอุตุประกาศพื้นที่เสี่ยงฝนตกประจำวันที่ 30 เมษายน 2562

เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศพื้นที่เสี่ยงฝนตกประจำวันที่ 30 เมษายน 2562 

 

กรมอุตุประกาศพื้นที่เสี่ยงฝนตก

 

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 30 เมษายน 2562 ลักษณะอากาศทั่วไป    พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ควรอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงฟ้าผ่า 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา    ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับประเทศไทยตอนบนยังคงมีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุม ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ 

 

กรมอุตุประกาศพื้นที่เสี่ยงฝนตกประจำวันที่ 30 เมษายน 2562

 

อนึ่ง พายุไซโคลน “ฟานิ” (FANI) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอ่าวเบงกอล มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนบนและบังคลาเทศในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. 62 โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ    อากาศร้อนจัดโดยทั้วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน 
พะเยา แพร่ อุตรดิถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก และกำแพงเพชร 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส 
ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย 
บึงกาฬ สกลนครนครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา 
บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง    อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี 
อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี 
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส 
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก    อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัด ปราจีนบุรี 
สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี 
นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส 
ลมใต้ ความเร็ว 15-20 กม./ชม. 

 

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 30 เมษายน 2562 - 6 พฤษภาคม 2562

การคาดหมายในระยะนี้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.– 1 พ.ค. 62 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ค. 62 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 2 – 5 พ.ค. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 30 เม.ย.– 1 พ.ค. 62 ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ค. 62 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงปกคลุมประเทศภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง สำรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง พายุไซโคลน “ฟานิ” (FANI) บริเวณอ่าวเบงกอล กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนบนและบังคลาเทศในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. 62 ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

ภาคเหนือในช่วงวันที่ 30 เม.ย. – 2 พ.ค. 62 มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 6 พ.ค. 62 มีอากาศร้อน กับพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 30 เม.ย.– 1 พ.ค. 62 อากาศร้อนกับมีร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ค. 62 มีอากาศร้อน กับมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-20 กม./ชม.

ภาคกลางในช่วงวันที่ 30 เม.ย. – 2 พ.ค. 62 อากาศร้อนกับมีร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 6 พ.ค. 62 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค. 62 อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ค. 62 อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 30 เม.ย. และ 3-4 พ.ค. 62

ส่วนในช่วงวันที่ 1 – 6 พ.ค. 62 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 30 เม.ย. และ 3-4 พ.ค. 62

ส่วนในช่วงวันที่ 1 – 6 พ.ค. 62 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 30 เม.ย. – 2 พ.ค. 62 อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 6 พ.ค. 62 อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-กรมอุตุฯประกาศฉบับที่ 16 จังหวัดเจอพายุฤดูร้อน วันนี้วันสุดท้าย
-กรมอุตุฯฉบับ 9 รายชื่อ 50 จังหวัด เจอฝนถล่ม
-กรมอุตุฯชี้แจงข่าวลือ เรื่องฮีตเวฟบริเวณประเทศอินเดียและไทย
-กรมอุตุเตือนระวังพายุฤดูร้อนทำหลายพื้นที่น้ำท่วม
-กรมอุตุฯประกาศ อากาศร้อนระอุทะลุถึง 43 องศาเซลเซียส

 

 

ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา