จากปาก ลูกสาวคนโต เล่า คุณพ่อใช้ร่างบัง ช่วยชีวิตลูก

 กรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย.62 พ.ต.ต. ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุอาคารถล่มที่ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ เลขที่ 440 /4 หมู่ 4 หมู่บ้านบ้านบึง ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงข้ามสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้รุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 เจ้าหน้าที่ทหารอากาศกองบิน 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 200 นาย พร้อมระดมเครื่องจักรกลหนัก ไฟฟ้าส่องสว่าง พบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ชั้นครึ่ง 2 คูหา รับซ่อมไดนาโม ชื่อร้านช่างเก๋ไดนาโม สภาพอาคารถล่มกองราบกับพื้นได้รับความเสียหายทั้งหลัง

 

    จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้อาศัยในอาคารดังกล่าวติดอยู่ในซาก 5 ราย เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย 2 ราย ทราบชื่อคือ เด็กหญิงริญญรัตน์ ธัญเลิศพัฒนากิจ อายุ 14 ปี และ นางสาวธันย์นิชา ธัญเลิศพัฒนากิจ อายุ 29 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรื้อโครงสร้างอาคารเพื่อค้นหาผู้ที่ยังติดค้างมีโทรศัพท์มือถือแจ้งให้บุตรสาวทราบเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีผู้ติดอยู่ในซากอีก 3 รายยังมีชีวิตอยู่ ประกอบด้วย นายชัยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนากิจ หรือช่างเก๋ อายุ 54 ปีเจ้าของบ้านพร้อมภรรยาคือ นางสิริการย์ ธัญยเลิศพัฒนากิจ อายุ 52 ปี และ นางสาวธัญญกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนากิจ อายุ 31 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังช่วยเหลือ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ 5 ชีวิต หลังเกิดเหตุอาคารพาณิชย์ถล่ม

 จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุหลังจากปิดร้านซ่อมไดมาโม ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำผู้อาศัยในบ้านทั้ง 5 คน ได้นั่งล้อมวงรับประทานอาหารที่ห้องครัวด้านหลัง ต่อมาได้ยินเสียงอาคารลั่นบริเวณคานรับน้ำหนัก แต่ไม่คาดคิดว่าตึกจะถล่ม จึงไม่ได้ระวังตัวและนั่งรับประทานอาหารตามปกติ กระทั่งอึดใจต่อมาตึกได้ถล่มเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นอีก 30 นาทีได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทำให้รอดตายหวุดหวิด

 

 

 นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่มพังทั้งหลัง เนื่องจากเป็นอาคารเก่าสร้างมานานกว่า 10 ปี อาจมีปัญหาโครงสร้างเดิมไม่แข็งและจะต้องแจ้งให้วิศวกรสำนักงานโยธาธิการจังหวัดตรวจสอบภายหลังว่ามีการต่อเติมอาคารหรือไม่ ทำให้อาคารเดิมรับน้ำหนักไม่ไหวเป็นเหตุให้อาคารพังถล่ม ซึ่งโชคดีที่เกิดเหตุในช่วงหัวค่ำขณะที่ผู้อาศัยทั้งหมดในบ้านยังไม่ได้พักผ่อนนอนหลับ ทั้งนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเร่งทำการรื้อซากในจุดที่คาดว่ามีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายใน เพื่อช่วยเหลือโดยเร็ว

 

 

   จากอุบัติเหตุ อาคารถล่ม ส่งผลให้ นายชัยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 54 ปี ช่างเก๋ เสียชีวิต  ส่วนเด็กหญิงริญญรัตน์ ชัยเลิศพัฒนกิจ อายุ 14 ปี นางสาวธันย์นิชา ชัยเลิศพัฒนกิจ อายุ 29 ปี นั้นได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ โดยมีผู้ติดอยู่ในซากอาคาร 3 ราย 1. นายชัยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 54 ปี ช่างเก๋ (พ่อเสียชีวิต) นางสิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี(แม่) และ น.ส.ธันยากานต์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปี  เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจนออกมาได้และมีอาการบาดเจ็บ และถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลูกสาวเล่านาทีกอดพ่อแน่นก่อนสิ้นใจ

 

    ด้าน  นางสาว ธันยากานต์ ธัญเลิศพัฒนกิจ ลูกสาวคนโต เผยว่าา ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านคนเดียว พอแม่กับน้องกลับมาจากตลาดนัด ทุกคนก็เตรียมที่จะกินข้าวกัน เอากับข้าวที่ตลาดนัดมาตั้งวงและตนเองกินเข้าปากไปแล้ว 1 คำ เมื่อได้ยินเสียงดังเหมือนฟ้าร้อง น้องก็เดินออกไปดู พ่อกับตนเองก็เดินออกไปได้นิดเดียวก็ได้ยินเสียงโครมใหญ่ตัวบ้านได้ทรุดลงมา และตัวเองก็ถูกทับลงไปกับพ่อ  ตอนนั้นกอดพ่อแล้วพยามล้มตัวนอนลงให้ราบกับพื้น โดยที่พ่อพยามบังตัวเราไว้   ตอนนั้นรู้ว่าพ่อบาดเจ็บ    หลังจากนั้นพ่อก็นิ่งไปตนเองก็บอกพ่อว่านอนไปเลย

 

ช่วงแรกยังได้ยินเสียงกันอยู่ภายใต้ซากตึก แม่ได้บอกให้โทรหาคนมาช่วย แต่ยังหาโทรศัพท์ไม่พบ ตัวเองอยู่ติดกับพ่อจึงพยายามที่จะช่วยพ่อที่ถูกทับอยู่ พยายามที่จะขยับตัวพ่อและเรียก ช่วงแรกพ่อยังมีสติ แต่สักพักก็เงียบไป ซึ่งก็รู้ว่าพ่อไม่ไหวแล้ว จากนั้นตนเองพยามหาน้องสาวว่าอยู่ตรงไหน และพูดคุยว่าทั้งสองออกไปได้หรือไม่

 

 

 

 

ขอบคุณ

Prachuppost Newspaper

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยประจวบคีรีขันธ์