แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

คุณแม่โพสต์ระบายความช้ำใจหลังพบว่าลูกสาวสุดที่รักถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้งอย่างรุนแรง และไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนอย่างนี้ ทว่าทางครูและทางโรงเรียนกลับไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร วันนี้เกินทน หวั่นเข้าข่ายเป็นอันตรายต่อชีวิตลูกน้อย ขอโพสต์ถามความเห็นโซเชียลควรดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะนี่ไม่ใช่การbully ธรรมดา แต่เรียกว่าเป็นการเข้าข่าย life danger คือมีอันตรายต่อชีวิตแล้ว

 

แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

 

คุณแม่โพสต์ระบาย ตั้งสติอยู่นานค่ะกว่าจะมาเขียนเรื่องนี้ ที่ต้องตั้งสติเพราะอยากให้แน่ใจตัวเองว่าข้อความทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่มีอารมณ์โกรธเข้ามาเกี่ยวข้องและไม่ได้จะทำให้ใครเสียงชื่อเสียง แต่เราต้องการหาทางออกและปรึกษาเพื่อหาแนวทางว่าเราจะทำยังไงต่อไป

เมื่อวาน 13/5/19 ลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนเล่าให้ฟังว่าโดนเพื่อน(เด็กผู้หญิง) แกล้งโดยแอบเอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิของลูกใส่น้ำร้อนแล้วเอามาให้กิน ลูกนึกว่าเพื่อนใจดีเลยกินเข้าไปสรุปปากพองลิ้นพองครูต้องพาไปห้องพยาบาล วันนี้ลิ้นก็ยังพองอยู่ตามภาพ เราสอบถามลูกหลายอย่างโดยให้เล่าเหตุการณ์โดยละเอียดตามลำดับ และถามย้ำหลายครั้งว่า “ไปแกล้งเค้าก่อนรึป่าว” ลูกยืนยันว่าไม่ได้แกล้ง ถูกแม่ถามหลายรอบจนลูกเริ่มร้องไห้แล้วบอกว่าหนูไม่ได้แกล้งจริงๆ คือถึงจุดนี้เราเชื่อลูก แต่ก็มาช้อกอีกรอบกับการทำโทษของครูประจำชั้นที่ทำโทษโดยให้เพื่อนที่แกล้งมิลลี่ไปยืนนอกห้องเป็นเวลา 10 นาที! เดี๋ยวนะคะ! ลูกเราโดนน้ำร้อนๆลวกปาก (ใครอยากรู้ว่าร้อนแค่ไหนมันคือแท้งค์ที่มีหัวกดน้ำร้อนน้ำเย็นอะค่ะ) ทำไมการทำโทษของครูมันดูเล็กน้อย ไม่ต้องพูดถึงว่าสมเหตุสมผลกับการกระทำเด็กรึป่าวเลย เอาแค่ว่าครูคิดว่าเด็กจะหลาบจำไม๊คะ อยากจะทำร้ายใครยังไงก็ได้ แค่ไปยืนนอกห้อง 10 นาที แล้วเด็กก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากการทำผิดครั้งนี้จริงๆด้วย คลาสต่อไปหลังโดนทำโทษ เด็กคนเดิมยังเดินมาหามิลลี่แล้วทำสัญลักษณ์ I’ll be watching you (ตามภาพประกอบ) ใส่มิลลี่อีก ประมาณว่ามิลลี่ทำให้เค้าโดนทำโทษเดี๋ยวจะมาเอาคืน

เราเลยติดต่อแม่ของเด็กเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทีช้อคกว่าเดิมคือครูไม่ทำ Class report ไปหาผู้ปกครองเลยว่าลูกตัวเองทำอะไรวันนี้ แสดงว่าครูคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่? แค่ทำโทษแล้วจบ? คุณแม่ของน้องมีการสอบถามไปยังลูกตัวเองเนื่องจากลูกไปเล่าให้ฟังแค่ว่าวันนี้มิลลี่โดนน้ำร้อนลวกปาก (แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองทำ) พอโดนแม่ซักไซร้เลยบอกแม่ว่ามิลลี่มาแกล้งเค้าโดยเอาของใส่รองเท้าเค้าแล้วพอเค้าใส่รองเท้ามันทำให้เท้าเค้าเปียก เราเลยคาดคั้นมิลลี่อีกรอบว่าทำรึป่าว ลูกก็บอกไม่ได้ทำ แถมวันศุกร์มิลลี่เรียนแค่ครึ่งวันแม่ก็ไปรับไปธุระต่อ แต่ถึงทำจริงๆก็ยังงงว่า 

1. วันนี้ (วันที่น้ำร้อนลวกปาก) วันอังคารแล้วลูกมันผ่านมาหลายวันแล้วทำไมยังเก็บความแค้นต้องมาแก้แค้นด้วยเหรอ แล้วเมื่อวานมาเรียนทำไมไม่แกล้ง มันไม่ make sense 

2. ถ้าเพื่อนทำเท้าหนูเปียก หนูต้องเอาน้ำร้อนมาลวกเพื่อนเลยเหรอ ที่บ้านหนูให้ดูละครหลังข่าวมากไปไหมลูก 7 ขวบเองนะ วางแผนแก้แค้นเหมือนนางอิจฉาในละครเลย สรุปคือคำตอบไม่ make sense ค่ะ มันเป็นอะไรที่ไม่สมควร มันไม่ใช่ bully ธรรมดาแล้ว มันเข้าข่าย life danger คือมีอันตรายต่อชีวิตแล้ว ถ้ามิลลี่เกิดหิวน้ำแล้วซดเข้าไปเฮือกใหญ่ๆนี่ไม่ลวกคอลวกหน้ากว่านี้เหรอคะ

อยากจะบอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มิลลี่โดนเพื่อนคนนี้แกล้ง เคยทั้งโดนตบ โดนชก โดนกระบอกน้ำเหล็กฟาดหัว โดนเอาตีนถีบหน้าขณะที่ลูกเราก้มลงผูกเขือกรองเท้าอยู่ จนหน้าไปกระแทกกระถางต้นไม้จนฟันโยก แม่ร้องเรียนไปที่โรงเรียนและได้คำตอบว่าจะทำการสอบสวนแล้วติดต่อกลับแต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับเลย ถามว่าเราควรทนต่อไปเหรอคะ โรงเรียนไม่มีมาตรการจัดการกับเรื่อง school bully ซึ่งเป็นปัญหาที่โรงเรียนทั่วโลกเค้า aware กัน เราส่งลูกไปเรียนนะคะไม่ได้ส่งลูกไปโดนซ้อม พ่อแม่ยอมเสียเงินค่าเทอมนานาชาติปีนึงเป็นแสนๆไม่ใช่แค่การศึษาลูกนะคะ แต่อยากให้ลูกอยู่ในสังคมที่ดีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่ใช่ต้องหวาดกลัวอันตรายที่ลูกจะต้องเจอทุกวันแบบนี้

แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

 

ความคาใจของคนเป็นแม่ยังมีอยู่มากที่ต้องการเคลียร์

1. โรงเรียนจะจบการทำโทษแค่นี้โดยไม่แจ้ง ผปค หรือไม่มีการเรียก ผปค มาคุยกันเลยเหรอ ก่อนหน้านี้เราให้เกียรติ รร. ไม่ก้าวก่ายแต่ รร. ก็ไม่เคยแก้ปัญหาได้เลย

2. ทำไมถึงปล่อยให้เด็กเข้าถึงน้ำร้อนได้ง่ายขนาดนี้ มันอันตรายมาก ผู้ใหญ่ยังมีเผลอกดผิดเลย

3. ถ้า รร เพิกเฉยขนาดนี้ เราในฐานะพ่อแม่สามารถทำอะไรได้บ้าง สามารถแจ้งกระทรวงศึกษาธิการได้ไม๊

4. การย้าย รร เป็น choice สุดท้ายของเรานะคะ เราไม่คิดว่าลูกจะเข้าใจ เหมือนตัวเองโดนทำโทษซ้ำมากกว่า ต้องหาเพื่อนใหม่ต้องมานั่งปรับตัวใหม่

5. พยายามคุยกับลูกว่าย้ายห้องไหมแต่ลูกไม่ยอมเราควรทำยังไงต่อ

6. มีเพจไหนมีเราสามารถแทคหรือปรึกษาปัญหานี้ได้ไหมคะ ขออนุญาตแทค เข็นเด็กขึ้นภูเขา เลี้ยงลูกนอกบ้าน เลี้ยงลูกตามใจหมอ นะคะ เท่าที่คิดได้ตอนนี้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนนะคะ ตอนนี้อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนจริงๆค่ะ หัวอกแม่น้ำตาตกในมาก

ล่าสุดคุณแม่ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งอัพเดทความคืบหน้าหลังปรึกษาเพจดังต่างๆ ดังนี้

ขออัพเดทสถาณการณ์นะคะ เนื่องจากมีความคิดเห็นบางส่วนคิดว่าทำไมแม่นิ่งนอนใจแทนที่จะเอาเรื่องโรงเรียนกลับมานั่งถามคนในเฟส

เช้านี้แม่ได้เข้าไปพบครูใหญ่มาแล้วทางครูใหญ่แจ้งว่าจะดำเนินการและติดต่อกลับ วันนี้รอโทรศัพท์ทั้งวันไม่มีการติดต่อจากโรงเรียน แม่เลยไปรับลูกตอนเลิกเรียนแล้วพาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. พร้อมรับใบส่งตัวเพื่อตรวจร่างกาย ทางสน. ได้ติดต่อไปยัง รร. ซึ่งทางรร. แจ้งว่าได้ออกจดหมายเชิญ ผปค. น้องอีกคนมาพบพรุ่งนี้แต่ไม่ได้แจ้งฝ่ายแม่นะคะ เลยบอกโรงเรียนว่าเราต้องการเข้าไปคุยด้วยค่ะ ไม่โอเคกับการที่โรงเรียนคุยกันแค่ทางฝั่งนู้นฝ่ายเดียวโดยไม่อัพเดทฝ่ายเรา ทางตำรวจจึงช่วยพูดให้ทางเราได้เข้าไปคุยกับทาง รร. และ ผปค. เด็กอีกฝ่ายในวันพรุ่งนี้ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นการแจ้งบันทึกประจำวันไม่ได้เจตนาฟ้องร้องใครเพียงแต่ขอเก็บหลักฐานเพื่อส่งไปยัง #กระทรวงศึกษาธิการ หากว่าไม่ได้รับการแก้ไขที่พอใจจากทาง รร ค่ะ เอาเป็นว่าแม่ยังอยู่ในโซนที่ให้โอกาสทั้ง รร และทั้งเด็กฝ่ายนั้นค่ะ แต่แม่ก็มี deadline อยู่ในใจเหมือนกันและถ้ามันไม่ดีขึ้นครอบครัวเราก็พร้อมลุยค่ะ

ส่วนที่มาโพสลงเฟสเพราะอยากหาแนวทางจากพ่อแม่หลายๆท่านที่มีประสบการณ์เดียวกัน ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่ากระแสมันจะไปแรงและเร็วขนาดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และทุกแชร์นะคะ แม่พยายามอ่านทั้งหมดและกรองสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ตอนนี้มิลลี่ปลอดภัยดีค่ะ มีอาการเจ็บลิ้นเวลาทานอาหารอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องจิตใจก็เยียวยากันไปค่ะ ส่วนหลายๆคำถามมีคำตอบอยู่ในคอมเม้นท์ที่เป็นข่าวแล้วค่ะ

น้องมิลลี่ฝากขอบคุณทุกๆกำลังใจด้วยค่ะ

ขอบพระคุณเพจ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน และเพจ Drama-addict ด้วยค่ะ หวังว่าประสบการณ์ของครอบครัวเราจะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่สถานศึกษาในประเทศไทยนะคะ ถึงเวลารึยังคะที่ รร ควรมีการอบรมอย่างจริงจังเป็นคอร์สบังคับสำหรับทั้งครูและนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง school bully

 

แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

 

แม่ช้ำใจ ลูกถูกเพื่อนแกล้งกดน้ำร้อนจัดให้ดื่ม

 

ขอบคุณ Annie Rossarin