ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว

ขณะที่ทางด้านต่าย ชุติมา ได้เปิดใจหลังจบการไต่สวนนาน 11 ชม. บอกว่า ต้องขอชี้แจงก่อนว่าคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้

จากกรณีที่ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว tim_pita ระบุว่าคดีคุ้มครองสวัสดิภาพเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ศาลได้ยกฟ้องและให้ผมชนะคดี "ยกคำร้อง" คดีและข้อกล่าวหาที่คุณต่ายฟ้องกลับ

ขอความกรุณา พี่ๆ สื่อมวลชนที่พาดหัวข่าวบิดเบือนจากคำสั่งศาล คดีคุ้มครองสวัสดิภาพคนในครอบครัวที่คุณต่ายกล่าวหาผม และไต่สวนอย่างละเอียด 11 ชม.ในวันนี้นั้น ศาลพิจารณาและได้พิสูจน์แล้วว่า "ไม่เป็นความจริง" และ ตัดสินว่า "ยกคำร้อง" ของคุณต่ายตามที่ได้กล่าวหาผมมา คุณต่ายก็ให้สัมภาษณ์ว่าน้อมรับคำตัดสินของศาลแล้ว และ ปัจจุบัน "ไม่มี" คดีความอะไรค้างคาเหลืออีกแล้ว 

 

อย่างที่เรียนเมื่อเช้า ยังมีขบวนการข่าวเท็จ Fake news ทีมกฎหมายบางกลุ่ม ทนายบางคน และ สื่อมวลชนบางกลุ่ม เพจบางเพจ อวตาร ขาประจำ ที่ยังบิดเบือนข้อเท็จจริง กลั่นแกล้งผม DISCREDIT ผม และอาจหมิ่นคำสั่งศาลอีกด้วย เพราะมีเป้าหมายทางผลประโยชน์ หรือ เงิน ที่ยังไม่อยากให้เรื่องจบ ขอความกรุณาให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย ผมขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดีกับผู้ที่ "เบิกความเท็จ" "ให้สัมภาษณ์เท็จ ให้ร้าย" และ" หมิ่นประมาทโดยโฆษณา" ทั้งแพ่งและอาญาด้วยครับ

 

สุดท้ายนี้ผมขอโทษทุกท่านอีกครั้ง ที่ทำให้ท่านเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ผมมีความจำเป็นจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากรบกวนทุกท่านแล้ว เรื่องภายในครอบครัวที่ท่านแนะนำมาว่าควรเป็นเรื่องระหว่างคน 2 คน ผมเห็นด้วยครับ เป็นเพื่อน ช่วยกันเลี้ยงลูก เพราะผมยังมองถึงความผาสุกของลูกเป็นที่ตั้ง ขอให้ผมได้อยู่กับลูกอย่างสงบเถอะครับ  ขอบคุณครับ ปล. ผมได้แถลงขอสละเอกสิทธิ์ สส. ต่อหน้าศาล และเข้ากระบวนการครั้งนี้แบบคนธรรมดา ไม่มีสิทธิพิเศษ อย่าเชื่อข่าวลวง ขอบคุณครับ

 

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว


อ่านข่าว : ทิม พิธา แจง ศาล ยกคำร้อง ข้อกล่าวหาที่ ต่าย ชุติมา ฟ้องกลับ 

ขณะที่ทางด้านต่าย ชุติมา ได้เปิดใจหลังจบการไต่สวนนาน 11 ชม. บอกว่า "ต้องขอชี้แจงก่อนว่าคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ คนหลายคนจะเอาไปปนกันว่าเราฟ้องเขา เขาฟ้องเรา คือคดีนี้มันเป็นคดีที่แยกออกไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว หมายถึงเรื่องของการทำร้ายร่างกายที่ต่ายยื่นฟ้องไปทางคุณทิม"   

 

 

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว

 

พอเหมือนเราได้ไปปรึกษาทางกระทรวง พม. กับมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาค ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเจอมามันถูกต้องตามทำนองคลองธรรมหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ภรรยาคนนึงต้องรับมันให้ได้ แต่พอทางผู้ใหญ่แนะนำว่าควรจะดำเนินคดีเพราะฟังดูน่าเป็นห่วงก็เลยตัดสินใจฟ้อง 


ที่ผ่านมาเราโดนทำร้ายร่างกาย? 


ก็...จริงๆ อยากให้เป็นเรื่องของคนสองคน แต่ล่าสุดที่ข่าวออกไปเหมือนน่าจะมีคำสั่งศาลออกไป เพราะรายละเอียดเกี่ยวกับคดีแรกและคดีนี้คือละเอียดมาก แล้วมีบ้านเลขที่ออกไป วันนี้พอไต่สวนแล้ว มีการทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ถึงกับเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่ว่ามันก็กระทบจิตใจของเรา คือถึงมันไม่รุนแรงแต่มันก็มีความกังวลในการอยู่ร่วมกัน 

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว

 

โดนทำร้ายร่างกายมานานหรือยัง? 

อยากให้เป็นเรื่องที่รู้กันสองคน การฟ้องหย่า อันนั้นคือเขาฟ้องเรา อย่างที่แจ้งไปคดีที่แล้วคืออีกคดีนึง คดีที่แล้วศาลได้รับการพิจารณาคดีใหม่ คำสั่งทุกอย่างเป็นโมฆะไปแล้ว ศาลเห็นว่าเราไม่มีเจตนาจริงๆ ก็เลยยกฟ้องไป 


เรื่องลูกตกลงกันได้ยังไง?

ณ ตอนนี้ศาลมีคำสั่งออกมา ก็ถือว่าลงตัวในระดับนึง เป็นดุลพินิจของศาลด้วย แล้วทางทนายเราก็ได้ยื่นขอคำร้องไป ในการพิจารณคดีขอเป็นแบบนี้ไปก่อน ของต่ายจะได้ดูแลลูก ศุกร์ - จันทร์ ถามว่าเราโอเคมั้ยเราเป็นห่วงลูกมากกว่า จริงๆ แล้วมองในมุมว่าต่ายได้ช่วงวีคเอนน่าจะเป็นคนที่แฮปปี้ ไม่ต้องตื่นเช้าไปรับไปส่ง พาลูกเที่ยวอย่างเดียว นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องเหรอสำหรับเด็กคนนึง สิ่งที่เขาควรจะได้รับมันเป็นยังไง มันไม่ใช่แบบนี้

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว

 

สู้กันต่อไปมั้ย อันนี้ก็ปรึกษาผู้ใหญ่หรือเปล่าว่า จะจบยังไง?

ก็อยากให้ศาลท่านพิจารณาจริงๆ ว่าใครที่สมควรจะเป็นบ้านหลัก ใครที่มีคุณสมบัติจริงๆ คือเหมือนคำนั้นมันเป็นคำที่ใช้ในศาล คำว่าขอดูแต่เพียงผู้เดียว แต่คุณก็ต้องมีจิตสำนึกในการเป็นผู้ปกครองหลักนะ เพราะเราดูแลสภาพจิตใจเด็ก บ้านที่เป็นบ้านหลักต้องดูแลน้อง 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์คือเป็นบ้านรอง ถ้าจะมาให้ผู้ใหญ่แฟร์ๆ 50:50 ผลกระทบคืออยู่ที่ตัวลูก เด็กจะเกิดการอยู่บ้านนี้จะเป็นบุคลิกแบบนี้ อยู่บ้านนึงจะเป็นอีกบุคลิกนึง พอไปโรงเรียนก็จะสร้างบุคลิกใหม่ขึ้นมา พอเราเริ่มสังเกตพฤติกรรมเราก็ค่อนข้างมีความเป็นห่วงและกังวล  

การแบ่งกันเลี้ยงตอนนี้มีผลกระทบต่อลูก?


คิดว่ามี ที่อยากต่อสู้คดีใหม่เพราะอยากจะเป็นบ้านหลัก ต่ายมีสิทธิ์ในตัวลูก 80% ส่วนทิม 20% ไม่ได้มั่นใจหรืออยากจะชนะอะไร แต่เราก็ใช้ข้อเท็จจริงทุกอย่างว่าเราเลี้ยงลูกมายังไง เราเป็นคนดูแลลูกอย่างไร ใช้อะไรดู ทุกสิ่งทุกอย่าง ไกล่เกลี่ยนอกรอบ พยายามอยู่ตลอดนะคะ   

 


กับเรื่องรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านมาตลอด 2 ปี? 

มันเกิดขึ้นจริง แต่เราก็ยินดีที่จะทำเพื่อครอบครัว   

 


คดียืดเยื้อจะมีผลกระทบต่อลูก? 


ทุกวันนี้ก็กังวล แค่ที่เรื่องเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ช่วง พ.ย. มา มันก็เกิดการอยู่ 2 บ้าน เราก็เป็นห่วงเขามากที่สุด คำแนะนำของคุณหมอเด็ก จิตแพทย์เด็ก เขาก็บอกว่าเด็กอยู่แบบครึ่งๆ แบบนี้ไม่ได้ ความเป็นตัวตนของเด็กเขาจะหายไป   

 

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว


ใช้เวลาอีกนานแค่ไหนคดีถึงจะจบ? 

อันนี้ก็ไม่ทราบจริงๆ แต่อยากให้เร็วที่สุด วันนี้ ตามความเป็นจริงเลยคือมีเกิดขึ้นแต่ไม่ได้รุนแรง แต่จะเป็นยังไงต่อต้องถามทนายอีกที นอกจาก 2 คดีนี้ ไม่มีแล้ว เรื่องสินสมรส อันนี้เป็นในส่วนของทางทนายให้เขาดูตามความเหมาะสม ตามความจริง ไม่ได้เรียกร้องอะไร ตั้งแต่แรกเราก็มุ่งประเด็นที่เรื่องลูกอยู่แล้ว 

 

เรียกร้องอะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก? 

ก็มีคิดๆ ไว้บ้าง อย่างแบ่งกันคนละกี่เปอร์เซ็นต์ เราออกส่วนไหน เขาออกส่วนไหน ที่ผ่านมาเราก็เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายลูกอยู่แล้ว

 

 

ต่าย ชุติมา เปิดใจเรื่องครอบครัว

 

 

ขอบคุณ IG : tim_pita / tye_chutima

ขอบคุณ : NineEntertain