เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

โดยพระราชดำรัสนั้นของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ความว่า ขอบใจ และแสดงความยินดี ขอบใจที่มีน้ำใจช่วยงาน

หลังจากที่ในเฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” ของ “วาสนา นาน่วม” ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความ..รำลึก..... “พลเอกเปรม” ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน ... กับรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และการพูดถึง การจากลา พลเอกเปรม จากลา ไปอย่างสงบ เมื่อรุ่งสางของวันนี้ 

แม้พาส่ง รพ. ก็ไม่อาจ ยื้อ ป๋าท่าน กลับมาได้ ป๋า ท่าน 98 จะ 99 แล้ว. ท่านเหนื่อยมาเยอะแล้ว ขอให้ป๋าไปสู่ สรวงสวรรค์ Rest in Peace ค่ะป๋า

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

 

ต่อมาวาสนา นาน่วม ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า หลังเสร็จภารกิจสำคัญ ในชีวิตของการเป็นประธานองคมนตรี 2 แผ่นดินแล้ว.. “ป๋าเปรม” ก็จากลาไปอย่างสงบ รุ่งเช้าวันนี้ 26 พค.62 RIP.
 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

 


และเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562 ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดให้สื่อมวลชน ขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ โดยสื่อมวลชนได้อวยพรให้ป๋าเปรมอายุยืน 120 ปี  โดยป๋าเปรมยังบอกว่า เราต้องอายุยืนสิ ในเมื่อเราอวยพรให้คนอื่นอายุยืน เราก็ต้องอายุยืนด้วย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า จะต้องอยู่ให้บ้านเมืองสงบก่อน พล.อ.เปรมได้ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่สงบหรืออย่างไร ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจด้านการเมืองเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองบางทีก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ก็ขอให้พวกเราช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง สื่อมวลชนสำคัญที่สุด ตนก็ยังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมือง 

 

ทั้งนี้ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบแล้ว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ เมื่อเวลา 09.09น. วันนี้ ( 26 พ.ค.62) ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว สิริอายุรวม 98 ปี

 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

 

อ่านข่าว : หัวใจประธานองคนตรี  2 แผ่นดิน "ป๋าเปรม" ฝากคำสำคัญสุดท้ายผ่านสื่อ ห่วงใยชาติบ้านเมืองเป็นที่สุด


อ่านข่าว : อัศจรรย์ผูกพัน ห้วงเวลา "ป๋าเปรม" ถึงแก่อสัญกรรม ภาวะสุดท้ายสงบยิ่ง "ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน" รพ.พระมงกุฎเกล้า

หากย้อนไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ประธานองคมนตรี ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรีและทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งประธานองคมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบกับมาตรา 12 มาตรา 13 และมาตรา16 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550

 

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานองคมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

 

และที่ถือเป็นพระราชดำรัสที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ยิ่ง ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัย รัชกาลที่ 9 สู่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10  แห่งราชวงศ์จักรี ที่ได้ประธานองคมนตรีที่ชื่อพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก  ที่มีเกียรติประวัติมายาวนานในเรื่องความซื่อสัตย์ และจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง โดยพระราชดำรัสนั้นของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ความว่า

 


“ขอบใจ และแสดงความยินดี ขอบใจที่มีน้ำใจช่วยงาน ที่ว่าคณะองคมนตรีในยุคนี้ ปัจจุบันนี้ก็จะได้รับการมอบภารกิจ ตลอดจนได้รับโอกาส หรือหน้าที่ ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงสถาบันของประเทศชาติ ตลอดจนแบ่งงานกันให้ละเอียดอีกครั้งว่าใคร ทำอะไร เรื่องทำงานก็จะให้ขอคำแนะนำ ตลอดจนปรับความสำคัญในการทำงานของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายเกี่ยวกับสถาบันและประเทศชาติ เป็นเรื่อของแผ่นดินมีเรื่องต่างๆที่จะมอบให้ก็มาก ดังที่ได้คุยกันนอกรอบแล้ว  

 

ขอขอบคุณและได้ป๋ามาเป็นประธาน ก็อุ่นใจแล้ว ทุกคนก็เคยทำหน้าที่ถวายรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน มีความสุข ตั้งใจทำงานได้ ขอบคุณ”

 

 

กระนั้นเรื่องราวนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะแม้ประเทศจะมีคามเปลี่ยนแปลงองค์พระมหากษัตริย์ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์  และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะองค์รัชทายาท  ได้รับการทูลเชิญขึ้นทรงราชย์ เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ  บดินทรเทพยวรางกูร แต่พล.อ.เปรมยังได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยให้ถวายงานในฐานะประธานองคมนตรีสืบเนื่องต่อไป

 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม


นอกจากนี้ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพระราชดำรัสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสถึง พล.อ.เปรม ด้วยคำว่า  “ขอขอบคุณ และได้ป๋ามาเป็นประธานก็อุ่นใจแล้ว  ทุกคนก็เคยทำหน้าที่ถวายรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน และคิดจะทำให้ประเทศเรามีความสุข …” นี่ยิ่งทำให้เห็นว่าพล.อ.เปรม เป็นข้าราชบริพารที่สถาบันเบื้องสูง ทรงไว้วางพระราชหฤทัยด้วยพระกรุณาธิคุณสูงสุดเป็นอย่างยิ่ง

 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม

 

 

เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสขอบคุณพล.อ.เปรม