หนุ่มเบนซ์เบี้ยวนัดขอขมาครอบครัวน้องดาริณ

  สืบเนื่องจากกรณีอุบัติเหตุ  เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 เวลาประมาณ 17.30น.  บริเวณ ถ.งามวงค์วาน ฝั่งขาออก ช่วงเลยห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน  ก่อนถึงใต้ทางด่วน มีรถชนกัน 4 คัน ได้แก่ รถเก๋งเบนซ์ , รถเก๋ง โตโยต้า วีออส  ,รถปิคอัพ อีซูซุ และรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก 8ราย เเละเสียชีวิต 1 ราย  รวมทั้งทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักในบริเวณเส้นทาง โดยรอบ

 

   ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น ของพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ นั้น ทางคนขับเป็นรถเก๋งเบนซ์แจ้งว่า ระหว่างทางทำแก้วน้ำเก็บความเย็นหล่นไปติดตรงแป้นเบรค ทำให้เหยียบเบรคไม่ได้ ก่อนชนดะคันอื่นๆ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 9 คน เป็นอาการบาดเจ็บทั่วไป ไม่มีสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดรอสอบสวนอีกครั้ง

 

 

  ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. 2562 ทาง  ร.ต.ท.วีระพัฒน์ กุยแก้ว รอง สว.สส. สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น คนขับรถเก๋งเบนซ์ สีดำ เป็นชายอายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง นำรถของเจ้านายมาขับ โดยจากคลิปกล้องหน้ารถเห็นว่า จุดเกิดเลยจากหน้าห้างฯเดอะมอลล์ งามวงศ์วานมาเล็กน้อย รถเบนซ์มาด้วยความเร็ว คล้ายจะเร่งแซงจากช่องทางขวามากลางแต่ไม่พ้น จากนั้นเห็นไฟเบรคสว่างขึ้นขณะชนปิคอัพกระเด็นตีลังกา

 

 

 

ต่อมาคนขับให้การว่ามีแก้วตกลงไปติดแป้นเบรคทำให้หยุดรถไม่ได้ ก่อนจะไปเกิดอุบัติเหตุอีกครั้งบริเวณก่อนถึงใต้ทางด่วน ชนอย่างแรงกับรถเก๋งโตโยต้า ทำให้กระเด็นไปกระแทกรถจักรยานยนต์ และจอดอยู่บริเวณดังกล่าวจนเจ้าหน้าที่มาถึง

 

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีรายงานว่า หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่นั่งโดยสารมากับรถยนต์โตโยต้าได้เสียชีวิต 1 ราย โดยสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้มีรถยนตเสียหาย 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน มีผู้บาดเจ็บ 8 คน และเสียชีวิต 1 คน และหนึ่งในผู้บาดเจ็บมีเด็กหญิงวัย 7 เดือนรวมอยู่ด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

 

 

และคุณแม่ของน้องดาริณ วัย 7 เดือนก็ได้ออกมาอัพเดทอาการของลูกสาวเป็นระยะๆ โดยล่าสุดน.ส.จริยา อายุ 30 ปี แม่ของน้องดาริณเล่าว่าเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2562 จากที่นัดกันไว้ตอน 2 ทุ่ม แต่ทว่าคนขับเบนซ์ไม่ได้เข้ามา ทางเราโทรไปทั้งวันว่าจะเข้ามาตอนกี่โมง คู่กรณีก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ และไม่ได้มีการแจ้งว่าจะให้ใครเข้ามาแทน แต่พอเวลา 19.30 น. มีคนเข้ามาสองคน บอกว่าเป็นญาติ ตนเป็นคนถามว่าเป็นใคร คนที่เดินทางมาก็แจ้งว่าเป็นน้องสาวต่างมารดา เดินทางมาแสดงความเสียใจ

ตนก็รู้สึกขอบคุณที่มาแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว ตนถามหาคนขับก็ทราบว่าอยู่ จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ที่งานศพ เมื่อเสร็จงานศพถึงจะกลับมา ตนอยากคุยกับคนขับเพื่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตนก็ได้ถามน้องสาวของคู่กรณีว่าจะรับผิดชอบยังไงบ้าง เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายมันสูง น้องสาวอีกฝ่ายก็ไม่รู้ไม่สามารถให้คำตอบอะไรเลย ตอนนี้ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลอะไร

จริงๆ วันที่นัดกันน่าจะได้คุยกันเพื่อตกลงกันว่าชีวิตเราและครอบครัวจะไปยังไงต่อ นี่ก็นานแล้วยังไม่มีการมาคุยกัน หลังจากวันที่ 6 มิ.ย. ตนคงต้องพึ่งพาญาติหรือจ้างพยาบาลมาดูแลก่อนและจ่ายเงินสำรองไปก่อน ตนไม่รู้ว่าจะได้เงินชดเชยคืนหรือเปล่าเพราะตนลางานได้ถึงแค่วันที่ 6 มิ.ย. ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินเดือน ซึ่งตนเป็นเสาหลักของครอบครัว

ตนอยากให้อีกฝ่ายมาเห็นว่าเราลำบาก พ่อแม่นอนอยู่แบบนี้ คนหนึ่งอาจพิการ คนหนึ่งสมองจะเป็นอะไร ลูกเรายังไม่ทราบว่าโตขึ้นจะเป็นอย่างไร เพราะหมอให้ดูอาการต่อไปเรื่อยๆ ตนอยากให้คู่กรณีคิดว่าถ้าเป็นครอบครัวเขาก็อาจมีเงินรักษา แต่ตนเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ตนแค่อยากให้มาดูแลเพื่อรักษาพยาบาลให้ชีวิตเราเดินต่อไปได้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ติดต่อมา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- ลุงหัวร้อนจอดรถขวางบ้านชาวบ้าน ที่แท้เป็นญาติ แก๊งยันหว่าง

- พบซากโลมาหัวบาตร ถูกคลื่นซัดลอยขึ้นชายหาดแหล่งท่องเที่ยว จ.ระยอง 2 วัน เจอ 2 ตัว

- งูหลามยาวเกือบ 3 เมตร ซ่อนอยู่ในผนังห้องนอน

- พ่อพาลูกสาวฝึกนอนนอกบ้านทุกวัน หลังทราบว่าน้องป่วย