ตำรวจคลองหลวง ยังไม่สามารถเจรจา นายพิชิต

ตำรวจคลองหลวง ยังไม่สามารถเจรจา นายพิชิต

จากกรณี นายพิชิต เชิดธรรม อายุ 36 ปี พ่อค้าส้ม ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุมในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิชอบ หลังพบยาบ้าจำนวน 52,000 เม็ด ในลังส้มที่รับจ้างเป็นผู้ขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.62 ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำธัญบุรี ต่อมา ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำการปล่อยตัวนายพิชิต เนื่องจากการสอบสวนของตำรวจพบว่านายพิชิตไม่มีการกระทำความผิด ซึ่งศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวอย่างบริสุทธิ์ ไม่ใช่การปล่อยตัวชั่วคราว หรือการประกันตัว เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

ตำรวจคลองหลวง ยังไม่สามารถเจรจา นายพิชิต

โดยล่าสุดความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น หลังได้รับการปล่อยตัวนายพิชิต ได้เดินทางเข้าพบ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอรับความช่วยเหลือ เยียวยา ซึ่งนายธวัชชัย กล่าวว่า หากพิจาณาเบื้องต้นกรณีของนายพิชิตยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินชดเชยการติดคุกฟรีหรือตกเป็นแพะตามหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับเงินค่าตอบแทน ค่าทดแทน ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 เนื่องจากยังไม่ได้เป็นจำเลยในคดีแต่ยังมีสิทธิ์ขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม เพราะเป็นการติดคุกโดยไม่ได้กระทำความผิดวันละ 500 บาทและค่าขาดประโยชน์ จาก การทำมาหากินอีกวันละอย่างน้อย 300 บาท รวมอย่างน้อยวันละ800บาท

 

ตำรวจคลองหลวง ยังไม่สามารถเจรจา นายพิชิต

โดยศูนย์บริการร่วมจะเสนอกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพพิจารณาว่ามีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งคดีแม้พนักงานสอบสวนจะกระทำการโดยชอบแต่อาจจะใช้ดุลพินิจที่ผิดวินัยบางอย่าง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตำรวจมีความพยายามจะเรียกนายพิชิต และครอบครัวไปเจรจาในวันนี้โดยมีข้อแม้ห้ามไม่ให้สื่อมวลชนหรือทนายความเข้าร่วมรับฟัง โดยทางด้านของสปริงนิวส์ ออนไลน์ได้เปิดคำพูดของนายวรกร โดยเจ้าตัวนั้นทราบว่านายพิชิตและครอบครัวได้ยกเลิกที่จะเดินทางไปพบตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื่องจากต้องเตรียมงานบวชแก้บนให้นายพิชิต ที่จะบวชทีวัดส้มเกลี้ยง จ.ปทุมธานี ในวันพรุ่งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายวรกร ว่าทราบเรื่องการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายระหว่างตำรวจกับครอบครัวนายพิชิต หรือไม่นายวรกร กล่าวว่าได้ทราบข่าวมาว่ามีความพยายามจะเรียกนายพิชิตและครอบครัวเข้าไปตกลงค่าเสียหาย แต่ห้ามไม่ให้ทนายความหรือสื่อมวลชน เข้าร่วมฟังการเจรจา นายวรกรจึงเกรงว่าครอบครัวนายพิชิต จะเสียเปรียบจึงให้นายพิชิตตัดสินใจเองว่าจะไปหรือไม่

ตำรวจคลองหลวง ยังไม่สามารถเจรจา นายพิชิต

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังน.ส.กัลยกร ชลพิทักษ์ ภรรยาของนายพิชิต ทราบว่าทางครอบครัวได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.คลองหลวงให้ไปพบจริง โดยตำรวจอ้างว่าจะมอบเงินช่วยเหลือค่าทำบุญงานบวช แต่ไม่มีการพูดถึงการเยียวยาความเสียหายที่สามีต้องติดคุกฟรี แต่อย่างใด ทางครอบครัวจึงตัดสินใจว่าจะยังไม่ไปพบตำรวจในวันนี้ ส่วนจะเดินหน้าฟ้องร้องตำรวจผู้ทำคดีหรือไม่นั้น ขอตัดสินใจหลังงานบวชของนายพิชิตอีกครั้ง