รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ

กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักในตอนนี้ เมื่อชาวเน็ตแห่แชร์ภาพเหตุการณ์ของหนุ่มคนหนึ่งที่ขับรถมากับพ่อ แต่แล้วการเดินทางไปทำงานในครั้งนี้ของเขากลับไม่ราบลื่น เพราะดันเจอเหตุการณ์นี้ซะก่อน

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ


โดนเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ สีแสวงเหาะ'ะ เกมมิ่ง'ง ได้โพสต์คลิปดังกล่าวพร้อมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "#แชร์ให้ถึงหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทีครับ เหตุเกิดอยู่ หน้าซอย พัฒนาการ 58 พอดีผมกับพ่อออกมาทำงาน ได้กลับรถ จะไป บางนา แล้วตรงนั้น พอดีกลับรถไป เปิดไฟเลี้ยวอะไรแล้ว ดูหน้าดูหลัง ว่ารถอยู่ไกล เลยพุงตัวออกไป แล้ว รถคันใน VDO ก็เบรกลากล้อ ตอนนั้นตกใจอยู่ เห็นว่าไม่มีอะไรเลยขับไปต่อ 

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ

 

 


ขับมาแปบเดียว รถคันนี้ มาปาดหน้า บอกว่ามึงขับรถเกียร์อะไร ลงมาปุ๊บ ต่อยพ่อผมมา 1 หมัด แล้วเค้าก็ให้ลงมาคุยกัน พ่อกับผมก็ยกมือขอโทษ แต่พี่เค้าไม่ยอม เลยไปเอาปืน อยู่หน้ารถมา แล้วก็บอกกับผมว่า มึงอยากตายตรงนี้หรอ 

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ

 

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ

 

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว  24 มิ.ย. 62 พ.ต.ท.ปิยากรณ์ ศรีวันทา รองผกก.สส.สน.ประเวศ ได้เปิดเผยว่า ได้ทำการตรวจสอบ บุคคลที่อยู่ในคลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่แล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศอย่างแน่นอน แต่ส่วนที่ว่าเป็นตำรวจหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบได้ ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก่อน อย่างไรก็ตามหากประชาชนทราบว่า บุคคลที่กล่าวอ้างเป็นตำรวจเป็นใคร สามารถให้ข้อมูลได้ที่ สน.ประเวศ

"ผมไม่เคยมีลูกน้องแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ พฤติกรรมแบบนี้ ดูแล้วไม่น่าใช่ตำรวจ แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องรอการตรวจสอบก่อน ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่" พ.ต.ท.ปิยากรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

ล่าสุดพันตำรวจเอกอภิวัขร์  ไชยศรีสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประเวศ เรียกคู่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาให้ปากคำพนักงานสอบสวนที่ห้องประชุมภายใน สน พร้อมให้ ผู้ก่อเหตุขอโทษผู้เสียหาย

นายขวัญใจ กงกวย ผู้เสียหายเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าโดยตนและครอบครัวมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างขับรถออกจากซอยพัฒนาการ 58 เพื่อไปรับช่างไม้ที่บางนา  และเปิดไฟเลี้ยวกลับรถโดยที่ไม่ว่ารถคู่กรณีวิ่งตรงมาด้วยความเร็วและเบรคกระทันหันอย่างแรง ยอมรับได้ยินเสียงเบรค แต่เข้าใจว่ารถคู่กรณีเบรครถแท็กซี่ที่ขับมาคู่กันจึงไม่ได้จอดรถลงไปดู หรือขอโทษ จนคู่กรณีขับปาดหน้าและลงมาต่อว่าด่าทอพร้อมข่มขู่ว่าเป็นตำรวจสายสืบ สน. ประเวศ ท้าทายให้มีการไปโรงพักและตรวจว่ามียาเสพติดในรถหรือไม่ อีกทั้งเดินไปที่รถทำท่าหยิบอะไรบางอย่างซึ่งทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกกลัวเนื่องจากเกรงว่าจะไปหยิบปืนมาทำร้าย แม้ว่าจะขอโทษแต่คู่กรณีก็ยังคงต่อว่าอย่างรุนแรง

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ

ขณะที่นายพลวัฒน์ กรณ์นันทลักษณ์ คู่กรณีบอกว่ามีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวทุกเช้าจะไปส่งของ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขับมาทางตรงคู่กับแท็กซี่ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถผู้เสียหายและรถยนต์อีกหนึ่งคันจอดเตรียมกลับรถซึ่งรถยนต์เห็นรถของตนหยุดไม่กลับ แต่รถผู้เสียหายคาดว่าอาจจะไม่เห็นกลับรถทันทีทำให้ตนต้องเบรกกระทันหันเกือบจะชนฟุตบาท และด้วยอารมณ์โกรธจึงขับปาดหน้าเข้าไปต่อว่าตามคลิป ยอมรับว่าอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเกรงว่าผู้เสียหายจะมีอาวุธมาทำร้ายเพราะลูกชายผู้เสียหายทันทีหยิบอาวุธในรถเหมือนกัน ซึ่งตนไม่มีอาวุธใดๆตามที่ขู่ผู้เสียหาย ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ร้อนของตนเองเป็นบทเรียนและฝากเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถด้วยความระมัดระวังและใจเย็นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่ตนที่ยอมรับผิดต่อสังคม

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาสี่โทรหาด้วยกันคือ  1 ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตราย 2 ข่มขู่ว่ามีปืนจนทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว 3 แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และ 4 ดูหมิ่นซึ่งหน้าด้วยการด่าทอ ซึ่งเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย

 

รวบแล้ว หนุ่มหัวร้อน ลั่นเป็นตำรวจ สน.ประเวศ